ม็อบคึกตั้งโลงศพให้ “แม้ว-ปู-เต้น-ตู่” ด้าน “ส.ผู้สื่อข่าวนครฯ” วอนหยุดยุแยงคุกคามนักข่าว

 
นครศรีธรรมราช - ม็อบยางและปาล์มที่นครฯ กลับมาครึกครื้นอีกครั้งแล้ว มีการตั้งเวที กางเต็นท์ พร้อมทำโลงศพให้ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-ณัฐวุฒิ-จตุพร” เผยจะมีพิธีทำบุญเปรตเดือนสิบ และเผาพรุ่งนี้ ด้านสมาคมผู้สื่อข่าวเมืองพระร่อนแถลงการณ์ให้นักข่าวบางกลุ่มหยุดยุแยงปลุกปั่นผู้ชุมนุมเกลียดสื่อ พร้อมแสดงความเสียใจกับปรากฏการณ์คุกคามที่เกิดขึ้น
 
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครศรีธรรมราช ว่า วันนี้ (22 ก.ย.) บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มเกษตรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน ที่บริเวณแยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้มีการนำเวทีการปราศรัยมาติดตั้ง และกางเต็นท์ให้ผู้มาร่วมชุมนุมได้อาศัยร่มเงากันอีกครั้งแล้ว หลังจากมีการเรี่ยไรเงินช่วยเหลือจากผู้ชุมนุมด้วยกันเอง เพื่อสร้างบรรยากาศการชุมนุมให้ครึกครื้นยิ่งขึ้น โดยมีชาวบ้าน รวมถึงตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง หมุนเวียนกันขึ้นเวทีปราศรัยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา
 
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าวันนี้บริเวณหน้าเต็นท์ปราศรัย ผู้ชุมนุมได้มีการทำโลงศพจำลอง พร้อมมีพวงหรีด และดอกไม้จันทน์วางประดับไว้ด้วย โดยที่โลงศพดังกล่าวมีการเขียนตัวอักษรระบุชื่อ ผู้อยู่เบื้องหลังอำนาจรัฐ นายกรัฐมนตรี และแกนนำรัฐบาลที่เป็นคนภาคใต้ไว้เด่นชัด ได้แก่ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” และ “จตุพร พรหมพันธุ์” ติดอยู่ที่โลงศพ
 
โดยในเช้าวันพรุ่งนี้ (23 ก.ย.) กลุ่มผู้ชุมนุมจะมีการนิมนต์พระสงฆ์มารับภัตตาหารเพล และร่วมทำบุญเดือนสิบตามประเพณีของภาคใต้ ณ บริเวณที่จัดชุมนุมด้วย ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นพิธีสงฆ์ ก็จะมีการเผาโลงศพจำลองดังกล่าวเพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่า รัฐบาลไม่จริงใจในการช่วยเหลือบรรเทาความเดือนร้อนให้แก่ประชาชน ขณะเดียวกัน ด้านกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง จะรวบรวมมวลชนไปกดดันผู้ว่าฯ ถึงที่จวนใน อ.เมืองนครศรีธรรมราช ส่วนจะมีการยกระดับการชุมนุมหรือไม่นั้น ตัวแทนนักศึกษาบอกว่า ยังต้องรอให้นายกองค์การนักศึกษา ซึ่งกำลังเดินทางไปร่วมชุมนุมได้ประชุมหารือกันอีกครั้ง
 
ด้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช มีการกระจายตั้งจุดตรวจป้องกันอาชญากรรม และจุดบริการเพื่ออำนวยความสะดวกการใช้เส้นทางเลี่ยงพื้นที่การชุมนุมประท้วงโดยรอบพื้นที่ชุมนุมในรัศมีประมาณ 15 กิโลเมตร รวม 4 จุดคือ ที่บริเวณบ้านไม้เสียบ ต.เกาะขัน, บ้านตูล ต.บ้านตูล, แยกสวนผัก และแยกน้ำตก ต.กะปาง โดยหากประชาชนที่สัญจรไปมาต้องการเข้าไปในพื้นที่บริเวณจุดชุมนุม ต้องลงชื่อเพื่อเป็นหลักฐานไว้ที่จุดตรวจทั้ง 4 จุด แต่ไม่มีการขัดขวาง หรือห้ามเข้าแต่อย่างใด
 
วันเดียวกันนี้ สมาคมผู้สื่อข่าวนครศรีธรรมราช ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ระบุว่า เนื่องด้วยการชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราของพี่น้องประชาชนใน อ.ชะอวด เกิดขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. และมีการเคลื่อนไหวในการชุมนุมมาโดยตลอด สมาคมผู้สื่อข่าวนครศรีธรรมราช ได้ติดตามทำหน้าที่ของสื่อสารมวลชนมาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน พบว่า ผู้ชุมนุมบางกลุ่มมีท่าทีแข็งกร้าว คุกคาม และถึงขั้นทำลายทรัพย์สินอุปกรณ์การทำข่าวของสื่อมวลชนอย่างที่ปรากฏในเชิงประจักษ์แล้ว ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวหลายสำนักที่ลงพื้นที่พยายามพูดคุยทำความเข้าใจมาโดยตลอด แม้ว่าจะมีความผ่อนคลายไปบ้างแล้วก็ตาม
 
แต่ในปัจจุบันพบว่า ผู้สื่อข่าวที่ทำหน้าที่ในพื้นที่ ทั้งจากผู้สื่อข่าวพื้นที่เอง ผู้สื่อข่าวจากส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่หลายคนตกอยู่ในสภาพวิตกกังวลต่อสวัสดิภาพในชีวิต อุปกรณ์ และทรัพย์สินในการทำหน้าที่ในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง โดยพบข้อมูลสำคัญต่อท่าทีดังกล่าวอาจเกิดจากการสร้างทัศนคติที่เป็นลบ ปลุกปั่นให้เกิดความหวาดระแวง และมีพฤติการณ์คุกคามสื่อด้วยกันเอง ด้วยการบันทึกภาพ และนำไปสร้างกระแสในทำนองว่า เป็นคนของทางการ โดยสื่อมวลชนบางกลุ่ม ซึ่งไม่ได้สร้างผลดีให้แก่ฝ่ายใดเลย สมาคมผู้สื่อข่าวนครศรีธรรมราช จึงแถลงการณ์ดังต่อไปนี้
 
1.สมาคมผู้สื่อข่าวนครศรีธรรมราช มีความเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับพฤติกรรมของกลุ่มสื่อสารมวลชนบางกลุ่มที่มีพฤติกรรมยุยง ปลุกปั่น สร้างความหวาดระแวงให้แก่ผู้ชุมนุมจนมีท่าทีที่ไม่เป็นมิตรต่อผู้สื่อข่าวในอีกหลายสำนักในขณะปฏิบัติหน้าที่
 
2.สมาคมผู้สื่อข่าวนครศรีธรรมราช ขอยืนยันว่า ผู้สื่อข่าวทุกสำนักต่างตั้งใจมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อนำเสนอข้อมูล ภาพข่าวให้ดีที่สุด และเป็นไปอย่างรอบด้าน เพื่อความเป็นธรรมในสังคม และพื้นที่การสื่อสาร
 
3.สมาคมผู้สื่อข่าวนครศรีธรรมราช เข้าใจเป็นอย่างดีในเจตคติของผู้ชุมนุมที่เรียกร้องความเป็นธรรม และยินดีปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอย่างเต็มที่ และพร้อมที่จะเป็นสื่อกลางในการประสานความเข้าใจในการสื่อสารที่ตรงกันกับทุกฝ่าย