xs
xsm
sm
md
lg

คลิปขู่ฆ่า นช.ทักษิณ “ของแท้” เชื่อมโยง “ก่อการร้ายสากล” จริง!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
โดย...ศูนย์ข่าวหาดใหญ่
 
คลิปวิดีโอ 2 ชุดสำหรับนักโทษหนีคุกที่กลายเป็นสัมภเวสีโหยหาแผ่นดินเกิดไว้ฝังร่าง “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ปรากฏมีออกมาให้สังคมได้รับรู้ในวาระครบรอบวันเกิด 64 ปี เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา สามารถทำให้คนไทยจำนวนมากเกิดอารมณ์พลุ่งพล่าน สะเทือนใจ ดีใจ สะใจ และน่าจะรวมถึงสาแก่ใจ หรือรูสึกในแบบอื่นๆ ได้อีกมากมายหลากหลาย โดยเฉพาะห้วงอารมณ์ความรู้สึกในแบบที่ขัดแย้ง หรือแตกต่างกันราวห้วงอวกาศกับก้นทะเลลึก ซึ่งมีต่อ “ของขวัญวันเกิด” ของ นช.ทักษิณ 2 ชิ้นนี้?!
 
คลิปชุดแรกมีชื่อว่า “เปิดใจทักษิณ 64 ปี” เป็นฝีมืออำนวยการสร้างของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน “โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร” ที่ทำขึ้นเพื่อมอบให้แก่คนไทยโดยเฉพาะ โดยได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก แฟนเพจ Oak Panthongtae Shinawatra ไว้เมื่อเวลา 10.37 น. ของเช้าวันที่ 26 ก.ค. พร้อมคำอวยพรให้ผู้เป็นบิดาสุดเริดหรูอลังการในเชิงออดอ้อนต่อสาวกระบอบทักษิณไปในตัวด้วย ซึ่งอาจจะถูกใจบรรดาคนเสื้อแดง แต่คนจำนวนมากไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไหร่
 
คลิปอีกชุด โพสต์โดยผู้ใช้นามว่า mansoor ahmed Volvo ลงในเว็บไซต์ยูทิวบ์เมื่อวันที่ 26 ก.ค.เช่นกัน โดยใช้หัวข้อว่า Al-Qaeda video against former Thailand Prime Minister Thaksin Shinawatra. ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า “คลิปวิดีโอจากอัลกออิดะห์ เพื่อต่อต้านอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร” ความยาวประมาณ 2.45 นาที ช่วงแรกเป็นภาพชาย 3 คนในชุดเสื้อคลุมคล้ายชาวอาหรับ พร้อมผ้าคลุมหน้า คนหนึ่งถืออาวุธปืน ขณะที่อีกคนหนึ่งถือกระดาษพิมพ์ภาพใบหน้าของ นช.ทักษิณ ขณะที่ชายคนกลางอ่านแถลงการณ์เป็นภาษาอาหรับ ช่วงหลังปรากฏชายสวมชุดคลุมสีขาวเปิดหน้า หนวดเคราเฟิ้มชูภาพเดิมของ นช.ทักษิณ มีเสียงภาษาอังกฤษอ่านประกอบ แปลความเป็นภาษาไทยว่า

“ทักษิณ ชินวัตร เวลาของคุณหมดลงแล้ว สิ่งที่คุณได้ทำไว้กับพี่น้องชาวมุสลิมของเราในภาคใต้ของประเทศไทย ตอนนี้ถึงเวลาต้องชำระความแล้ว คุณได้สังหารพี่น้องชาวมุสลิมของเราในภาคใต้ของไทย และคุณได้สั่งให้มีการโจมตีมัสยิดกรือเซะในเมืองไทยในการลุกฮือขึ้นเมื่อปี ค.ศ.2004 และเข่นฆ่าชาวมุสลิมผู้บริสุทธิ์ และตอนนี้คุณก็ยังดำเนินนโยบายอันชั่วร้ายในภาคใต้ของไทย ผ่านรัฐบาลหุ่นเชิดที่ดำเนินการโดยน้องสาวของคุณ…


“คุณจะเห็นทีมล่าสังหาร (Dead Squad) ด้านหลังของผม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เราขอแจ้งเตือนคุณไว้ก่อนว่าเราจะพยายามสังหารคุณทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าที่ไหนในโลก คุณจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เราจะฆ่าคุณเพื่อล้างแค้นให้แก่พี่น้องชาวมุสลิมของเรา และเราขอเรียกร้องให้ชาวมุสลิมทั้งหมดทุกชาติในโลกให้จดจำคุณ และสังหารคุณในทุกที่”
 
คลิปวิดีโอของขวัญวันเกิด นช.ทักษิณ ชุดหลังนี้ ไม่เพียงคนไทยเท่านั้นที่ให้ความสนใจ เพราะได้เป็นข่าวดังไปทั่วโลกด้วย เวลานี้ผ่านไปเกือบสัปดาห์แล้ว แต่กระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์ยังโอละพ่อ! กันไม่เลิก
 
มีความพยายามแกะรอยภาพที่ปรากฏในคลิปวิดีโอชุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งข้อสังเกตตัวบุคคล ท่าทาง อากัปกิริยา เสื้อผ้า อาวุธ ฉากและอุปกณ์ประกอบ รวมถึงสำเนียงและภาษาที่พูดกับที่ใช้เขียนในโพสต์ บ้างวิเคราะห์ บ้างสังเคราะห์ แล้วมีทั้งการฟันธงว่าเป็นได้ทั้งของจริง และของปลอม บ้างตีขลุมผูกโยงให้เป็นเรื่องของความขัดแย้งทางการเมือง โบ้ยให้เป็นฝีมือของกลุ่มต่อต้าน นช.ทักษิณ และระบอบทักษิณ จึงนำไปสู่ความสับสนได้พอสมควร
 
เหตุผลที่ “มุสลิม” ต้องอาฆาตแค้น!!
 
เมื่อพิจารณาคลิปวิดีโอของขวัญวันเกิดจากอัลกออิดะห์ พร้อมๆ กับประมวลภาพสถานการณ์ไฟใต้บนแผ่นดินปลายด้ามขวานของไทยประกอบเข้าด้วยกัน เราจะพบข้อเท็จจริงที่ว่า เป็นเรื่องสมเหตุสมผลอย่างยิ่งที่จะมีกลุ่มคนนับถือศาสนาอิสลามจำนวนไม่น้อย ทั้งที่เป็นมุสลิมไทย และมุสลิมในประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารความขัดแย้ง และผลกระทบต่อพี่น้องมุสลิมไทย พวกเขาจะเกิดความอาฆาตแค้น นช.ทักษิณ
 
แม้สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะมีขึ้น และดำเนินมาต่อเนื่องนับร้อยปี แต่สังคมไทยก็สามารถจัดการตัวเอง และเกลี่ยความขัดแย้งให้ดำรงอยู่ได้ในระดับหนึ่ง หรือในระดับที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อองคาพยพโดยรวมของสังคม แม้จะมีสถานการณ์ลุกโชนของไฟใต้ในช่วงเวลาต่างๆ แต่ที่ผ่านๆ มา ความรุนแรงก็ไม่เคยถึงขั้นระอุเดือดเลือดพล่านเท่ากับ “ไฟใต้ยุคใหม่” ในห้วงเวลาเกือบ 10 ปีมานี้
 
