วานนี้ (22 ก.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า กรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้ข่าวว่า การแก้ไขปัญหาม็อบสวนยาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ที่ไม่ให้มีการเจรจา หลังตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ พบนายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ไม่เป็นความจริง ตนได้ตรวจสอบทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายวิสาร ไม่มีใครพูดเรื่องนี้ เป็นเพียงการบิดเบือนข้อเท็จจริงให้เกิดความแตกแยกในหมู่พี่น้องชาวสวนยาง
ทั้งนี้ได้ตรวจสอบ พบว่าขณะนี้เฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช มีประชาชนมาขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 7 หมื่นราย ซึ่งในวันที่ 24 ก.ย.นี้ จะมีการจ่ายเงินชดเชย 450 รายแรก จึงเป็นสิ่งที่สะท้อนว่ารัฐบาลมีความจริงใจ แต่สิ่งที่นายอภิสิทธิ์ บิดเบือน ทำตัวเป็นบ่าง เสี้ยมให้เกิดความขัดแย้ง โดยเฉพาะในภาคใต้ อย่างไรก็ตามตนได้ตรวจสอบข้อมูล ที่มีปัญหาอยู่ โดยเฉพาะพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีการชุมนุมของวัยรุ่นจากนอกพื้นที่ 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมาจากจังหวัดใกล้เคียง อาทิ พัทลุง ตรัง สงขลา ชุมพร สุราษฎร์ จึงอยากถามว่ากลุ่มผู้ชุมนุม มีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่
นอกจากนี้กรณี ส.ส.ใต้พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมกันแถลงข่าว เรียกร้องการช่วยเหลือพี่น้องชาวสวนยางและปาล์ม ที่รัฐสภา ว่า เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าแถลงแล้วมีผลประโยชน์ทับซ้อน และอ้างเกษตรกร เพราะล่าสุดตนไปดูข่าวจากเว็บไซต์ พบว่า มี ส.ส.ใต้ พรรคประชาธิปัตย์ ทำสวนยางจำนวนมาก แต่ในขณะนี้มีพี่น้องชาวสวนยางออกมาตอบรับการดำเนินการของรัฐบาลกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ และอีก 5 เปอร์เซ็นต์ บอกไม่ยอมรับ ซึ่งฝ่ายค้าน กำลังมองว่า รัฐบาลมีปัญหา แก้ไขไม่ตรงประเด็นและไม่ตอบโจทย์
ทั้งนี้ได้ไปตรวจสอบการแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช. ของส.ส.ภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎ์ธานี มีรายได้จากสวนยางและสวนปาล์ม กว่า 41 ล้านบาท นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ นายเชน เทือกสุบรรณ นายธานี เทือกสุบรรณ นายเจือ ราชสีห์ นายไตรงรงค์ สุวรรณคีรี นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ล้วนแล้วแต่มีรายได้จากการทำสวนยางและสวนปาล์มนับล้านบาท จึงน่าแปลกใจว่า ส.ส.ฝ่ายค้าน ประกอบอาชีพทำสวนยางสวนปาล์ม และมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ตนจึงตั้งข้อสังเกตและถามว่านายสุเทพ มีสวนยางและสวนปาล์ม นับหมื่นไร่หรือไม่
นายพร้อมพงศ์ได้ให้ทีมกฎหมายตรวจสอบ และอาจยื่นเอาผิดบุคคลเหล่านี้ ที่แสดงบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช.ว่า ทำสวนยาง สวนปาล์ม และอ้างให้พี่น้อง สุดท้ายเรียกร้องเพื่อตัวเองหรือไม่ และตนจะไปตรวจสอบว่า ถือครองอยู่เท่าไหร่
ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ตามปกติในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ นักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย-สิงคโปร์ เดินทางเข้ามาประมาณ 40-50 คันรถบัส และโดยเฉพาะช่วงการทำบุญในเทศกาลเดือนสิบจะมีมากขึ้นหลายเท่าตัว แต่ขณะนี้บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา แต่ละสัปดาห์จะมีเข้ามาเพียง 3-4 บัสเท่านั้นลดลงจากเดิมกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ โดยมีผลกระทบมาจากการชุมนุมเรียกร้องราคายางพาราที่ยืดเยื้อและปิดถนนยาวนานถึง 1 เดือนเต็ม ส่งผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและการขนส่งอย่างชัดเจน
