ผู้ประกอบการตราดโอดปรับราคาก๊าซกระทบเต็มๆ

ตราด-ผู้ประกอบการต่างๆ ใน จ.ตราด โอดได้รับความเดือดร้อนจากการปรับราคาขึ้น เผยปริมาณการใช้เดือนละ 1 ล้าน กก.

จากกรณีที่รัฐบาลโดยกระทรวงพลังงาน มีนโยบายที่จะปรับราคาก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือน ที่จะเริ่มดำเนินการปรับขึ้นในวันที่ 1 กันยายน 2556 โดยปรับขึ้นเดือนละ 50 สตางค์ และจะขึ้นต่อไปเป็นเวลา 6 เดือน รวม 3 บาท/กิโลกรัมนั้น

ซึ่งในเรื่องนี้ นายอรัญ วัฒนวินิน ผู้บริหาร หจก.สันติแก๊สตราด เปิดเผยว่า จ.ตราด มีการใช้ก๊าซหุงต้ม ไม่ใช่ใช้เฉพาะการหุงต้มภายในครัวเรือนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีการนำไปใช้ในรถยนต์ นำไปใช้ในนากุ้งที่นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงปั่นไฟฟ้าแล้ว ซึ่งเป็นการใช้ผิดวัตถุประสงค์ เพราะทุกวันนี้ราคาก๊าซหุงต้มในขณะนี้เป็นราคาที่รัฐบาลได้ชดเชยราคาให้แก่ก๊าซหุงต้มเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย

ปัจจุบัน ราคาน้ำมันแพง ทำให้ผู้ใช้รถยนต์หันไปติดตั้งก๊าซหุงต้มใช้ในรถยนต์เป็นจำนวนมาก จนทำให้ภาครัฐต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อมาจากต่างประเทศ ที่ภาครัฐต้องชดเชยราคาเพื่อไม่ให้ผู้บริโภคเดือนร้อน โดยที่ จ.ตราด มีการใช้ก๊าซหุงต้มในประเภทต่างๆ รวมกว่า 1,000 ตัน/เดือน หรือ 1 ล้านกิโลกรัม/เดือน ในจำนวนนี้ไม่รวมการส่งออกไปต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ปริมาณการใช้ก๊าซหุงต้มของ จ.ตราด เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่โรงบรรจุก๊าซหุงต้มของ จ.ตราด ที่มีอยู่ 2 แห่ง ยังไม่สามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคได้ และต้องนำถังก๊าซไปบรรจุในจังหวัดอื่น เช่น จันทบุรี และชลบุรี

นายอรัญ กล่าวว่า ทุกวันนี้การบริโภคก๊าซหุงต้มของ จ.ตราด มีความเติบโตสูงขึ้นเนื่องจากมีธุรกิจทางการท่องเที่ยว นากุ้ง หรือครัวเรือน ซึ่ง จ.ตราด มีโรงบรรจุก๊าซเพียง 2 แห่ง จึงไม่เพียงพอ ปัจจุบันโรงบรรจุก๊าซของ ห้างหุ้นส่วนจำกัดสันติแก๊ส สามารถบรรจุเพื่อจำหน่ายได้ 600-700 ตัน/เดือนซึ่งไม่เพียงพอ จำเป็นต้องไปบรรจุก๊าซที่ จ.จันทบุรี และชลบุรีในทุกเดือน ทั้งนี้ ลูกค้าหลักจะอยู่ อ.เมือง อ.เขาสมิง อ.บ่อไร่ และ อ.แหลลมงอบ ส่วน อ.คลองใหญ่ กับ อ.เกาะกูด

ที่ผ่านมา ปัญหาการลักลอบน้ำก๊าซหุงต้มไปจำหน่ายในสถานีจ่าย หรือปั๊มน้ำมันมีการจับกุมทั่วประเทศ ทำให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดสันติแก๊ส ได้รับผลกระทบ เพราะว่าถูกจำกัดโควตาลงจนกว่าจะมีการตัดสินคดีของผู้ค้ารายใหญ่ว่าผิดหรือไม่ รวมทั้งของ จ.ตราด ว่าผิดหรือไม่อย่างไร ซึ่งห้างหุ้นส่วนสันติแก๊ส อยู่ระหว่างการร้องของความเป็นธรรมจากผู้ว่าราชการ จ.ตราด อยู่

ขณะที่ นายสุทิน คุ้มชนม์ ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งยั้งยืน กล่าวว่า จังหวัดตราด มีผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้ง 50% จากผู้ประกอบการกว่า 600 คน ที่ใช้ก๊าซ LPG ในการปั่นไฟในนากุ้ง และค่าใช้จ่ายตรงนี้คิดเป็น 20% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ส่วนการใช้มากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับผลผลิตของแต่ละรายว่ามากน้อยแค่ไหน ถ้ามีผลผลิตมากก็ใช้มาก ซึ่งกุ้งที่เลี้ยงแต่ละรายจะใช้ระยะเวลาไม่เท่ากัน โดยทั่วไปจะใช้เวลาในการเลี้ยงตั้งแต่ 80-120 วัน แต่ถ้าราคาก๊าซถูกปรับขึ้น ค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย