xs
xsm
sm
md
lg

จับกระแสคลิปล่าสังหาร ข่มขวัญ “ทักษิณ” ลดโอหัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายงานการเมือง

อึกทึกครึกโครมอีกครั้ง เมื่อจู่ๆ ผู้ใช้นามว่า “mansoor ahmed volvo” โพสต์คลิปวีดีโอลงในเว็บไซต์ยูทิวบ์ ใช้หัวข้อว่า “Al-Qaeda video against former Thailand Prime Minister Thaksin Shinawatra” แปลเป็นไทยว่า “วีดีโอจากอัลกออิดะห์ต่อต้านอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ทักษิณ ชินวัตร”

โดยมีความยาวประมาณ 2.45 นาที จำนวน 2 คลิป มีชายแต่งกายคล้ายชาวตะวันออกกลางประกาศไล่ล่า “นช.แม้ว” เนื่องจากไม่พอใจเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ เมื่อปี ค.ศ.2004 (พ.ศ.2547)

ทั้งนี้คลิปดังถูกโพสต์เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 64 ปีของ “ทักษิณ ชินวัตร” พอดิบพอดี และคงเป็น “ของขวัญวันเกิด” ที่เจ้าตัวไม่พึงประสงค์เท่าไรนัก

คลิปที่ว่าคนไทยสามารถดูได้ไม่ถึงวัน เพราะรุ่งขึ้น “กระทรวงไอซีที” ก็ไวปานวอก ตามลบตามบล็อก เพื่อปกป้อง “นายใหญ่” จนหายไปจากเวบไซต์ยูทิวบ์ แต่ก็ยากที่จะปิดให้มิด เพราะก่อนหน้านั้นมีดูดเก็บไว้และแชร์กันในหลายสื่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อันที่จริง “กระทรวงไอซีที” ไม่มีความจำเป็นที่ต้องออกแอกชั่นมาตามบล็อกคลิปดังกล่าวเลย เพราะเรื่องนี้ไม่น่าถือเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ เป็นแค่เรื่องของความไม่ปลอดภัยของ “ทักษิณ” คนเดียวเท่านั้น

จับอาการลิ่วล้อ “นช.แม้ว” หลังมีคลิปออกมาก็ดูแปลกๆ เพราะปกติถ้า “นายใหญ่” ถูก “ฝั่งตรงข้าม” เล่นเกมตีกิน โดยมีความเชื่อว่าหวังดิสเครดิตที่มีอยู่น้อยนิดแล้ว ให้เหลือน้อยลงไปอีก บรรดาสมุนจะออกมาปกป้อง ทำตัวเป็น “องครักษ์” คอย “พิทักษ์มาร” อยู่ร่ำไป

มาครั้งนี้ไฉนจึงเลือกที่จะเงียบกันหมด ไม่ออกมาปกป้องแบบดุเด็ดเผ็ดมันเหมือนแต่เคย

จับกระแสอ่านทางได้ว่า บรรดาลิ่วล้อ “นช.แม้ว” คงออกอาการเกร็งๆ เพราะคลิปที่ออกมามีเนื้อหารุนแรงหมาย “เอาชีวิต” หากรีบปากเสียจ้องจะเลีย “นาย” เผลอพูดไปก่อนโดยไม่คิด อาจจะทำให้ข่าวเพี้ยนไปได้ หรือบรรดาลิ่วล้อก็อาจจะกลัวโดนหางเลขกับ “นายใหญ่” ไปด้วย จึงขออยู่ในที่ตั้ง เล่นบทเงียบเพื่อเอาตัวรอดเป็นยอดดีเสียดีกว่า

แต่ที่จับกระแสตีกินเล่นปกป้อง “เดอะแม้ว” คนแรกหนีไม่พ้น “หลานแมว” พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ช่วงหลังยึดไมค์โครโฟนทำหน้าที่เสมือน “โฆษกด้านความมั่นคง” ของรัฐบาลไปแล้ว

โดย “เสธ.แมว” ออกมาบลั๊ฟเลยว่าเนื้อหาใน “คลิปขู่ฆ่าแม้ว” เป็นฝีมือของ “ฝั่งตรงข้าม” ของรัฐบาลที่พยายามดึงเอาทุกประเด็นมาจุดกระแสเลี้ยงให้ “ม็อบ” โตเร็ว เพื่อเผด็จศึกรัฐบาล