นายสวัสดิ์ กฤติรัชตนันต์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และ ที่ปรึกษาสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า หากเป็นไปได้อยากขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้หยุดชุมนุมในช่วงเทศกาลเดือนสิบสักระยะก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหลานชาวนครศรีธรรมราชและนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเข้ามาร่วมกิจกรรมทำบุญและท่องเที่ยวช่วงเทศกาลบุญสารทเดือนสิบ และเมื่อพ้นจากช่วงงานเทศกาลเดือนสิบและเกษตรกรยังไม่พอใจในมาตรการการช่วยเหลือของรัฐบาลก็ค่อยมารวมตัวประท้วงกันอีกครั้งก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนของการจัดกิจกรรมงานเทศกาลเดือนสิบประจำปี 2556 ได้มีการจัดกิจกรรมขึ้นอย่างยิ่งใหญ่หลากหลายกว่าปีก่อน ๆ โดยมีการแยกจัดกิจกรรมในหลายจุด เช่น ศูนย์การประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร กิจกรรมเดือนสิบย้อนยุคที่วัดหน้าพระบรมธาตุ การประกวดมโนราห์-หนังตะลุงชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯสยามบรมราชกุมารี ที่สวนศรีธรรมโศกราช กิจกรรมตลาดพื้นบ้านต้อนรับลูกหลานเมืองนคร ที่ศาลาประดู่หก การแสดงดนตรียุคใหม่และการจำหน่ายอาหารและสินค้าในท้องถิ่น ที่ลานราชพฤกษ์ และศูนย์รวมทุกกิจกรรม อาทิ การออกร้านกาชาด การประกวดนางสาวนครศรีธรรมราช การจำหน่ายสินค้า 4 ภาค การแสดงดนตรีของศิลปินดารา นักร้องนักแสดง มหรสพพื้นบ้าน การจำหน่ายอาหารจากชมรมภัตตาคารและร้านอาหารเมืองนครศรีธรรมราช ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 “ทุ่งท่าลาด” รวมทั้งจุดใจกลางเมืองที่เป็นกิจกรรมหัวใจหลักของการก่อเกิดงานเทศกาลบุญสารทเดือนสิบ คือการจัดนิทรรศการ การประกวดหุ่นเปรต –พาเหรดเปรต มหกรรมรำวงเวียนครก การออกร้านจำหน่ายสินค้าจากทั่วประเทศ ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช
นางบังอร แซ่ตั้ง ผู้รับเหมาจัดงานเทศกาลเดือนสิบจังหวัดนครศรีธรรมราช ประจำปี 2556 กล่าวว่า เป็นปีที่แรกที่บริษัทของตนได้รับความไว้วางใจให้รับผิดชอบจัดงานเทศกาลเดือนสิบจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงทุ่มทุนจัดกิจกรรมอย่างหลากหลายยิ่งใหญ่กว่าทุก ๆ ปีที่ผ่านมา แม้จะมีปัญหาเรื่องการชุมนุมประท้วงของเกษตรกรสวนยาง แต่เราไม่ได้ลดกิจกรรมในการจัดงานลงแม้แต่น้อย แต่ยังเพิ่มงบประมาณในการบริหารจัดการมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเรื่องมรสุมที่การจัดงานทุกปีจะประสบกับปัญหาฝนตกหนัก ลมพัดกรรโชก ในปี้นี้ได้ทุ่มงบประมาณในการปรับปรุงพื้นที่ รวมทั้งใช้เต้นท์โค้งขนาดยักษ์กางคลุม 80 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่จัดงาน แม้ฝนจะตกหนัก ลมจะพัดกรรโชกก็ไม่มีปัญหาและอุปสรรคในการเดินเที่ยวในบริเวณงานเทศกาลเดือนสิบอย่างแน่นอน
“ที่สำคัญเพื่อให้ประชาชนได้สนุกสนานและชมศิลปินดาราคนโปรดกันอย่างจุใจ เพราะได้ว่าจ้างศิลปินดารา นักร้อง นักแสดง ชั้นแนวหน้าของเมืองไทยมาร่วมกิจกรรมตลอด 10 วัน 10 คืน จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมาเที่ยวงานเดือนสิบกันได้อย่างเต็มที่” นางบังอร กล่าว
อีกด้านว่าที่ ร.ต.ฐิตวัฒ เชาวลิต รอง ผวจ.นครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการร่วมเฉพาะกิจการแก้ไขปัญหาการชุมนุมประท้วงราคายางพาราและปาล์มน้ำมันตกต่ำในจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุมเรียกร้องของเกษตรชาวสวนยางพาราในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี พล.ต.ต.กิตติสัณห์ เดชสุนทรวัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอำเภอชะอวด ผู้แทนฝ่ายทหาร ตำรวจ ประชาสัมพันธ์จังหวัด สำนักทางหลวงที่ 14 เข้าร่วมประชุม
นายสมนึก เหมมณี เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กล่าวยืนยันว่าในวันที่ 24 กันยายนนี้ มีการจ่ายเงินชดเชยค่าปัจจัยการผลิตตามนโยบายของรัฐบาลให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางพาราของจังหวัดนครศรีธรรมราช อย่างแน่นอน โดยมีเกษตรกรจากอำเภอชะอวด อ.ร่อนพิบูลย์ และ อ.จุฬาภรณ์ ที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกร ผ่านการตรวจสอบแปลงกรีดยางครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ และได้รับใบรับรองแล้ว ประมาณ 400 คน เพื่อนำร่องเป็นที่แรก เป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางว่าได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างแน่นอน
โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. จะนำตู้กดเงินอัตโนมัติ หรือ เอทีเอ็ม ไปบริการให้แก่เกษตรกรได้กดเงินถึงสถานที่จ่ายเงิน ณ ศาลาประชาคมที่ว่าการอำเภอชะอวด อย่างไรก็ตามหากเกษตรกรไม่สะดวกที่จะเบิกเงิน ณ ศาลาประชาคมที่ว่าการอำเภอชะอวด ก็จะสามารถกดเงินจากตู้เอทีเอ็มของ ธ.ก.ส.ได้ทุกแห่ง เช่นกัน ซึ่งในพื้นที่อำเภอชะอวดมีอยู่ 3 จุด คือ ที่บ้านไม้เสียบ บ้านควนหนองหงษ์ และ ที่ ธ.ก.ส. สาขาชะอวด
“สำหรับการขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยางพารา ขณะนี้มีเกษตรกรจังหวัดนครศรีธรรมราช ขึ้นทะเบียนแล้วประมาณ 78,000 ราย จากเกษตรกรทั้งหมดประมาณ 111,761 ราย เฉพาะอำเภอชะอวดขึ้นทะเบียนแล้วจำนวน 3,900 ราย จากเป้าหมาย 4,967 ราย คิดเป็นร้อยละ 80 อ.จุฬาภรณ์ ขึ้นทะเบียนแล้ว จำนวน 3,270 ราย จากเป้าหมาย4,501 ราย คิดเป็นร้อยละ 78 และ อ.ร่อนพิบูลย์ ขึ้นทะเบียนแล้ว จำนวน 4,062 ราย จากเป้าหมาย 5,100 ราย คิดเป็นร้อยละ 80”
ส่วนการประกาศใช้พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 นั้น มติที่ประชุมศูนย์อำนวยการร่วม ฯ มีมติให้คงมีการประกาศใช้ต่อไปอีก 1 วัน คือ เรื่องห้ามมิให้บุคคลใด ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่ได้อาศัยอยู่ในชุมชน เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดในพื้นที่การชุมนุมบริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ ต.ควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ในระยะทางบนถนน 1 กิโลเมตร จากจุดชุมนุม(สี่แยกควนหนองหงส์) ของทางหลวงหมายเลข 41ตอนอำเภอร่อนพิบูลย์ – ไม้เสียบ ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 332+700 ถึง 333+700 และทางหลวงหมายเลข4151 ตอนบ่อล้อ –ลำทับ ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 27+600 ถึง 28+600 ในช่วงเวลา 17.00น. ของวันที่ 22 กันยายน ถึงเวลา 05.00 น. ของวันที่ 23 กันยายน 2556
ขณะที่การตั้งด่านตรวจเข้มของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวม 4 จุดในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรได้ 9 ราย พกพาอาวุธมีด 4 ราย พร้อมหนังสติ๊กและกระสุนที่เป็นลูกหิน 10 ก้อน จึงควบคุมตัวไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