มีข้อเท็จจริงที่แม้จะเคยมีความพยายามบิดเบือนกันมาตลอด แต่แทบไม่เป็นผลต่อสิ่งที่สังคมรับรู้และสัมผัสได้คือ วิกฤตไฟใต้ระลอกใหม่ที่เริ่มต้นตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปล้นปืนในค่ายทหารที่ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 แล้วก็โชนเปลวลุกลามไปทั่วชายแดนใต้จนเดี๋ยวนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากการ “จุดไม้ขีดก้านแรก” ให้แก่ไฟใต้ยุคใหม่ จากฝีมือของ นช.ทักษิณ และตามด้วยการให้ปล่อยระบอบทักษิณแก้ปัญหาด้วยการระดม “ราดเบนซินใส่ไฟใต้” มาต่อเนื่อง
 
ภายหลังที่ นช.ทักษิณ ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2544 และสามารถรวบอำนาจไว้ในมือได้อย่างเบ็ดเสร็จ ความอหังการ และมมังการจึงปรากฏเป็นภาพสะท้อนให้เห็นในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ ซีอีโอ การก่อตั้งรัฐตำรวจ มาตรการปราบยาเสพติดที่มากมายไปด้วยการวิสามัญ และอุ้มฆ่า ในส่วนของพื้นที่ชายแดนใต้ก็ได้ประกาศใช้นโยบาย “กำปั้นเหล็ก” เพื่อกุดหัวบรรดาผู้ร่วมบวนการแบ่งแยกดินแดน และ “ทุบทิ้งหน่วยงานพิเศษ” ที่ถูกใช้แก้ปัญหาความมั่นคง และระดมสรรพกำลังพัฒนาในพื้นที่มาอย่างยาวนานคือ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กับ กองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหารที่ 43 (พตท.43)
 
ความที่ต้องการตั้งรัฐตำรวจ นช.ทักษิณ จึงเลือกที่จะฟังแต่เสียงของกองกำลังสีกากีมากกว่าสีอื่นๆ ในการประชุม ครม.สัญจรที่ศูนย์พิกุลทอง จ.นราธิวาส กลางปี 2545 สำนักงานตำรวจภาค 9 ได้ชงข้อมูลให้ตัดสินใจว่า หลังไล่ล่ากวาดล้างเครือข่ายขบวนการ สามารถทำให้พื้นที่ชายแดนใต้เข้าสู่ภาวะปกติได้แล้ว จึงควรให้ทหารถอยทัพกลับเข้ากรมกอง แล้วมอบพื้นที่ให้ตำรวจดูแล อีกทั้งหน่วยงานรัฐพิเศษที่ตั้งขึ้นมาเพื่อกำกับดูแลพื้นที่ก็สมควรให้ยกเลิก นั่นจึงกลายเป็นที่มาของการให้ยุบ ศอ.บต. และ พตท.43 ช่วงกลางปี 2546
 
เมื่อ นช.ทักษิณ กุมอำนาจรัฐ และไฟเขียวให้รัฐตำรวจแผ่อิทธิพลเหนือแผ่นดินชายแดนใต้ ขณะเดียวกัน ทหารและมหาดไทยกลับถูกกุดหัว จึงไม่แปลกที่ปรากฏการณ์กวาดล้างยาเสพติดจะลามต่อเนื่องเข้าสู่พื้นที่ หลายครั้งถูกใช้เป็นข้ออ้างอุ้มฆ่า หรืออุ้มหายบรรดาสายข่าวทหาร นักการเมือง หรือผู้มีอิทธิพล ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพี่น้องมุสลิมเกือบทั้งหมด ประมาณว่าช่วงนั้นมีผู้คนเสียชีวิตบนแผ่นดินไฟใต้ไม่ต่ำ 2,500 ศพ และบาดเจ็บอีกเกินกว่าครึ่งหมื่น จึงเป็นเหมือนเชื้อไฟอันดีให้แก่การจุดติดของขบวนการแบ่งแยกดินแดนครั้งใหม่
 
