ยะลาร่วมประชุมหาข้อสรุปเหตุการณ์ไม่สงบ เตรียมแถลงต่อ ปชช.

ยะลา - คณะทำงานและศูนย์ประสานงานส่งเสริมสันติภาพในช่วงเดือนรอมฎอนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชุมหาข้อสรุปกรณีเหตุไม่สงบที่เกิดขึ้น ให้ความกระจ่างต่อประชาชน เผยเน้นเรื่องครูตาดีกา ที่บันนังสตา และครูเสียชีวิต 2 ราย ที่ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (29 ก.ค.) ที่อาคารชั้น 3 ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) คณะทำงานและศูนย์ประสานงานส่งเสริมสันติภาพในช่วงเดือนรอมฎอนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ประชุมคณะทำงานเพื่อเตรียมแถลงผลสรุปจากการลงพื้นที่หาสาเหตุ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงเดือนรอมฎอน นำโดย พล.ต.ชรินทร์ อมรแก้ว รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และคณะทำงานจากหลายภาคส่วนทั้งตำรวจ ทหาร และภาคประชาชน รวม 42 คน

โดยมีอำนาจหน้าที่คือ สังเกตการณ์ และติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสันติภาพในช่วงเดือนรอมฎอน ประจำปี 2556 ตามคำแนะนำของสำนักจุฬาราชมนตรี และนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ติดตามและตรวจสอบเบื้องต้นเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่เฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอน และหลังเดือนรอมฎอน รวมเวลา 60 วัน (ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค-3 ก.ย.56) รวมทั้งรวบรวมข้อมูล ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากประชาชน ผู้นำ และหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทั้งกรณีเกิด หรือไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ช่วงเดือนรอมฎอน

มีรายงานว่า การประชุมครั้งนี้จะมีการนำข้อมูลกรณีทางขบวนการบีอาร์เอ็นได้ส่งหนังสือผ่านมาเลเซียเพื่อประท้วงฝ่ายไทยละเมิดหยุดยิงช่วงเดือนรอมฎอน เช่นกรณี นายมะสุเพียน และคนร้ายยิงนายมะยาหะรี อาลี ซึ่งเป็นที่สนใจของสังคม เนื่องจากผู้ตายเป็นผู้นำศาสนาในพื้นที่ที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือ มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนตาดีกา บ้านบันนังกูแว ม.4 ต.บันนังสตา อ.บันนังสา จ.ยะลา เป็นกรรมการชมรมตาดีกาเภอบันนังสตา จ.ยะลา ที่ผ่านมา เคยถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวไปสอบสวนหลายครั้ง และล่าสุด กรณีคนร้ายลอบวางระเบิดครูเสียชีวิต 2 ราย ที่ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส มีการปล่อยข่าวว่าครูที่เสียชีวิตโดนกระสุนของตำรวจที่ขับรถตามหลัง ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะต้องตอบให้เกิดความกระจ่างต่อประชาชน

นายไกรศร วิศิษฐ์วงศ์ ผู้อำนวยการสำนักภาคประชาสังคม ศอ.บต. ในฐานะเลขาธิการคณะทำงานและศูนย์ประสานงานส่งเสริมสันติภาพในช่วงเดือนรอมฎอนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมว่า ในวันนี้ เป็นการประชุมครั้งที่ 4 ของคณะทำงาน จะมีเรื่องหลักๆ 3-4 เรื่อง คือ การติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 20 วันในเดือนรอมฎอน เป็นการเปรียบเทียบสถิติ รวมทั้งติดตามเรื่องที่อยู่ในความสนใจเป็นพิเศษของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เช่น เรื่องครูตาดีกา ที่บันนังสตา ในวันนี้ก็จะให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจนำข้อมูลความคืบหน้ามาชี้แจงในที่ประชุม รวมทั้งกรณีระเบิดที่หน้าโรงพยาบาลจะแนะ นราธิวาส ซึ่งข่าวสารก็ออกไปแล้ว แต่เพื่อความกระจ่างชัดทางผู้รับผิดชอบ คือ ตำรวจ ก็จะนำข้อมูลมารายงานในที่ประชุมเพื่อในที่ประชุมจะได้พิจารณา วิเคราะห์ว่าเป็นอย่างไร หลักๆ ก็จะทำในสองเรื่องนี้ให้มีความกระจ่างชัดขึ้น

“ประเด็นต่อมาก็คือ อยากให้การประชุมที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการฯ อยากให้ทาง กระทรวงต่างประเทศ ทาง สมช. หรือหน่วยงานส่วนกลางที่รับผิดชอบเรื่องนี้ เข้ามารับรู้การทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ เพื่อนำข้อมูลไปใช้ดำเนินการต่อไป รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารต่างๆ ทั้งนี้ก็ จะมีการรับฟังการทำงานของคณะต่างๆ ที่ลงพื้นที่ไปทำงาน โดยเฉพาะของสภาที่ปรึกษา ศอ บต. ที่ลงพื้นที่รับฟังปัญหา ก็จะนำข้อมูลทั้งหมดมานำเสนอในที่ประชุม” นายไกรศร กล่าว

เลขาธิการคณะทำงานฯ ยังกล่าวอีกว่า ข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากการประชุมนี้ ก็จะนำไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ และที่สำคัญ จะทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทราบ รวมทั้งเพื่อหาวิธีการทำงานขยายความร่วมมือร่วมกัน ส่วนการสื่อสารข้อมูลไปยังฝ่ายบีอาร์เอ็นนั้นก็จะมีส่วนที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการต่อ