**ม็อบยางคึก ตั้งโลงศพ "ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์"
สถานการณ์การเรียกร้องราคายางพาราบริเวณแยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 9 ในช่วงเช้า กลุ่มผู้ชุมนุมยังบางตา เพราะส่วนใหญ่ไปกรีดยาง แล้วจะกลับมารวมตัวกันใหม่ ในช่วงเวลา 10.00 - 11.00 น. ในขณะที่ น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทีมทนายความของกลุ่มผู้ชุมนุม กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ล่าสุด ได้นำผู้ชุมนุมอีก 4 คน ที่โดนหมายจับเข้าไปมอบตัวกับตำรวจและได้รับการประกันตัวมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้มีชาวสวนยางที่มามอบตัวกับตำรวจ และได้รับการประกันตัวไปแล้ว 12 คน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มชาวบ้านอีก 10 กว่าคน ที่ทางตำรวจได้ระบุว่า ได้ไปขออำนาจศาลเพื่อออกหมายจับ แต่ทางศาลได้ให้ตำรวจไปออกหมายเรียกมาก่อน ทั้งนี้ ทาง น.ส.พวงทิพย์ กล่าวต่อว่า ทางชาวบ้านได้สะท้อนถึงความไม่สบายใจ ที่ทางตำรวจมีการตั้งด่านตรวจอย่างเข้มงวด มีการค้นตัว ตรวจบัตรประชาชน เพื่อสกัดกั้นไม่ให้คนเข้าไปในที่ชุมนุม รวมถึงไม่อนุญาตให้นำมีดกรีดยางผ่านด่าน เพราะถือว่าเป็นอาวุธ ทางชาวบ้านจึงอยากขอให้ทางตำรวจผ่อนปรนการเข้มงวดตรงนี้ลงด้วย
ได้มีการนำเวทีการปราศรัย และมีเต็นท์วางไว้ให้ผู้มาร่วมชุมนุมได้อาศัยร่มเงากันอีกครั้ง หลังจากมีการระดมทุนจากกลุ่มเกษตรกร เพื่อสร้างบรรยากาศการชุมนุมให้คึกคักมากยิ่งขึ้น โดยมีชาวบ้านรวมถึง ตัวแทนนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง หมุนเวียนกันขึ้นเวทีปราศรัย ทั้งนี้บริเวณหน้าเตนท์ชุมนุมได้มีการทำโลงศพจำลอง พร้อมพวงหรีด และดอกไม้จันทน์ วางไว้ใกล้เวที โดยที่โลงศพดังกล่าวมีชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. เพื่อแสดงสัญลักษณ์
กลุ่มเกษตรกร ได้จัดพิมพ์เอกสารไม่เห็นด้วย กับแนวทางการช่วยเหลือของรัฐบาล ที่จะมีการช่วยเหลือปัจจัยการผลิตยางพารา 2,520 บาทต่อไร่ แจกจ่ายกับผู้มาชุมนุม ซึ่งรัฐบาลมีกำหนดการที่จะมอบเงินช่วยเหลือให้กับเกตรกร จำนวน 100 ราย ในวันที่ 24 กันยายน นี้ ที่ศาลาประชาคม อ.ชะอวด และจากกรณีดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมกำลัง 2 กองร้อย เพื่อรักษาความปลอดภัย เพราะเกรงว่า จะมีเกษตรกรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันบางส่วน ที่ไม่เห็นด้วย มาสร้างความวุ่นวาย
เกษตรกร เดินทางสมทบร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก มีตัวแทนเกษตรกร และนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง สลับการขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาล ระบุว่า ไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา และการช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิตไม่ใช่การแก้ไขปัญหาอย่างที่กล่าวอ้าง
วันที่ 23 ก.ย.เกษตรกรจะนิมนต์พระสงฆ์มารับภัตตาหารเพล และร่วมทำบุญเดือนสิบ ขอพรพระสงฆ์ ที่บริเวณชุมนุม เสร็จสิ้นพิธีสงฆ์ จะมีการเผาโลงศพจำลองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่า รัฐบาลไม่จริงใจในการช่วยเหลือบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชน
ด้านนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกประกาศต่อการใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 อีก 24 ชั่วโมง ห้ามเข้าพื้นที่การชุมนุมอย่างเด็ดขาด ขณะเกษตรกรสวนยางพาราบางส่วน ระบุว่า จะไม่เดินทางไปรับเงินช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิตในวันอังคาร ที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน
ด้านกลุ่มนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง จะรวบรวมมวลชนไปกดดัน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่จวนผู้ว่าฯ ส่วนจะมีการยกระดับการชุมนุมหรือไม่นั้น ตัวแทนนักศึกษา รอนายกองค์การนักศึกษา ซึ่งกำลังเดินทางมาร่วมประชุมกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ได้ตรวจสอบ พบว่าขณะนี้เฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช มีประชาชนมาขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 7 หมื่นราย ซึ่งในวันที่ 24 ก.ย.นี้ จะมีการจ่ายเงินชดเชย 450 รายแรก จึงเป็นสิ่งที่สะท้อนว่ารัฐบาลมีความจริงใจ แต่สิ่งที่นายอภิสิทธิ์ บิดเบือน ทำตัวเป็นบ่าง เสี้ยมให้เกิดความขัดแย้ง โดยเฉพาะในภาคใต้ อย่างไรก็ตามตนได้ตรวจสอบข้อมูล ที่มีปัญหาอยู่ โดยเฉพาะพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีการชุมนุมของวัยรุ่นจากนอกพื้นที่ 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมาจากจังหวัดใกล้เคียง อาทิ พัทลุง ตรัง สงขลา ชุมพร สุราษฎร์ จึงอยากถามว่ากลุ่มผู้ชุมนุม มีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่
นอกจากนี้กรณี ส.ส.ใต้พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมกันแถลงข่าว เรียกร้องการช่วยเหลือพี่น้องชาวสวนยางและปาล์ม ที่รัฐสภา ว่า เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าแถลงแล้วมีผลประโยชน์ทับซ้อน และอ้างเกษตรกร เพราะล่าสุดตนไปดูข่าวจากเว็บไซต์ พบว่า มี ส.ส.ใต้ พรรคประชาธิปัตย์ ทำสวนยางจำนวนมาก แต่ในขณะนี้มีพี่น้องชาวสวนยางออกมาตอบรับการดำเนินการของรัฐบาลกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ และอีก 5 เปอร์เซ็นต์ บอกไม่ยอมรับ ซึ่งฝ่ายค้าน กำลังมองว่า รัฐบาลมีปัญหา แก้ไขไม่ตรงประเด็นและไม่ตอบโจทย์
ทั้งนี้ได้ไปตรวจสอบการแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช. ของส.ส.ภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎ์ธานี มีรายได้จากสวนยางและสวนปาล์ม กว่า 41 ล้านบาท นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ นายเชน เทือกสุบรรณ นายธานี เทือกสุบรรณ นายเจือ ราชสีห์ นายไตรงรงค์ สุวรรณคีรี นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ล้วนแล้วแต่มีรายได้จากการทำสวนยางและสวนปาล์มนับล้านบาท จึงน่าแปลกใจว่า ส.ส.ฝ่ายค้าน ประกอบอาชีพทำสวนยางสวนปาล์ม และมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ตนจึงตั้งข้อสังเกตและถามว่านายสุเทพ มีสวนยางและสวนปาล์ม นับหมื่นไร่หรือไม่
นายพร้อมพงศ์ได้ให้ทีมกฎหมายตรวจสอบ และอาจยื่นเอาผิดบุคคลเหล่านี้ ที่แสดงบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช.ว่า ทำสวนยาง สวนปาล์ม และอ้างให้พี่น้อง สุดท้ายเรียกร้องเพื่อตัวเองหรือไม่ และตนจะไปตรวจสอบว่า ถือครองอยู่เท่าไหร่
ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ตามปกติในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ นักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย-สิงคโปร์ เดินทางเข้ามาประมาณ 40-50 คันรถบัส และโดยเฉพาะช่วงการทำบุญในเทศกาลเดือนสิบจะมีมากขึ้นหลายเท่าตัว แต่ขณะนี้บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา แต่ละสัปดาห์จะมีเข้ามาเพียง 3-4 บัสเท่านั้นลดลงจากเดิมกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ โดยมีผลกระทบมาจากการชุมนุมเรียกร้องราคายางพาราที่ยืดเยื้อและปิดถนนยาวนานถึง 1 เดือนเต็ม ส่งผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและการขนส่งอย่างชัดเจน