ซึ่งหลักการคิดของ “เสธ.แมว” พยายามเชื่อมโยงทุกประเด็นเข้าสู่การเมืองภาพใหญ่ ที่จะเกิดการต่อสู้แย่งชิงกันมากขึ้น หลังจากเปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 1 สิงหาคมนี้

ตรงนี้เองทำให้ “เลขาฯ สมช.” ถูกมองว่าทำหน้าที่เกินความเป็น “ข้าราชการ” ไปเยอะ เพราะคอยออกมาให้ข่าวบลั๊ฟทุกสิ่งทุกอย่างว่า “ฝั่งตรงข้าม” ทำ โดยหากสังเคราะห์ลงไปใน “เนื้อข่าว” ของ “เสธ.แมว” แล้ว ข้อมูลส่วนใหญ่มาจาก “สันติบาล” ทั้งสิ้น

ทำให้ข้อมูลไม่ต่างอะไรจากตำรวจที่คอยไล่เช็กข่าวตามกระแสไปวันๆ ไม่มีการวิเคราะห์ข่าวเชิงลึก สังเคราะห์ข่าวเชิงลึก อย่างเป็นรูปธรรม

ผิดกับข้อมูลของ “สำนักข่าวกรองแห่งชาติ” หรือ สขช.ที่ค่อนข้างแม่นยำ เพราะผ่านกระบวนการวิเคราะห์-สังเคราะห์ มาเป็นอย่างดี แต่น่าเสียดายที่รัฐบาลชุดนี้ ไม่ใช้ “ข่าว” ของ สขช. เพราะมัวแต่ระแวงว่า “สุวะพันธ์ ตันยุวรรธณะ” ผอ.สขช. เป็นขั้วเก่า “เด็ก ปชป.”

ดังนั้นข่าวที่ออกจากปาก “เสธ.แมว” หรือที่ออกจากปากคนในรัฐบาล จึงเชื่อถือไม่ค่อยได้ เพราะมีนัยทางการเมืองแฝงอยู่เยอะ ลืมตัวตนว่าเป็น “ข้าราชการ” ไม่ใช่ “นักการเมือง” ทำให้สังคมเกิดความสับสนกับประเด็นข่าวที่ปล่อยออกมา ซึ่งอาจเป็น “ข่าวมั่ว” จะย้อนศรมาเป็น “ธนูพิษ” ฆ่า “นาย” ของตัวเองได้เหมือนกัน

เช่นเดียวกับ “รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง” พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ย้ำแล้วย้ำอีกว่าบุคคลที่ปรากฎในคลิปเป็น “อัลกออิดะห์ปลอม” แล้วฟันธงทันทีว่า ไม่มีมูลความจริง แต่ก็มีการประสานในทางลับหาต้นตอกับหน่วยข่าวทั้งในและต่างประเทศ พร้อมตั้งสมมติฐานเองว่า เป็นฝีมือของฝ่ายคนไทยที่มีแนวความคิดต่างกันกับรัฐบาล ต้องการดิสเครดิตรัฐบาล และสร้างข่าวเพื่อให้รัฐบาลเสียสมาธิ

เป็น 2 เสียงของฝ่ายรัฐที่เห็นว่า คลิปดังกล่าวเป็นของปลอม และชี้เป้าไปที่การเมืองในประเทศมากกว่า

สวนทางกับ “พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์” ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) ที่เชื่อว่าคลิปขู่ฆ่า “ทักษิณ” ไม่ได้ตัดต่อ และพบว่าเป็นคลิปที่มาจากทางตะวันออกกลาง ซึ่งต้องตรวจสอบว่าเป็นกลุ่มไหน

ฟังความจากคนของฝ่ายรัฐแล้วก็ยังไม่มั่นใจว่าจะจริงหรือเท็จอย่างไร และคงต้องใช้เวลาอีกระยะในการตรวจสอบ

ซึ่งข้อมูลทางการข่าวเชิงลึกระบุว่า คลิปดังกล่าวไม่ได้มีการตัดต่อ ผู้โพสต์อาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านของไทย โดยพุ่งเป้าไปที่ “กลุ่มต่อต้านรัฐบาลมาเลเซีย” ที่ว่ากันว่าสนับสนุน “อันวาร์ อิบราฮิม” ผู้นำฝ่ายค้านของมาเลเซีย ซึ่งมี “นาจิบ ราซัค” นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เป็นศัตรูเบอร์หนึ่ง

