xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อ “คนคอน” ลงมือเขียนประวัติศาสตร์บนท้องถนนและทางรถไฟ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพจากอินเทอร์เน็ต
 
โดย... อังตวน เดอ ควนเคร็ง
 
 
พื้นที่ที่ยากจนที่สุดของ จ.นครศรีธรรมราช คือพื้นที่ที่เคยอุดมสมบูรณ์ และรำรวยที่สุดของ จ.นครศรีธรรมราช

คือพื้นที่ “ลุ่มแม่น้ำปากพนัง” ประกอบด้วย อ.ชะอวด อ.หัวไทร อ.เชียรใหญ่ และ อ.ปากพนัง ภูมิประเทศเป็นป่าพรุน้ำท่วมขังตลอดทั้งปี

ประเทศไทยทั้ง 77 จังหวัด มีคนจากลุ่มน้ำปากพนังไปพึ่งพาอาศัยทำมาหากินอยู่ทุกจังหวัด

คณะดาวะห์เผยแผ่ศาสนาอิสลามจาก จ.ยะลา ยกให้คนลุ่มน้ำปากพนังคือ ผู้ที่เข้าถึงแก่นแท้ของศาสนาพุทธ

การชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยทุกครั้ง มีคนจากลุ่มน้ำปากพนังยืนอยู่แถวหน้า และในรายชื่อผู้เสียชีวิตจากการล้อมปราบ

คนลุ่มแม่น้ำปากพนัง พื้นที่ที่ยากจนที่สุดของจังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่เคยประท้วงปิดถนนเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐ...เหมือนครั้งนี้

ฝ่ายรัฐเข้าใจไม่ผิดว่า ส.ส.ฝ่ายค้านแอบหนุนหลังการชุมนุมครั้งนี้ แต่คนลุ่มน้ำปากพนังรู้ดีว่า...นักการเมืองไม่เคยจริงใจ ไม่ว่าพรรคไหน

คนลุ่มแม่น้ำปากพนังลึกซึ้งกับระบบการเมือง และลึกซึ้งกับระบบการตลาดสินค้าทางการเกษตร

คนลุ่มแม่น้ำปากพนังรู้ว่า เกษตรกรไม่ได้ประโยชน์จากมติ ครม.ช่วยค่าปุ๋ยยางพาราไร่ละพันกว่าบาท แต่คนที่ได้คือ บริษัทปุ๋ย

ทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ส.รัฐบาลควรร่วมมือกันแก้ปัญหาราคาสินค้าทางการเกษตรให้หมดสิ้นไปเสียที

การปล่อยให้เกิดภาวะยากลำบาก แร้นแค้น เพื่อให้เกษตรกรที่พึ่งพาตัวเองได้อยู่แล้ว ต้องก้มหัวเข้าขอความช่วยเหลือ เป็นวิธีที่ล้าหลัง และขายชาติ

และเป็นยุคสุดท้ายของวงจรอุบาทว์ ที่บันทึกประวัติศาสตร์โดย...คนลุ่มแม่น้ำปากพนัง 
 
ผมเติบโตมาจากหมู่บ้านในใจกลาง “ป่าพรุควนเคร็ง” อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช

บรรพบุรุษเราตัดไม้เสม็ดมาทำเสา และโครงสร้างบ้าน มุงหลังคาด้วยใบจาก ซึ่งมีอยู่มากมายริมลำคลอง

แน่นอน เราเป็นลูกหลานชาวนา เพราะบรรพบุรุษของเรามีอาชีพทำนา เราเก็บรวงข้าวมานวด กอบข้าวเปลือกใส่แม่ครก ทิ่มด้วยสากไม้ ใส่กระด้งฝัด แล้วเอาไปหุง 

น้ำหม้อ มีคุณค่าทางอาหารไม่ด้อยไปกว่าน้ำนมแม่ ทุกบ้านจึงกราบไหว้บูชาต้นข้าว เสมือนเป็นแม่อีกคน แม่โพสพ 

คลองชะอวดรับน้ำมาจากเทือกเขาบรรทัด น้ำใสจนมองเห็นท้องคลอง คลองเป็นทั้งตู้กับข้าว ห้องอาบน้ำ สวนสนุก และส้วม

ปลาบางชนิด เช่น ปลาแหยง ปลาซิว ปลาสร้อย เราไม่จับมากิน ทั้งๆ ที่ให้อาหารจนมันอ้วนท้วนสมบูรณ์

คนชะอวดใช้แสงสว่างจากน้ำมันก๊าดในตะเกียงขลุก ตะเกียงกระป๋อง และน้ำมันยาง แต่โจรลักวัวใช้เพียงแสงจากดวงดาว และดวงจันทร์ บางทีก็ปล้นกันใต้แสงดวงอาทิตย์เลยก็มี