นายสวัสดิ์ กฤติรัชตนันต์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และ ที่ปรึกษาสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า หากเป็นไปได้อยากขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้หยุดชุมนุมในช่วงเทศกาลเดือนสิบสักระยะก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหลานชาวนครศรีธรรมราชและนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเข้ามาร่วมกิจกรรมทำบุญและท่องเที่ยวช่วงเทศกาลบุญสารทเดือนสิบ และเมื่อพ้นจากช่วงงานเทศกาลเดือนสิบและเกษตรกรยังไม่พอใจในมาตรการการช่วยเหลือของรัฐบาลก็ค่อยมารวมตัวประท้วงกันอีกครั้งก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนของการจัดกิจกรรมงานเทศกาลเดือนสิบประจำปี 2556 ได้มีการจัดกิจกรรมขึ้นอย่างยิ่งใหญ่หลากหลายกว่าปีก่อน ๆ โดยมีการแยกจัดกิจกรรมในหลายจุด เช่น ศูนย์การประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร กิจกรรมเดือนสิบย้อนยุคที่วัดหน้าพระบรมธาตุ การประกวดมโนราห์-หนังตะลุงชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯสยามบรมราชกุมารี ที่สวนศรีธรรมโศกราช กิจกรรมตลาดพื้นบ้านต้อนรับลูกหลานเมืองนคร ที่ศาลาประดู่หก การแสดงดนตรียุคใหม่และการจำหน่ายอาหารและสินค้าในท้องถิ่น ที่ลานราชพฤกษ์ และศูนย์รวมทุกกิจกรรม อาทิ การออกร้านกาชาด การประกวดนางสาวนครศรีธรรมราช การจำหน่ายสินค้า 4 ภาค การแสดงดนตรีของศิลปินดารา นักร้องนักแสดง มหรสพพื้นบ้าน การจำหน่ายอาหารจากชมรมภัตตาคารและร้านอาหารเมืองนครศรีธรรมราช ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 “ทุ่งท่าลาด” รวมทั้งจุดใจกลางเมืองที่เป็นกิจกรรมหัวใจหลักของการก่อเกิดงานเทศกาลบุญสารทเดือนสิบ คือการจัดนิทรรศการ การประกวดหุ่นเปรต –พาเหรดเปรต มหกรรมรำวงเวียนครก การออกร้านจำหน่ายสินค้าจากทั่วประเทศ ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช
นางบังอร แซ่ตั้ง ผู้รับเหมาจัดงานเทศกาลเดือนสิบจังหวัดนครศรีธรรมราช ประจำปี 2556 กล่าวว่า เป็นปีที่แรกที่บริษัทของตนได้รับความไว้วางใจให้รับผิดชอบจัดงานเทศกาลเดือนสิบจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงทุ่มทุนจัดกิจกรรมอย่างหลากหลายยิ่งใหญ่กว่าทุก ๆ ปีที่ผ่านมา แม้จะมีปัญหาเรื่องการชุมนุมประท้วงของเกษตรกรสวนยาง แต่เราไม่ได้ลดกิจกรรมในการจัดงานลงแม้แต่น้อย แต่ยังเพิ่มงบประมาณในการบริหารจัดการมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเรื่องมรสุมที่การจัดงานทุกปีจะประสบกับปัญหาฝนตกหนัก ลมพัดกรรโชก ในปี้นี้ได้ทุ่มงบประมาณในการปรับปรุงพื้นที่ รวมทั้งใช้เต้นท์โค้งขนาดยักษ์กางคลุม 80 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่จัดงาน แม้ฝนจะตกหนัก ลมจะพัดกรรโชกก็ไม่มีปัญหาและอุปสรรคในการเดินเที่ยวในบริเวณงานเทศกาลเดือนสิบอย่างแน่นอน
“ที่สำคัญเพื่อให้ประชาชนได้สนุกสนานและชมศิลปินดาราคนโปรดกันอย่างจุใจ เพราะได้ว่าจ้างศิลปินดารา นักร้อง นักแสดง ชั้นแนวหน้าของเมืองไทยมาร่วมกิจกรรมตลอด 10 วัน 10 คืน จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมาเที่ยวงานเดือนสิบกันได้อย่างเต็มที่” นางบังอร กล่าว
อีกด้านว่าที่ ร.ต.ฐิตวัฒ เชาวลิต รอง ผวจ.นครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการร่วมเฉพาะกิจการแก้ไขปัญหาการชุมนุมประท้วงราคายางพาราและปาล์มน้ำมันตกต่ำในจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุมเรียกร้องของเกษตรชาวสวนยางพาราในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี พล.ต.ต.กิตติสัณห์ เดชสุนทรวัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอำเภอชะอวด ผู้แทนฝ่ายทหาร ตำรวจ ประชาสัมพันธ์จังหวัด สำนักทางหลวงที่ 14 เข้าร่วมประชุม
