ตรัง - ลูกโลมาหลังโหนกอายุไม่เกิน 1 ปี ติดอวนตายกลางทะเลหาดสำราญ ซึ่งเป็นแหล่งโลมาฝูงใหญ่ที่สุดของตรัง นับเป็นตัวที่ 9 ในรอบปี 2556 ด้าน ปธ.กลุ่มอนุรักษ์โลมาบ้านตะเสะ เผย ชาวประมงทำอวนจับสัตว์น้ำเพิ่มขึ้น หากไม่มีมาตรการป้องกันเกรงว่าโลมา และสัตว์อื่นๆ อาจจะสูญพันธุ์ได้
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (5 ส.ค.) นายตะวัน ทุ่ยอ้น ประธานกลุ่มอนุรักษ์โลมาบ้านตะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง พร้อมด้วย นายอิสมาแอน เบ็ญสะอาด เครือข่ายชาวประมงพื้นบ้าน จ.ตรัง ได้ร่วมกันนำซากโลมาที่ นายเริง ทุ่ยอุ้น อายุ 58 ปี ชาวประมงพื้นบ้าน ม.4 ต.ตะเสะ พบลอยตายอยู่กลางทะเลบริเวณหินสายหมอ รอยต่อระหว่าง ม.3 บ้านทุ่งเปลว กับ ม.4 ต.ตะเสะ มาตรวจสอบที่มูลนิธิอันดามัน ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ซากโลมาตัวที่ตายดังกล่าวเป็นลูกโลมาหลังโหนก สีเทา เพศเมีย อายุไม่เกิน 1 ปี น้ำหนัก 19 กก. และมีความยาว 1.20 เมตร โดยที่ส่วนหัว และปากพบบาดแผลจากการถูกอวน และตายมาแล้ว 1 วัน จึงได้ส่งซากไปชันสูตรที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ต
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ลูกโลมาหลังโหนกตัวนี้น่าจะว่ายน้ำเข้ามาหาปลาในอวนที่ชาวประมงนำมาดักจับสัตว์น้ำ และเมื่อเข้าไปติดในอวนแล้วก็พยายามดิ้นรน แต่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จึงขาดอากาศหายใจ และตายในที่สุด นับเป็นโลมาตัวที่ 9 ที่ตายลงในรอบปี 2556 และปัจจุบัน ในท้องทะเลหาดสำราญ ซึ่งเป็นแหล่งโลมาฝูงใหญ่ที่สุดของ จ.ตรัง ยังคงเหลือโลมาหลังโหนกอยู่แค่เพียง 100 ตัวเท่านั้น
นายตะวัน ทุ่ยอ้น ประธานกลุ่มอนุรักษ์โลมาบ้านตะเสะ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้จะมีชาวประมงนำอวนปลาทู และอวนปลากะเบนมาวางดักจับสัตว์น้ำในท้องทะเลเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วง 8-12 ค่ำ ซึ่งเป็นช่วงน้ำขึ้น ทำให้มีปลาออกมาหากินกันอย่างชุกชุม จนส่งผลให้มีปริมาณอวนเพิ่มมากขึ้นตาม และเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลหายาก หากไม่หามาตรการป้องกัน โลมา และสัตว์อื่นๆ ก็อาจจะสูญพันธุ์ในเร็วๆ นี้