ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ญาติ “ส.อ.อดิพงษ์” ทหาร ฉก.ปัตตานี 25 ซึ่งบาดเจ็บสาหัสจากเหตุระเบิด ร้องหน่วยงานต้นสังกัดไม่เหลียวแล มีแค่เงินเยียวยา 2 หมื่นหลังจากเกิดเหตุ ขณะนี้ผู้ป่วยต้องผ่าตัดสมอง 2 ครั้ง ใช้เครื่องช่วยหายใจ และขยับตัวไม่ได้ วอนผู้บังคับบัญชายื่นมือช่วยเหลือบ้าง เนื่องจากบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่
จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊ส น้ำหนักประมาณ 50 กก. ในพื้นที่หมู่บ้านลาวอ ม.3 ต.กระหว๊ะ อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ทหารสังกัด ร้อย ร.15331 ฉก.ปัตตานี 25 จำนวน 8 นาย ใช้รถยนต์ออกลาดตระเวนเส้นทางเพื่อดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ เป็นเหตุให้ทหารชุดดังกล่าวได้รับบาดเจ็บตามข่าว (ดักบึ้มหวังสังหารหมู่ทหารปัตตานี สาหัส 1 อีก 7 ปลอดภัยแล้ว) ที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด ส.อ.อดิพงษ์ รักษ์วงศ์ หรือ “หมู่โต” ซึ่งบาดเจ็บสาหัสจากเหตุระเบิดดังกล่าว ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกฉุกเฉิน โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โดยมีการผ่าตัดสมองแล้ว 2 ครั้ง ซึ่ง น.ส.พิฐชยาณ์ แก้วคง คนใกล้ชิดได้เปิดเผยข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า หลังจากผ่าตัดสมอง หมู่โตตื่นมาก็เหมือนเด็ก สมองเริ่มใหม่ทั้งหมด ไม่รับรู้อะไรเลย ไม่พูดกับใคร มีอาการหวาดระแวง หวาดกลัว แขนข้างขวาเป็นแขนข้างสำคัญต้องพิการ
นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่าหลังจากเกิดเหตุระเบิดได้เงินช่วยเหลือเยียวยาจากหลายๆ หน่วยงานรวมกันเป็นเงิน 20,000 บาท ซึ่งถือว่าไม่เพียงพอสำหรับการดูแลผู้ป่วยตลอดเวลากว่า 20 วันที่ผ่านมา ที่สำคัญ ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดก็นิ่งเฉยไม่เคยมาดูแล ไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยดูแลผู้ป่วยด้วย ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผู้บาดเจ็บจากหน่วยงานอื่นที่พักรักษาตัวใกล้เคียงกันพบว่าแตกต่างกันมาก เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยมาช่วยดูแล และผู้บังคับบัญชาก็มาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจญาติ ขณะที่แม่ของหมู่โตซึ่งเป็นผู้เฝ้าไข้จะต้องปูเสื่อนั่งรออยู่หน้าห้องผู้ป่วย
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติม น.ส.พิฐชยาณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ช่วยเหลือให้ย้ายหมู่โตไปรักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ โดยโรงพยาบาลพระมงกุฎตอบรับแล้ว แต่ยังไม่สามารถย้ายไปรักษาได้ เนื่องจากเพิ่งผ่าตัดสมองถึง 2 ครั้ง แพทย์ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์เกรงว่าหากมีการเคลื่อนย้าย สมองของผู้ป่วยจะกระทบกระเทือน และภายหลังจากมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กว่าต้นสังกัดของหมู่โตไม่ได้ยื่นมือมาช่วยเหลือตามที่ควรจะเป็นนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่ทางหน่วยงานของหมู่โตเดินทางมาหา 2 นาย พร้อมกับมอบเงินให้อีก 20,000 บาท
“จนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้มีหน่วยไหนลงมาดูแลเลย ไม่ได้รับการเยียวยาเลย มีแต่เพื่อนๆ ของโตมาเยี่ยมตลอด เปรียบเทียบกับหน่วยอื่นซึ่งพักรักษาตัวอยู่ใกล้กัน โดนยิงแค่นิดเดียว ทางหน่วยพาคนมาเยี่ยม จัดห้องในสัดส่วนของคนเฝ้าไข้ให้อย่างดี แต่นี่อะไร แม่ของโตเป็นคนเฝ้าไข้ตลอด ต้องออกไปซื้อผ้าอ้อมสำหรับผู้ป่วยมาเปลี่ยนให้ เพราะโตต้องนอนกับที่ตลอดเวลา ขยับไม่ได้ ที่นั่งของคนเฝ้าไข้ก็แค่เสื่อ 1 ผืน แม่นั่งปูเสื่อเฝ้าลูกหน้าห้องทุกวัน ไม่มีใคร ไม่มีหน่วยงานไหนมาสนใจ พ่อแม่ไม่น่าอยู่แบบอนาถานะคะ ตามหลักความเป็นจริง ผู้การของหน่วยต้องมาดูแลไม่ใช่เหรอ นี่เขาโดนระเบิดขณะปฏิบัติหน้าที่ ถ้าเขาเมาแล้วเดินสะดุดกับระเบิดจะไม่ว่าเลย” น.ส.พิฐชยาณ์ กล่าว