นายสมนึก เหมมณี เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กล่าวยืนยันว่าในวันที่ 24 กันยายนนี้ มีการจ่ายเงินชดเชยค่าปัจจัยการผลิตตามนโยบายของรัฐบาลให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางพาราของจังหวัดนครศรีธรรมราช อย่างแน่นอน โดยมีเกษตรกรจากอำเภอชะอวด อ.ร่อนพิบูลย์ และ อ.จุฬาภรณ์ ที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกร ผ่านการตรวจสอบแปลงกรีดยางครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ และได้รับใบรับรองแล้ว ประมาณ 400 คน เพื่อนำร่องเป็นที่แรก เป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางว่าได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างแน่นอน
โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. จะนำตู้กดเงินอัตโนมัติ หรือ เอทีเอ็ม ไปบริการให้แก่เกษตรกรได้กดเงินถึงสถานที่จ่ายเงิน ณ ศาลาประชาคมที่ว่าการอำเภอชะอวด อย่างไรก็ตามหากเกษตรกรไม่สะดวกที่จะเบิกเงิน ณ ศาลาประชาคมที่ว่าการอำเภอชะอวด ก็จะสามารถกดเงินจากตู้เอทีเอ็มของ ธ.ก.ส.ได้ทุกแห่ง เช่นกัน ซึ่งในพื้นที่อำเภอชะอวดมีอยู่ 3 จุด คือ ที่บ้านไม้เสียบ บ้านควนหนองหงษ์ และ ที่ ธ.ก.ส. สาขาชะอวด
“สำหรับการขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยางพารา ขณะนี้มีเกษตรกรจังหวัดนครศรีธรรมราช ขึ้นทะเบียนแล้วประมาณ 78,000 ราย จากเกษตรกรทั้งหมดประมาณ 111,761 ราย เฉพาะอำเภอชะอวดขึ้นทะเบียนแล้วจำนวน 3,900 ราย จากเป้าหมาย 4,967 ราย คิดเป็นร้อยละ 80 อ.จุฬาภรณ์ ขึ้นทะเบียนแล้ว จำนวน 3,270 ราย จากเป้าหมาย4,501 ราย คิดเป็นร้อยละ 78 และ อ.ร่อนพิบูลย์ ขึ้นทะเบียนแล้ว จำนวน 4,062 ราย จากเป้าหมาย 5,100 ราย คิดเป็นร้อยละ 80”
ส่วนการประกาศใช้พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 นั้น มติที่ประชุมศูนย์อำนวยการร่วม ฯ มีมติให้คงมีการประกาศใช้ต่อไปอีก 1 วัน คือ เรื่องห้ามมิให้บุคคลใด ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่ได้อาศัยอยู่ในชุมชน เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดในพื้นที่การชุมนุมบริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ ต.ควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ในระยะทางบนถนน 1 กิโลเมตร จากจุดชุมนุม(สี่แยกควนหนองหงส์) ของทางหลวงหมายเลข 41ตอนอำเภอร่อนพิบูลย์ – ไม้เสียบ ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 332+700 ถึง 333+700 และทางหลวงหมายเลข4151 ตอนบ่อล้อ –ลำทับ ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 27+600 ถึง 28+600 ในช่วงเวลา 17.00น. ของวันที่ 22 กันยายน ถึงเวลา 05.00 น. ของวันที่ 23 กันยายน 2556
ขณะที่การตั้งด่านตรวจเข้มของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวม 4 จุดในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรได้ 9 ราย พกพาอาวุธมีด 4 ราย พร้อมหนังสติ๊กและกระสุนที่เป็นลูกหิน 10 ก้อน จึงควบคุมตัวไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
