ชาวเลเกาะหลีเป๊ะโร่ร้องผู้ว่าฯ ถูกนายทุนไล่ที่เดือดร้อนหนักไร้ที่อยู่อาศัย

สตูล - วิกฤตชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ ไร้ที่อยู่อาศัย โร่ร้องผู้ว่าฯ จัดคณะกรรมการตรวจสอบปัญหาวิถีชีวิตชาวเล หลังพบนายทุนเข้าข่มขู่ขับไล่ที่อยู่อาศัย เดือดร้อนหลายครัวเรือน

วันนี้ (23 ก.ค.) ชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ หมู่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล กว่า 130 ครัวเรือน ร้องเรียนผ่าน นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล หลังต้องการความเป็นธรรมเรื่องที่ดิน ที่อยู่อาศัย หลังถูกหลอกให้ขายที่ดินสร้างรีสอร์ต บ้านพักให้แก่นักท่องเที่ยว และหลอกให้ชาวบ้านเซ็นหนังสือขายที่ดิน จนชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะในขณะนี้ไม่มีที่อยู่อาศัย วอนขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล แต่งตั้งคณะกรรมการเรื่องฟื้นฟูชาวเล หารือแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ด้านนายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้นำคณะหัวหน้าส่วนจังหวัดสตูล ลงพื้นที่หน้าโรงเรียนบ้านเกาะอาดัง บนเกาะหลีเป๊ะ ม.7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล รับฟังปัญหาอย่างเร่งด่วน พร้อมรับเรื่องการร้องเรียนปัญหาชาวเลไร้ที่อยู่อาศัย และกรณีที่ถูกนายหน้า นักลงทุนเข้ามาหลอกซื้อที่ดินของชาวเล โดยเตรียมเข้าหารือประชุมเป็นวาระเร่งด่วนของจังหวัดสตูลทันที หลังรับเรื่องร้องทุกข์ของชาวเลในครั้งนี้

นางสมใจ หาญทะเล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 ม.7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เล่าว่า ตนเองเป็นชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ อยู่มาตั้งแต่เด็กจนโตจนมีครอบครัว ซึ่งที่ผ่านมา เห็นว่าเพื่อนบ้านรวมทั้งญาติของตนเอง ถูกนายหน้าจัดหาที่ดินให้แก่นายทุนเข้าขอซื้อที่ดินของญาติๆ ไปเยอะ โดยตนมองว่า บนเกาะหลีเป๊ะ ขณะนี้มีแต่รีสอร์ท ความเป็นธรรมชาติไม่มีแล้ว ตนยอมสู้เพื่อเรียกร้องหาความเป็นธรรมเอาที่ดินกลับมา ยอมตาย เพราะเกาะหลีเป๊ะเป็นสมบัติของแผ่นดิน เป็นสมบัติที่ชาวเลอยู่มานาน แต่ก็แพ้ภัยให้แก่กลุ่มนายทุนบนเกาะที่เข้ามาหลอกขายเอาที่ดินเราไป จึงฝากให้ทางจังหวัดสตูล เอาใจใส่ดูแลชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะด้วย

เช่นเดียวกับ นางแสงโสม หาญทะเล อายุ 34 ปี ชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ ตัวแทนภาคประชาชน จ.สตูล ของคณะกรรมการอำนวยการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนอยู่ที่เกาะมานาน และเห็นว่าชาวเลถูกนายทุนระรานมาตลอด ซึ่งมีนายทุนเข้ามามากมาย และชาวเลเองไม่รู้หนังสือ ต้องขายที่ไปให้แก่นายทุน เพราะชาวเลนั้นต้องเจอคนแปลกหน้าเข้ามาขู่ และกลัวอำนาจเงิน ซึ่งนายทุนเอาเอกสารเข้ามา และไม่รู้ว่าเอกสารสิทธิที่เข้ามาแอบอ้างว่าจะเป็นเอกสารปลอมหรือเปล่า ชาวเลก็กลัว และต้องย้ายออกมา เพราะนายทุนอ้างว่าที่ดินเป็นของเขา เราจึงต้องย้ายออกมาจากที่เราอยู่อาศัย จนขณะนี้ชาวเลกลายเป็นชาวดอย ต้องย้ายไปอยู่หลังโรงโรงเรียนบนป่าภูเขา ไม่มีชายหาดเป็นของตนเอง ต้องหนีนายทุนไป

และขณะนี้ถือว่าเป็นปัญหาของชาวเลในปัจจุบันนี้ จนทุกวันนี้ชาวเลเครียดว่า เราจะไปอยู่ที่ไหน ขึ้นฝั่งก็ไม่ได้ ใครจะช่วยเหลือเราบ้าง เพราะทุกวันนี้ชาวเลถูกหลอก ถูกข่มขู่ จึงฝากวอนขอให้ทางภาครัฐตั้งคณะกรรมการตรวจสอบด้วย ว่าที่ตรงที่นายทุนอยู่มีเอกสารสิทธิจริงหรือไม่ มีตัวตนไหมที่เข้ามาอยู่ หรือเป็นเอกสารปลอม หรือคนที่มีเอกสารสิทธิอยู่แล้วจะไปขอเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก็ไม่ได้ เขามองว่าเป็นปัญหา ปัญหาอย่างไรช่วยแนะชี้แจงด้วย

นางแสงโสม กล่าวอีกว่า วันนี้จึงขอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการอย่างจริงจัง มิใช้มาหลบๆ ซ่อนๆ อยากให้ตั้งทั้งแบบจังหวัด แบบภาคประชาชน เพราะเราเดือดร้อนจริงๆ มาช่วยตรวจสอบพิสูจน์สิทธิที่ดิน เพราะชายหาดที่นายทุนเข้ามา ชาวเลไม่สามารถเดินไปเหยียบได้เลย จึงขอความเป็นธรรมตรงนี้ด้วย

ด้านนายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า ตอนนี้ทางจังหวัดสตูลจ ะทำเรื่องส่งไปถึงนายกรัฐมนตรี เพราะปัญหาที่ดินหลีเป๊ะ ของชาวเลตอนนี้กำลังลำบาก ที่ดินถูกนายทุนแย่งไป ส่วนทางจังหวัดสตูลจ ะต้องหารือแนวทางอีกครั้ง เพราะชาวเลกำลังไร้ที่อยู่ที่อาศัย เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการมีมากขึ้น สิ่งที่ทางจังหวัดสตูลจะต้องทำคือ หาแนวทาง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 มาใช้ และต้องดูความเดือดร้อนชาวบ้าน และด้านผู้ประกอบการเองต้องรู้กฎหมายตรงนี้ด้วย แต่อย่างไรเรารับเรื่องไว้แล้วจะรีบดำเนินการช่วยเหลือชาวเลทันที