ภายหลังที่ไฟใต้ยุคใหม่ถูกจุดติดแล้ว สถานการณ์บานปลายไม่ต่างอะไรกับไฟลามทุ่งไปทั่วแผ่นดินด้ามขวาน ขณะที่ทักษิณ ยังครองอำนาจอยู่ยังถึงกลับตกตะลึงกับปฏิบัติการในต่อต้านอำนาจรัฐของขบวนการแบ่งแยกดินแดนสายพันธุ์ใหม่ มาตรการดับไฟใต้จึงเป็นไปอย่างสะเปะสะปะ แม้จะต้องกลืนน้ำลายตัวเองด้วยการลดบทบาทตำรวจ แล้วยอมให้ทหารกลับมาออกหน้าแก้ปัญหา แถมตั้งหน่วยงานพิเศษด้วยชื่อย่อต่างๆ นานาขึ้นมาใหม่มากมาย และต่อเนื่องมายังรัฐบาลหุ่นเชิดของตนเองจนเดี๋ยวนี้
 
นับแต่ก้าวขึ้นกินบ้านกินเมืองด้วยตัวเอง และยังสามารถยึดโยงอำนาจต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลหุ่นเชิดเดี๋ยวนี้ สำหรับกับวิกฤตไฟใต้นั้น ตัวตนของ นช.ทักษิณ เอง รวมถึงระบอบทักษิณที่ตัวเองให้กำเนิดขึ้นมา ได้สร้างความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินแก่ประเทศชาติ และพี่น้องประชาชนในชายแดนใต้มากมายมหาศาล โดยเฉพาะกับเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ ที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 106 ศพ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2547 และเหตุการณ์ตากใบ ที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 85 ศพ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ปีเดียวกัน ทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ถือเป็นตราบาปที่พี่น้องมุสลิมไม่มีวันลืม
 
หากประเมินตัวเลขที่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟใต้ยุคใหม่ ซึ่งถูกทำให้เกิดขึ้นจากน้ำมือ นช.ทักษิณ และเครือข่ายระบอบทักษิณ มีการประมวลกันไว้ว่ามีถึงกว่า 5 พันศพ ขณะที่ตัวเลขผู้บาดเจ็บก็ทะลุหลักหมื่นราย ในจำนวนนี้ไม่ว่าจะฝ่ายรัฐ หรือแนวร่วมขบวนการ รวมถึงประชาชนในพื้นที่ กลับเป็นมุสลิมที่มีสัดส่วนมากที่สุด
 
เมื่อ “มุสลิมทั่วโลกคือ พี่น้องกัน” นี่จึงเป็นเหตุผลที่ไม่ว่าจะมุสลิมไทย และหลายกลุ่มในต่างประเทศ เขาพร้อมที่จะลุกขึ้นมาแสดงตัวตนให้ปรากฏต่อ นช.ทักษิณ
 
“ไฟใต้” เชื่อม “ก่อการร้ายสากล”!
 
มีความพยายามชักแถวออกมาให้ข่าว ทั้งจากรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ นักการเมือง ข้าราชการ คนเสื้อแดง และพวกที่ประกาศตนเป็นข้าทาสบริวารของ นช.ทักษิณ ว่า คลิปของขวัญจากอัลกออิดะห์มอบให้ในวันเกิดนายใหญ่เป็นของปลอม หรือไม่เกี่ยวข้องเครือข่ายกลุ่มก่อการร้ายอะไรเลยในโลกใบนี้ แต่เป็นฝีมือของพรรคการเมืองฝั่งตรงข้ามของพรรคเพื่อไทย กลุ่มคนกระสันอยากมีอำนาจ พวกสูญเสียผลประโยชน์ หรือไม่ก็บรรดาคนหน้าเดิมที่เกลียด นช.ทักษิณ
 
