ชาวสวนยางภูเก็ตลงทะเบียนช่วยเหลือเกษตรกรจากภาครัฐเงียบเหงา

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เกษตรกรชาวสวนยางพาราภูเก็ต เดินทางมาลงทะเบียนเกษตรกรรับการช่วยเหลือจากรัฐบาล 2,520 บาทต่อไร่ กันอย่างบางตา ทั้งที่เกษตรอำเภอจัดหน่วยเคลื่อนที่รับลงทะเบียนในทุกตำบล ยอดรวมทั้งจังหวัดมีเพียง 759 ราย จาก 4,000 กว่าราย

วันนี้ (20 ก.ย.) ที่ลานอเนกประสงค์บ้านยอดเสน่ห์ ม.10 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางจรัสศรี คำภีรสิงห์ เกษตรอำเภอเมืองภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานอำเภอเมืองภูเก็ต จัดหน่วยเคลื่อนที่รับลงทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยางพารา ตามมติของคณะรัฐมนตรี เพื่อรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลไร่ละ 2,520 บาท ซึ่งมีเกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่ตำบลฉลอง และพื้นที่ใกล้เคียงมาลงทะเบียนกันบางตา

นางจรัสศรี คำภีรสิงห์ เกษตรอำเภอเมืองภูเก็ตกล่าวว่า สำนักงานเกษตรอำเภอทั้ง 3อำเภอในจังหวัดภูเก็ต ได้เปิดจุดลงทะเบียนทั้งในที่สำนักงานเกษตรอำเภอต่างๆ และจัดหน่วยเคลื่อนที่รับลงทะเบียนตามตำบลต่างๆ ซึ่งทำงานโดยไม่เว้นวันหยุดราชการ เพื่อรองรับเกษตรกรชาวสวนยางพาราของจังหวัดภูเก็ต จำนวน 4,018 ราย ต้องมาขึ้นทะเบียนเกษตรให้แล้วเสร็จตามกำหนดในวันที่ 30 ก.ย.56นี้ แต่ปรากฏว่า ตั้งแต่วันที่ 4-20 ก.ย.ได้มีเกษตรกรชาวสวนยางพาราของจังหวัดภูเก็ตทั้ง 3 อำเภอ ได้เดินทางมาลงทะเบียนเพียง 759 รายเท่านั้น

นางจรัสศรี กล่าวต่ออีกว่า เกษตรกรชาวสวนยางพาราในเขตอำเภอเมืองภูเก็ต ที่ขึ้นทะเบียนกับทางเกษตรมีเพียง 1,000 ราย แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า เกษตรกรชาวสวนยางพาราได้เดินทางมาลงทะเบียนเพียง 50 รายเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก ทั้งที่เจ้าหน้าที่ได้จัดหน่วยเคลื่อนที่รับขึ้นทะเบียนตามตำบล หมู่บ้านต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางพาราให้ขึ้นทะเบียนโดยไม่ต้องเดินทางเข้ามาในอำเภอ แต่ก็ยังได้รับความสนใจน้อยมาก เพราะปัญหาที่พบคือ ส่วนใหญ่เกษตรกรที่เข้าหลักเกณฑ์ในการขึ้นทะเบียนมีที่เอกสารสิทธิที่ดินถูกต้องนั้นจะเป็นคนมีฐานะ จึงไม่ได้สนใจมาขึ้นทะเบียน ประกอบกับมีสวนยางจำนวนมากเกินกว่าที่รัฐบาลกำหนด

ทั้งนี้ ทางเกษตรกรชาวสวนยางจริงๆ นั้นส่วนใหญ่ทำการเกษตรที่เขตป่าสงวนแห่งชาติเป็นจำนวนมากไม่มีเอกสารสิทธิในที่ทำกิน มีแต่ใบ ทบ.5 ทบ.6 หรือ ทบ.11 เท่านั้น และคิดว่าเดินทางมาแล้วก็ได้แต่ลงทะเบียน แต่ไม่มีสิทธิได้รับการช่วยเหลือ ทำให้ชาวสวนยางจึงไม่พอใจมากเท่าที่ควร ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรชาวสวนยางพาราทั้งหมดรีบขึ้นทะเบียนภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ เพื่อรักษาสิทธิของตนเองซึ่งคาดว่าจะมีเกษตรกรมาลงทะเบียนประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์