ที่ตลาดเมืองใหม่ เทศบาลนครยะลาวานนี้(9 ก.ค.) แออัดไปด้วยพี่น้องประชาชนที่ออกมาจับจ่ายซื้ออาหารคาว หวาน เตรียมพร้อมเข้าสู่เดือนรอมฎอน บรรยากาศในตลาดจึงค่อนข้างจะคึกคักเป็นพิเศษ ในขณะเดียวกันทางด้านรักษาความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ระบุว่า กำลังทหารยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยเช่นเดิม โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในการเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจ
หลังจากจุฬาราชมนตรีได้ประกาศออกมาแล้วว่า วันที่ 10 กรกฎาคม 2556 เป็นวันที่ 1 ของการเริ่มต้นถือศีลอด ซึ่งเรียกกันว่าเดือนรอมฎอน คือเดือนที่ 9 ของปฏิทินฮิจญ์เราะฮ์หรือปฏิทินอิสลาม เป็นเดือนที่มุสลิมถือศีลอดทั้งเดือน ด้วยเหตุนี้จึงเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า เดือนบวช และถือว่าเป็นเดือนที่สำคัญที่สุดเดือนหนึ่ง มุสลิมจะต้องอดอาหารเพื่อที่จะได้มีความรู้สึกถึงคนที่ไม่ได้รับการดูแลจากสังคม เช่นเดียวกับพี่น้องมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่สิ่งที่ต่างจากพื้นที่อื่นคือ เดือนรอมฎอนกลายเป็นตัวชี้วัด การก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเสนอการพูดคุยเจรจาเพื่อสันติระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น
พันเอกปราโมท พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ได้แยกการอำนวยความสะดวกออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือการอำนวยความสะดวกในการเดินทางเราได้มีการปรับจุดตรวจทางยุทธวิธีซึ่งเป็นจุดตรวจที่เราตั้งขึ้นมาตามสถานการณ์ ปกติก็จะไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ จุดตรวจตามยุทธวิธีเราจะเปิดทั้งหมดเพื่อเป็นจุดอำนวยความสะดวก ให้กับพี่น้องที่จะเดินทางสัญจรไปมาเพื่อที่จะไปประกอบศาสนกิจ ในส่วนของด่านตรวจถาวรที่มีอยู่ทั้งหมด 23 ด่าน ยังคงดำเนินการเหมือนเดิม เพราะเรามีความจำเป็นจะต้องมีการตรวจการผ่านเข้าออก ไม่อย่างนั้นอาจจะมีการทำผิดกฎหมายช่วยโอกาสเข้ามาทำหรือสร้างสถานการณ์ในช่วงนี้ได้ เพราะฉะนั้นในด่านตรวจถาวรสิ่งที่เราดำเนินการคือมีการตรวจเหมือนเดิม แต่พร้อมที่จะดำเนินความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนด้วย
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมาก่อนจะเข้าสู่ช่วงเดือนรอมฎอน กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก็ยังมีการก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันสุดท้ายก่อนเริ่มการถือศีลอด มีการแขวนป้ายผ้าขับไล่ทหารเป็นภาษารูมี ทั่วทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และบางส่วนของจังหวัดสงขลา
ด้าน นิมุ มะกาเจ ผู้นำศาสนา และผู้ทรงคุณวุฒิประจำ จ.ยะลา กล่าวว่า อยากจะขอร้องและเชิญชวนให้มุสลิมทั้งหลายทำดีให้มากที่สุด เพราะการทำดีในภาวะตรงนี้จะได้บุญทวีคูณมากกว่า เป็นผลบุญที่อัลเลาะห์รับไปเลยเพราะเป็นช่วงที่สวรรค์เปิด แม้บางคนจะคิดว่า การต่อสู้ก็ดี การสงครามก็ดีไม่เกี่ยวกับเดือนรอมฎอน ตรงนี้ก็ใช่ แต่ว่าเดือนรอมฎอนก็ไม่ได้ระบุว่าสงครามจะต้องหยุด แต่เราจะมองในอีกมุมมองหนึ่งก็คือ อย่าไปคิดว่าสงครามเรามองในแง่ของการทำความดี จึงอยากเรียกร้องว่าช่วงเดือนรอมฎอน ในการถือศีลอด อย่าไปทำลาย อย่างไปทำร้าย อย่าทำให้คนเสียหาย อย่าทำให้คนเจ็บช้ำน้ำใจ อย่าฆ่าคนเลย
ทั้งนี้จนถึงวินาทีสุดท้ายเช่นกันที่ทางการมาเลเซีย ผู้ประสานงานไทย-บีอาร์เอ็น ได้เลื่อนการแถลงหยุดก่อเหตุรุนแรงในช่วงเดือนรอมฎอน อย่างไม่มีกำหนด ด้าน สมช.ยังคงยืนยันในเจตนารมย์เดิม คือลดเหตุความรุนแรงในช่วงเดือนรอมฎอนตามกรอบที่ได้มีการพูดคุยกันไว้ระหว่างวันที่ 10 ก.ค.-18 ส.ค. มั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบกับข้อตกลงที่พูดคุยกันไว้ และจะมีการจับสถิติเทียบกับช่วง 3-4 ปีก่อน ซึ่งจะเป็นตัวบอกได้ว่าในช่วงรอมฎอนเหตุรุนแรงลดลงหรือไม่ พร้อมกับมีความระมัดระวังในส่วนของการป้องกันเหตุและไม่ประมาท