โดยล่าสุด นช.ทักษิณ เองก็ออกมาโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กแฟนเพจ Thaksin Shinawatra เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ระหว่างเดินทางหลังจากไปร่วมฉลองวันเกิดที่ฮ่องกงกลับไปดูไบว่า ตนดูแล้วรู้สึกขำว่ายังมีคนคิดพิเรนทร์อยู่อีก พร้อมชี้ว่า อัลกออิดะห์ แท้จะไม่เปิดหน้าเพราะกลัวถูกตามฆ่า ไม่ใส่นาฬิกาสีทอง สำเนียงพูดจะต้องเป็นเสียงมุสลิมปากีสถาน และอัลกออิดะห์ ไม่ให้ความสนใจเข้ามายุ่งเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนใต้
 
“ก็เลยอยากจะบอกพี่น้องคนไทยว่า ก่อนจะเชื่ออะไรต้องมีวิธีคิด รู้จักคิดและวิเคราะห์ ไม่เช่นนั้นจะตกเป็นเหยื่อของข่าวหลอก และข่าวลือครับ วันนี้เราโดนต้มกันเยอะ จนมีครั้งหนึ่งผมจำได้ดี ตอนผมทำธุรกิจอยู่ประมาณ 20 ปีที่แล้ว ผมได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาด้านบริหารการจัดการชื่อดังของอเมริกาที่ชื่อ Boston Consulting Group (BCG) ตอนเขามาทำ Presentation เพื่อเป็นการวิเคราะห์สังคมไทย ประโยคแรกที่ขึ้นมาบน slide เขาบอกว่า Thailand is rumour driven society…


“ผมเห็นแล้วทั้งขำทั้งเศร้า เพราะฝรั่งยังรู้จุดอ่อนของสังคมไทยว่าเป็นสังคมข่าวลือ (แถมข่าวปล่อยด้วย) เลยทำให้เราต้องกลับมาคิดว่าเราจะแก้อย่างไรที่สังคมไทยจะเป็นสังคมที่รู้จักพินิจพิเคราะห์ ไม่เชื่อง่าย ไม่โดนหลอกง่าย”
 
แน่นอนว่าบุคคลในคลิปอาจจะไม่ใช่ระดับแกนนำของกลุ่มอัลกออิดะห์ แต่ก็เช่นเดียวกันอาจจะไม่ได้หมายความว่า พวกเขาไม่ได้เป็นเครือข่าย หรือมีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงไปถึง ต้องไม่ลืมว่ากลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ในภูมิภาคนี้ หรือในหลายๆ ประเทศรอบบ้านเรา ล้วนมีจุดที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกันได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยาห์ หรือกลุ่มเจไอ ในอินโดนีเซีย กลุ่มอาบูไซยาฟ หรือนักรบโมโร ในฟิลิปปินส์ กลุ่มมูจาฮิดีน หรือเคเอ็มเอ็ม ในมาเลเซีย
 
ขนาดทางการไทยเรายังเคยจับกุมตัว “ฮัมบาลี” ผู้ที่ถูกกล่าวหาเป็นแกนนำของกลุ่มเจไอ ในอินโดนีเซียเมื่อปี 2546 แล้วนำตัวส่งให้แก่ทางการสหรัฐฯ ไปแล้ว ซึ่งในครั้งนั้นก็มีข่าวยืนยันว่า นายฮัมบาลี มีสายสัมพันธ์ที่สายใยถึงกลุ่มทีเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ชายแดนใต้ของเราด้วย
 
นอกจากนี้แล้ว ที่ผ่านมาฝ่ายความมั่นคงก็ออกมายอมรับแล้วไม่ใช่หรือว่า มีระดับนำของกลุ่มที่เคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนในชายแดนใต้ของไทย มีสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงได้ถึงหลายขบวนการก่อการร้ายในระดับสากล โดยเฉพาะเส้นสายที่ได้เชื่อมต่อกันจากการได้ไปร่ำเรียนในหลายๆ ประเทศของโลกมุสลิม
 