นักเลงชะอวดมีผ้าขาวม้าคาดเอว และเหน็บมีดเล่มเล็กที่เรียกว่า ไอ้ครก เหมาะสำหรับลักแทงก้านคอคู่อริ

หากนักเลงผิดใจกันก็ท้าไปแทง หรือฟันกันตัวต่อตัวกลางทุ่งนา ปืนหาได้ไม่ยาก แต่คนใจมากไม่นิยมเอามาใช้

ยุค “ไม่รบนาย ไม่หายจน” คนชะอวดส่วนหนึ่งเข้ากับคอมฯ อีกส่วนหนึ่งถูกรัฐจัดตั้งในนาม ทส.ปช. บ้านหลายหลังมีปืนซองถอก หรือลูกซอง 5 นัดแขวนไว้ชายฝา เราเคยลักปืนพ่อมาลั่นไกใส่กัน ดีว่ามันไม่มีลูก!

คนชะอวดเป็นนักล่านก โดยยืนถือเรียวไผ่ทั้งดุ้นล้อมดงกระจูด เมื่อนกชันปรือ หรือนกอีลุ้ม กระโจนขึ้นบินหนี ใครสักคนต้องหวดให้โดนปีก จากหัวรุ่งถึงหัวเช้า แต่ละคนหิ้วนกกลับบ้านไม่ต่ำกว่า 1 พวง

หลังคอมฯ ออกตัว อ่างเก็บน้ำถูกสร้างบนเขาบรรทัด น้ำเค็มรุกเข้าถึงต้นน้ำคลองชะอวด นายทุนเริ่มมาลงทุนเลี้ยงกุ้งกุลาดำ นาข้าวหมดความสำคัญ บรรพบุรุษอุ้มเราลงเรือ ขึ้นรถไฟ...อพยพ!

หนุ่ม สาว ขายแรงงานในเมืองใหญ่ บรรพบุรุษชาวนาหันมาค้าขายเล็กๆ น้อยๆ เพื่อส่งลูกหลานเข้าเรียนในโรงเรียนวัด

จากป่าพรุมา 30 กว่าปี กลับไปกี่ที กี่ครั้ง ถนนดินแดงก็ยังเป็นถนนดินแดง นากุ้งเจ๊งไปหมดแล้ว ที่นาเปลี่ยนเป็นสวนปาล์ม สวนยาง
 
คนมีเงินจ้างชาวบ้านเผ่าป่าพรุเอาที่ปลูกยาง ปาล์ม น้ำในคลองเอามาล้างตีนยังคัน คนชะอวดเดี๋ยวนี้กินปลาแหยง ปลาซิว ปลาสร้อย อย่างเอร็ดอร่อย!

เราเผาร่างไร้วิญาณของบรรพบุรุษด้วยแก๊ส LPG บ้างก็น้ำมันโซลาร์ และยังดำเนินชีวิตเยี่ยงบรรพบุรุษ ซื่อ แต่ไม่โง่
 
และพร้อมสู้กับความอยุติธรรมจนลมหายใจสุดท้าย!

นักเลงหลายคนมอบมีดไอ้ครกให้ลูกหลานเก็บรักษา ก่อนสมัครไปเป็นทหารพราน หลายคนเอาหน้าอกรับคมกระสุนปืนอาก้าที่ยิงมาจากกลุ่มคนที่รัฐเรียกว่า ผู้ก่อการร้าย เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และทิ้งลมหายใจสุดท้ายไว้ที่ชายแดนใต้

ขณะนี้คนชะอวดที่ไม่ได้อพยพออกจากบ้านเกิด พร้อมกับเพื่อนร่วมชะตากรรมต่างถิ่น บ้างยืน บ้างนั่ง มีบ้างที่กำลังนอนอยู่ “บนถนนสายเอเชีย หมายเลข 41” และ “บนรางรถไฟ” รอให้ใครสักคนทักทาย สอบถามความเป็นมา แลกเปลี่ยนทัศนะ และทำความรู้จัก

บนถนนสายเอเชีย และบนรางรถไฟ ดวงตาหลายคู่บอกความรู้สึกหวาดระแวง ไม่ไว้วางใจ ไม่ยอมแพ้ และขอความช่วยเหลือ 

ขณะนี้คนชะอวดกำลัง “เขียนประวัติศาสตร์” ลงบนท้องถนน เขียนลงบนรางรถไฟ

บนผืนดินปักษ์ใต้ 
ในประเทศไทย
ในแผ่นดินเกิด..!!

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น