ต้นสายปลายเหตุก็มาจากท่าทีของ “นช.แม้ว” ที่มีสัมพันธ์ลึกกับ “นาจิบ” ท่าทีของ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ที่แน่นแฟ้นกับ “รัฐบาลพรรคอัมโน” จึงไม่แปลกที่ “กลุ่มต่อต้านรัฐบาลมาเลเซีย” จะเกิดอาการหมั่นไส้ ออกคลิปหมาย “เอาชีวิต” กันก็เป็นได้ โดยการนำเรื่องจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เสมือน “ตราบาป” ของ “นช.แม้ว” ที่ทำผิดเอาไว้กับประเทศไทยมาขยายความเล่นงานชี้ให้เห็นกันเลยว่าใครเป็นใคร

เพราะการเมืองในมาเลเซียก็มีการแอบซุบซิบกันว่า “นช.แม้ว” มีส่วนในการช่วยให้ “นาจิบ” ก้าวเข้าสู่อำนาจอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะประเด็นการพูดคุยสันติภาพ ที่ได้ใจ “คนมาเลเซีย” ไปไม่ได้ใช่น้อย เนื่องจากคนไทยที่มีสัญชาติมาเลเซีย มีสิทธิในการเลือกตั้งมากพอสมควร

นอกจากนี้ยังลือกันแซ่ดว่า ดีไม่ดีเป็น “นช.แม้ว” ที่คอยให้การสนับสนุนส่งท่อน้ำเลี้ยงให้อยู่อีกต่างหาก

เมื่อฝั่งตรงข้ามของ “นาจิบ” รู้ว่า “นช.แม้ว” มีความสำคัญอย่างไร การออกมาประกาศผ่านเว็บไซต์ยูทิวบ์ จึงเป็นเรื่องไม่ธรรมดา เพราะหากไล่เรียงดูจะพบเงื่อนงำตามที่กล่าวมา หลังจากนี้สังสัย “นช.แม้ว” จะเดินเข้าเดินออก “มาเลเซีย” อย่างสะดวกโยธินเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว และต้องระวังหลังให้มากขึ้น คนเราสร้างศัตรูไว้เยอะอยู่ที่ไหนก็ไม่ปลอดภัย

งานนี้คงมีหวังเพิ่มหน่วยรักษาความปลอดภัย ชุดคุ้มกัน “นช.แม้ว” กันยกใหญ่

ขณะที่ต้องไม่ลืมว่า ระยะหลัง “ทักษิณ” นับวันยิ่งฮึกเหิมพองขนมากขึ้น ขยับแข้งขยับขาบินไปมาหลายประเทศอย่างสบายอกสบายใจ เป็นธรรมดาที่ต้องมีผู้ไม่พอใจ ถึงขั้นหมั่นไส้ก็ไม่แปลก

หากเป็น “คำขู่” ที่มาจากกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่ไม่พอใจท่าทีรัฐบาลยิ่งลักษณ์กับมุสลิมในประเทศไทย ต่อเนื่องมาจากนโยบายรัฐบาลทักษิณในอดีต ก็มีความเป็นไปได้สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เหตุการณ์กรือเซะ” ที่กล่าวถึงในคลิป ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมถึง 32 ราย แม้จะล่วงเลยมานานเกือบ 10 ปี ต่อเนื่องไปถึง “เหตุกาณณ์ตากใบ” ที่เป็นการสังหารหมู่มีผู้เสียชีวิตถึง 77 ราย

เชื่อว่าความโหดร้ายในครั้งนั้น “คนมุสลิม” ไม่มีทางลืมเลือน ดังคำโบราณที่ว่า “ลูกผู้ชาย สิบปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย”

หรือมองอีกด้านอาจจะเป็น “คำขู่” ที่ออกจากฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลจริง ก็คงเป็นการ “ข่มขวัญ” กระตุกเสื้อปรามไม่ให้ “ทักษิณ” คิดการใหญ่จนเกินตัว ก็เป็นไปได้เช่นกัน

จริงเท็จอย่างไร ตอนนี้ยังไม่ทราบได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้ “ทักษิณ” ที่ยโสโอหังขึ้นทุกวัน ระแวดระวังตัวมากขึ้น

เพราะคนประเภทนี้จริงๆไม่ต้องถึงขั้นผู้ก่อการร้ายออกมาขู่ แค่จิ้งจกทักก็หน้าซีดแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น