ยะลา - ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้เห็นด้วยกับการแถลงการณ์ยุติความรุนแรงในพื้นที่ พร้อมติดตามเหตุการณ์ในพื้นที่ หากในช่วงเดือนรอมฎอนไม่เหตุร้ายเกิดขึ้นก็เท่ากับนิมิตหมายอันดีของการเจรจา
นายรักชาติ สุวรรณ ประธานชุมชนคูหามุข และตัวแทนกลุ่มชนพุทธกลุ่มน้อย ได้แสดงความคิดเห็นกรณีการแถลงยุติเหตุรุนแรงในห้วงเดือนรอมฎอนว่า หลังจากที่มีข่าวการแถลงข่าวยุติการก่อเหตุรุนแรงในห้วงเดือนรอมฎอน โดยเฉพาะกลุ่มคนไทยพุทธในพื้นที่ก็ได้ติดตาม และจับตาดูผลที่จะตามมา หลังมีการแถลงยุติความรุนแรง หากภายในเดือนรอมฎอนนี้ ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี และหากสามารถจะต่อระยะเวลาให้สถานการณ์ลดลง หรือไม่เกิดขึ้นเลย การพูดคุยสันติภาพก็ดูจะมีผลง่ายขึ้น
“ในส่วนของกลุ่มคนไทยพุทธในพื้นที่ ก็ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง และได้มีการนัดพบปะหารือ และพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว โดยบางกลุ่มมองว่า การออกมาแถลงการยุติเหตุรุนแรงถือเป็นเรื่องที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงอยากมีกองกำลังของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร ช่วยดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนไปอีกสักระยะหนึ่ง และจากการเฝ้าสังเกตพบว่า ด่านตรวจ ฐานทหาร เหมือนจะปล่อยปละละเลยจนเกินไป หลังมีการแถลงการณ์ยุติเหตุรุนแรง ดูเหมือนจะถอยกำลังการปฏิบัติ ซึ่งหากมีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจะสร้างความขัดแย้งก็สามารถจะลงมือได้ทันที ซึ่งยอมรับว่าในกลุ่มของคนไทยพุทธก็ยังคงเกิดความหวาดกลัวกันอยู่ ยังไม่เกิดความมั่นใจเลยทีเดียว” นายรักชาติ สุวรรณ กล่าว
ด้านนางคอลีเยาะ หะหลี ตัวแทนกลุ่มสตรีที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ได้เปิดเผยว่า ต้องขอบคุณประเทศมาเลเซียที่เป็นตัวกลางในการพูดคุย จนส่งผลให้มีการแถลงยุติเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในห้วงเดือนรอมฎอน ซึ่งถือเป็นเดือนอันประเสริฐของพี่น้องที่นับถือศาสนาอิสลาม และเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้ชีวิตกันอย่างปกติสุข ในห้วงเดือนรอมฎอน โดยตามหลักคำสอนแล้ว ในเดือนรอมฎอนมุสลิมทุกคนจะต้องแข่งขันกันทำความดี เป็นบ่าวที่ดีของพระเจ้า ของอัลลอฮ ละเว้นสิ่งที่เป็นบาป และอยากคนที่กำลังละเมิน หรือกระทำความผิดอยู่ได้ยุติ หรือหยุดการกระทำพร้อมๆ คำแถลงการณ์
“ตั้งแต่เข้าสู่เดือนรอมฎอน ก็เห็นได้ว่าเหตุการณ์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเชื่อว่าหลายๆ ฝ่าย ทั้งฝ่ายกลุ่มผู้ก่อเหตุเอง และฝ่ายเจ้าหน้าที่ต่างก็กำลังถอย และหากเป็นอย่างนี้ไปได้ตลอด แม้จะเลยห้วงเวลาเดือนรอมฎอนไปแล้วก็จะส่งผลดีต่อประชาชนในพื้นที่อย่างแน่นอน และส่งผลให้การพูดคุยสันติภาพสามารถที่จะดำเนินการต่อไปได้ อาจจะนำไปสู่ความสันติสุขที่ประชาชนกำลังเรียกหาอยู่” นางคอดีเยาะ กล่าว
