นครพนม - เกิดเหตุฟ้าผ่า 2 หญิงชาวนาไปถอนกล้านอนห้างนา ตกดึกเกิดฝนฟ้าคะนอง ทั้งสองสวมใส่เครื่องประดับทั้งสร้อยทองและต่างหู ทั้งห้างนาอยู่ใกล้สายส่งไฟฟ้าแรงสูง เป็นเหตุให้ถูกฟ้าผ่าดับอนาถทั้งสองราย
วันนี้ (26 พ.ค.) พ.ต.ต.ป้อมเพ็ชร โชติกลาง สารวัตรเวร สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า กลางดึกคืนนี้ได้รับแจ้งมีเหตุฟ้าผ่าคนตายบริเวณริมถนนทางหลวงชนบท หมายเลข 2019 ช่วงหลัก กม.4 สายรามราช-ท่าอุเทน บ้านนามูลฮิ้น หมู่ 1 ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม หลังรับแจ้งจึงรุดไปพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนม กู้ภัยสว่าง วีอาร์กู้ภัย และกู้ภัยธาตุพนม
ที่เกิดเหตุเป็นห้างนาห่างจากถนนสายดังกล่าวประมาณ 20 เมตร บนห้างนาพบศพนางแก่นศรี นิวงษา อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/5 หมู่ 17 ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม สภาพศพมีรอยไหม้บริเวณท้ายทอยใกล้ใบหูข้างขวา และต้นขาขวามีรอยไหม้จนกางเกงขายาวสีดำฉีกขาด ใกล้กันพบศพ น.ส.แตง นิวงษา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 17 ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม บริเวณลำคอมีรอยไหม้เป็นแผลยาว นั่งคุดคู้เสียชีวิตข้างกัน
นายถวิล นิวงษา อายุ 52 ปี สามีนางแก่นศรี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุภรรยา และ น.ส.แตง ซึ่งเป็นญาติกันได้ชักชวนกันไปนอนนาเพื่อถอนกล้าต้นข้าวปักดำในนาข้าวซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านไปเล็กน้อย โดยเมื่อเวลาประมาณตี 1 เกิดฝนตกหนักและได้ยินเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่าดังสนั่นหลายครั้งติดกันบริเวณห้างนาของตน หลังฝนฟ้าคะนองหยุดตก ตนเป็นห่วงจึงขับรถออกมาดูจึงพบว่าทั้งสองกลายเป็นศพแล้ว
พ.ต.ต.ป้อมเพ็ชร โชติกลาง สารวัตรเวร สภ.เมืองนครพนม กล่าวว่า จากการชันสูตรศพพบว่า น.ส.แตงสวมใส่สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ขณะที่นางแก่นศรีใส่ต่างหู สันนิษฐานว่า โลหะเครื่องประดับอาจเป็นสื่อล่อฟ้า และใกล้ที่เกิดเหตุยังพบสายส่งไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่าน ขณะฟ้าผ่าลงมาไม่มีสายล่อฟ้า จึงเป็นชนวนเหตุให้ฟ้าผ่าจนถึงแก่ความตายดังกล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงฤดูทำนาปี ขอฝากเตือนประชาชนอย่าเข้าใกล้ต้นไม้ใหญ่ และสายไฟฟ้าแรงสูง รวมทั้งอย่าสวมใส่เครื่องประดับ และพกพาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นสื่อล่อฟ้าทำกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเด็ดขาด เพราะอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้