**ม็อบยางคึก ตั้งโลงศพ "ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์"
สถานการณ์การเรียกร้องราคายางพาราบริเวณแยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 9 ในช่วงเช้า กลุ่มผู้ชุมนุมยังบางตา เพราะส่วนใหญ่ไปกรีดยาง แล้วจะกลับมารวมตัวกันใหม่ ในช่วงเวลา 10.00 - 11.00 น. ในขณะที่ น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทีมทนายความของกลุ่มผู้ชุมนุม กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ล่าสุด ได้นำผู้ชุมนุมอีก 4 คน ที่โดนหมายจับเข้าไปมอบตัวกับตำรวจและได้รับการประกันตัวมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้มีชาวสวนยางที่มามอบตัวกับตำรวจ และได้รับการประกันตัวไปแล้ว 12 คน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มชาวบ้านอีก 10 กว่าคน ที่ทางตำรวจได้ระบุว่า ได้ไปขออำนาจศาลเพื่อออกหมายจับ แต่ทางศาลได้ให้ตำรวจไปออกหมายเรียกมาก่อน ทั้งนี้ ทาง น.ส.พวงทิพย์ กล่าวต่อว่า ทางชาวบ้านได้สะท้อนถึงความไม่สบายใจ ที่ทางตำรวจมีการตั้งด่านตรวจอย่างเข้มงวด มีการค้นตัว ตรวจบัตรประชาชน เพื่อสกัดกั้นไม่ให้คนเข้าไปในที่ชุมนุม รวมถึงไม่อนุญาตให้นำมีดกรีดยางผ่านด่าน เพราะถือว่าเป็นอาวุธ ทางชาวบ้านจึงอยากขอให้ทางตำรวจผ่อนปรนการเข้มงวดตรงนี้ลงด้วย
ได้มีการนำเวทีการปราศรัย และมีเต็นท์วางไว้ให้ผู้มาร่วมชุมนุมได้อาศัยร่มเงากันอีกครั้ง หลังจากมีการระดมทุนจากกลุ่มเกษตรกร เพื่อสร้างบรรยากาศการชุมนุมให้คึกคักมากยิ่งขึ้น โดยมีชาวบ้านรวมถึง ตัวแทนนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง หมุนเวียนกันขึ้นเวทีปราศรัย ทั้งนี้บริเวณหน้าเตนท์ชุมนุมได้มีการทำโลงศพจำลอง พร้อมพวงหรีด และดอกไม้จันทน์ วางไว้ใกล้เวที โดยที่โลงศพดังกล่าวมีชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. เพื่อแสดงสัญลักษณ์
กลุ่มเกษตรกร ได้จัดพิมพ์เอกสารไม่เห็นด้วย กับแนวทางการช่วยเหลือของรัฐบาล ที่จะมีการช่วยเหลือปัจจัยการผลิตยางพารา 2,520 บาทต่อไร่ แจกจ่ายกับผู้มาชุมนุม ซึ่งรัฐบาลมีกำหนดการที่จะมอบเงินช่วยเหลือให้กับเกตรกร จำนวน 100 ราย ในวันที่ 24 กันยายน นี้ ที่ศาลาประชาคม อ.ชะอวด และจากกรณีดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมกำลัง 2 กองร้อย เพื่อรักษาความปลอดภัย เพราะเกรงว่า จะมีเกษตรกรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันบางส่วน ที่ไม่เห็นด้วย มาสร้างความวุ่นวาย
เกษตรกร เดินทางสมทบร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก มีตัวแทนเกษตรกร และนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง สลับการขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาล ระบุว่า ไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา และการช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิตไม่ใช่การแก้ไขปัญหาอย่างที่กล่าวอ้าง
วันที่ 23 ก.ย.เกษตรกรจะนิมนต์พระสงฆ์มารับภัตตาหารเพล และร่วมทำบุญเดือนสิบ ขอพรพระสงฆ์ ที่บริเวณชุมนุม เสร็จสิ้นพิธีสงฆ์ จะมีการเผาโลงศพจำลองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่า รัฐบาลไม่จริงใจในการช่วยเหลือบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชน
ด้านนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกประกาศต่อการใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 อีก 24 ชั่วโมง ห้ามเข้าพื้นที่การชุมนุมอย่างเด็ดขาด ขณะเกษตรกรสวนยางพาราบางส่วน ระบุว่า จะไม่เดินทางไปรับเงินช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิตในวันอังคาร ที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน
ด้านกลุ่มนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง จะรวบรวมมวลชนไปกดดัน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่จวนผู้ว่าฯ ส่วนจะมีการยกระดับการชุมนุมหรือไม่นั้น ตัวแทนนักศึกษา รอนายกองค์การนักศึกษา ซึ่งกำลังเดินทางมาร่วมประชุมกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้
