นครศรีธรรมราช - ช่างสิบหมู่ขึ้นรื้อโครงเหล็กยึดรอกบนปลีทองคำพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช พบเป็นตัวปัญหาหลักส่งคราบสนิมเยิ้มรอบปล้องไฉน และเร่งทำความสะอาดเนื้อทองคำเพื่อพิสูจน์ความชัดเจน ขณะที่สภาพอากาศกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ
วันนี้ (2 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. นายธีรชัย จันทรังษี หัวหน้ากลุ่มงานช่างโลหะและช่างศิราภรณ์ สำนักงานช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร นายยงยุทธ วรรณโกวิท นายช่างประณีตศิลป์ และเจ้าหน้าที่ ได้ปีนขึ้นไปบนปลียอดทองคำองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช เป็นวันที่ 2 หลังจากขึ้นตรวจสอบเบื้องต้นแล้ววานนี้ (1 ส.ค.) โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการรื้อโครงเหล็กที่ถูกติดตั้งภายหลังโดยไม่ได้แจ้งกรมศิลปากร ซึ่งพบว่าโครงเหล็กยึดรอกดังกล่าวอยู่ในสภาพถูกสนิมกัดกร่อนอย่างรุนแรง และอาจเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้คราบสนิมลุกลาม รวมถึงการเจาะแกนปลียอดเพื่อวางสายล่อฟ้าที่อาจส่งผลกับแกนปลียอด และหลังจากที่ปลดเหล็กรัดแกนรอกออก ปรากฏว่า คราบสนิมได้สร้างความเสียหายให้แก่ทองคำบริเวณปลีตอนล่างสุด ส่วนโครงเหล็กหลังจากที่รื้อออกแล้วได้ถูกนำลงมายังพื้นล่างทันที
ส่วนเจ้าหน้าที่กลุ่มงานโลหะและช่างศิราภรณ์ ช่างสิบหมู่กรมศิลปากร ได้เร่งทำความสะอาดเนื้อทองคำเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด หลังจากนั้น จะพิจารณาซ่อมแซมส่วนที่ผุกร่อน และยึดกลับเข้าไปใหม่ในส่วนที่มีความเสียหาย แต่ปรากฏว่า การดำเนินการเป็นไปได้อย่างล่าช้าเนื่องจากอุปสรรคจากสภาพอากาศที่มีลมกระโชกแรง และฝนที่โปรยลงมาเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
นายยงยุทธ วรรณโกวิท นายช่างประณีตศิลป์ กล่าวว่า กลีบบัวคว่ำบัวหงายองค์พระบรมธาตุเจดีย์ มีทองคำหนักประมาณ 18 กิโลกรัม แบ่งเป็นทองคำเก่า ทองคำที่ซื้อใหม่ และทองคำที่ประชาชนร่วมกันบริจาคเมื่อคราวบูรณะปี พ.ศ.2530 และยังมีทองคำอีกบางส่วนได้นำไปหลอมซ่อมแซมปลียอดทองคำเมื่อปี 2538 ด้วย
ทั้งนี้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะขึ้นไปยังปลียอดทองคำ ได้เข้มงวดในเรื่องของความปลอดภัย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน และเจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ดูแลอย่างใกล้ชิด มีการลงนามขึ้น-ลง และตรวจค้นสิ่งของที่ติดตัวอย่างละเอียดเพื่อความบริสุทธิ์ใจ เนื่องจากบนปลียอดทองคำมีสิ่งของมีค่าอยู่จำนวนมาก พร้อมทั้งได้กำชับให้ทุกคนรีบลงมาด้านล่างทันทีถ้าเกิดฝนตกลงมาเนื่องจากพื้นจะลื่น และอาจเกิดฟ้าผ่าได้