ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แม่ค้าเร่งทำขนมต้มแบบพื้นบ้านใช้ในการทำบุญในช่วงเทศกาลวันสารทเดือนสิบบุญแรกที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ โดยยังคงขายในราคาเดิม ถึงแม้วัตถุดิบที่ใช้มีราคาสูงขึ้น ทั้งข้าวเหนียว มะพร้าว และใบกะพ้อ
วันนี้ (19 ก.ย.) บรรยากาศก่อนถึงวันทำบุญสารทเดือนสิบบุญแรกที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ย.) บรรดาแม่ค้าต่างเร่งทำขนมต้ม ซึ่งเป็นหนึ่งในขนมที่จำเป็นต้องใช้ในการประกอบพิธี เช่น นางจิตรา ภักดีวานิช อายุ 56 ปี แม่ค้าทำขนมต้มในตลาดทรัพย์สินพลาซ่า ได้ทำขนมต้มแบบพื้นบ้านเพื่อเตรียมจำหน่ายในช่วงเทศกาลวันสารทเดือนสิบ นอกเหนือจาก ขนมลา ขนมเจาะหู ขนมพอง ขนมบ้า และขนมเทียน
โดยราคาของขนมต้มปีนี้ยังคงจำหน่ายในราคาเดิม ถึงแม้ว่าวัตถุดิบที่ใช้ทำจะมีราคาสูงขึ้น โดยข้าวเหนียว ราคาในช่วงนี้ราคากระสอบละ 1,670 บาท มะพร้าวลูกละ 20 บาท และใบกะพ้อในซึ่งมีราคาแพงตกยอดละ 5 บาท และยังขาดตลาด เนื่องจากใบกะพ้อซึ่งเป็นไม้ป่าหายาก จึงต้องสั่งซื้อจากอำเภอนาทวี
นางจิตรา ภักดีวานิช แม่ค้าทำขนมต้มในตลาดทรัพย์สินพลาซ่าสงขลา เปิดเผยว่า สำหรับราคาขนมต้มในปีนี้จำหน่ายร้อยละ 400 บาท หรือตกลูกละ 4 บาท ซึ่งยังคงเป็นราคาเดิมเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ยังคงจำหน่ายในราคาเดิมเพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นขาประจำ
สำหรับเทศกาลาทำบุญวันสารทเดือนสิบ เป็นงานบุญประเพณีของคนภาคใต้ หรือภาษาท้องถิ่นเรียกว่าวันชิงเปรต จะมีการทำบุญที่วัด 2 ครั้ง ครั้งแรก วันแรม 1 ค่ำ เดือนสิบเรียกว่า วันรับเปรต ครั้งที่ 2 วันแรม 15 ค่ำ เดือนสิบเรียกว่า วันส่งเปรต การทำบุญทั้ง 2 ครั้งเป็นการทำบุญที่แสดงถึงความกตัญญูต่อบุพการีผู้ล่วงลับไปแล้ว
ซึ่งได้รับการปล่อยตัวมาจากนรกที่ตนต้องจองจำอยู่เนื่องจากผลกรรมที่ตนได้เคยทำไว้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยจะเริ่มปล่อยตัวจากนรกในทุกวันแรม 1 ค่ำเดือน 10 เพื่อมายังโลกมนุษย์ โดยมีจุดประสงค์ในการมาขอส่วนบุญจากลูกหลานญาติพี่น้องที่ได้เตรียมการอุทิศไว้ให้เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ล่วงลับ หลังจากนั้น ก็จะกลับไปยังนรกในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งประเพณีวันสารทเดือนสิบโดยในส่วนใหญ่แล้วจะตรงกับเดือนกันยายน