จากการที่ นช.ทักษิณ และระบอบทักษิณจุดไฟใต้ยุคใหม่ขึ้นมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่กลุ่มและขบวนการก่อการร้ายต่างๆ ในหลายประเทศเติบโตเบ่งบานขึ้นเป็นดอกเห็ด จึงเป็นเหมือนกับช่วยให้กลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ในชายแดนใต้ได้มีโอกาสะเชื่อมร้อยกับขบวนการก่อการร้ายสากลต่างๆ หลายครั้งปัญหาไฟใต้ที่รัฐบาลไทยเราพร่ำพ่นว่าเป็นเรื่องภายในประเทศ มักจะถูกดึงโยงให้นานาชาติเข้ามาเมียงมองอย่างใส่ใจได้เสมอๆ
 
ไม่เพียงเท่านั้น นับจากไฟใต้ระลอกใหม่โชนเปลว คนไทยก็สัมผัสได้ถึงปฏิบัติการก่อเหตุในชายแดนใต้ ซึ่งมีพัฒนาการทั้งในด้านกลยุทธ์ และด้านกลวิธีที่แทบไม่แตกต่างจากก่อการร้ายสากล ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทำระเบิดแสวงเครื่อง รูปแบบการฝึก และการออกปฏิบัติการก็มีแบบแผน เรื่องนี้แม้งานทางวิชาการที่ฝ่ายกองทัพให้การสนับสนุนยังระบุไว้ว่า ปฏิบัติการก่อเหตุของโจรใต้ยุคใหม่เป็นในลักษณะเดียวกับการนำคนจากหลายที่หลายทางไปประกอบขึ้นเป็น “เซลล์” จึงยากต่อการติดตามและตรวจสอบ
 
มีข้อที่ให้สังเกตได้ว่า เมื่อถึงเวลาที่คนรุ่นใหม่ที่ถูกชักชวนให้เข้าร่วมขบวนการเสร็จจากการฝึกฝนมาอย่างหนักแล้ว ปฏิบัติการแรกเริ่มมักจะให้รวมตัวกันประมาณ 6 คนต่อ 1 เซลล์ แล้วออกก่อเหตุปั่นป่วนพื้นที่ต่างๆ เช่น วางระเบิดเพลง เผายางรถยนต์ ตู้โทรศัพท์ กล้องวงจรปิด ติดป้ายผ้าที่มีข้อความปลุกใจ หรือโจมตีเจ้าหน้าที่ บางครั้งก็เป็นธงชาติมาเลเซีย พ่นหรือทาสีบนป้าย บนท้องถนน หรือทรัพย์สินของรัฐต่างๆ จากนั้นขยับขึ้นเป็นปฏิบัติการยิงรายวัน แล้วตามด้วยระเบิด หรือจัดหนักในรูปแบบต่างๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
 
สุดท้ายก็จะมีที่ถูกเลือกให้เป็นมือดีระดับ “อาร์เคเค (RKK)” จำนวนหนึ่ง ส่วนที่กลับกลับเข้าชุมชนไปเป็น “แนวร่วม” ที่ค่อยช่วยเหลือในภารกิจต่างๆ
 
สิ่งที่ยืนยันในเรื่องนี้ได้ดีที่สุดก็คือ เหตุการณ์กรือแซะ ที่ถูกอ้างอิงในคลิปวิดีโออัลกออิดะห์นั่นไง แต่คนส่วนใหญ่มักจะเลือกจดจำแต่ภาพที่เกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 28 เม.ย.2547 ซึ่งเป็นภาพที่เจ้าหน้าที่โจมตีกลุ่มคนที่เข้าไปหลบอยู่ในมัสยิดกรือแซะ ศาสนสถานอันเป็นศูนย์รวมใจของมุสลิม
 
แต่แท้จริงแล้วเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณว่าน่าจะร่วม 200 ชีวิต ได้ไปรวมตัวแล้วประกอบขึ้นเป็นเซลล์กระจ่ายกันเข้าจู่โจมป้อม จุดตรวจ โรงพัก ที่ว่าการอำเภอ หรือสถานที่ราชการต่างๆ ทั่วพื้นที่ชายแดนใต้ เกิดการปะทะและเสียชีวิตกันไปจำนวนมากตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งหากย้อนไปติดตามข่าววันนั้น เราจะพบข้อสังเกตที่ว่า แต่ละเซลล์ที่เข้าโจมตีจุดปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่รัฐ แทบทุกเซลล์จะประกอบขึ้นจากคนจำนวนประมาณ 6 คน กับรถจักรยานยนต์ 3 คัน
 
ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่กลุ่มคนในคลิปอัลกออิดะห์เลือกที่จะหยิบเอาเหตุการณ์กรือแซะกลับมาข่มขู่ และอาฆาตแค้นต่อ นช.ทักษิณ เพราะนอกจากภาพของมัสยิดกรือแซะที่ “อ่อนไหว” แล้ว การเสียชีวิตของพี่น้องมุสลิมกว่าร้อยศพในวันนั้น ต่างก็ถือกันว่าเป็นการทำ “จีฮัด” อีกด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้กระทบใจมุสลิมที่เป็นพี่น้องกันทั่วโลกอย่างแน่นอน
 
แม้ นช.ทักษิณ จะพยายามออกมากลบเกลื่อนความรู้สึกที่มีต่อของคลิปของขวัญวันเกิดจากกลุ่มคนที่ไม่พึงประสงค์ว่า เมื่อได้ดูแล้วก็รู้สึกขำบ้าง เป็นฝีมือของพวกคิดพิเรนทร์บ้าง หรือแม้แต่ต่อว่าคนไทยเป็นสังคมชมชอบข่าวลือแล้วก็ตาม แต่นั่นเป็นภาพที่ขัดแย้งอย่างยิ่งกับที่มีข่าวสะพัดระบุว่า ในค่ำคืนวันที่ของวันที่ 26 ก.ค. ร่วมงานฉลองวันเกิดให้ตัวเองอยู่นั้น พอทราบข่าวเรื่องคลิปวิดีโอนี้ถึงกลับหน้าถอดสีแล้วรีบออกจากงานฉลองไปทันที ซึ่งเท็จจริงอย่างไรคนจำนวนมากก็เชื่อไปแล้ว เนื่องจากบุคลิกความเป็นคนขี้ขลาดเป็นเครื่องการันตีได้ดี
 
ถ้า นช.ทักษิณ แค่ขำ แบบไม่อยากใส่ใจอะไรกับคลิปของขวัญชิ้นนี้ เหตุใดจึงให้สมุนบริวารที่กุมกลไกอำนาจรัฐอยู่ โดยเฉพาะในกระทรวงไอซีที ไล่บี้ ไล่ปิด ไล่ปลด คลิปวิดีโอดังกล่าวออกจากเครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์เสียวุ่นวายแบบขัดคอนักท่องโลกไซเบอร์มาตลอด
 
หรือว่านักโทษหนีคุกที่กลายเป็นสัมภเวสีโหยหาแผ่นดินเกิดไว้ฝังร่าง เขารู้อยู่เต็มอกตัวเองแล้วว่า ไม่ว่าผู้ที่ทำคลิปวิดีโอชิ้นนี้จะเกี่ยวข้อง หรือเป็นเครือข่ายอัลกออิดะห์หรือไม่ก็ตาม แต่วิกฤตไฟใต้ยุคใหม่ที่เขาจุดไม้ขีดก้านแรกให้ปะทุโชนเปลวขึ้นมาอีกระลอก มันได้เชื่อมโยงกับขบวนการก่อการร้ายสากลไปแล้ว และเหตุการณ์ที่กลุ่มคนในคลิปหยิบมากล่าวอาฆาตแค้นขู่ฆ่านั้น มันก็ช่างเป็นเรื่องน่าขนลุกขนพองไม่น้อยเอาเลยเสียด้วย!!!!
กำลังโหลดความคิดเห็น