ตรัง - สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง และอำเภอรัษฎา ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกมะละกอพันธุ์เรดเลดี้ เพื่อเป็นพืชแซมในสวนยางพารา อายุ 0-3 ปี เพราะสามารถสร้างรายได้ให้นับล้านบาทต่อปี
นายพัลลภ เงินทอง เกษตรจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ถึงแม้ยางพารายังเป็นรายได้หลักของจังหวัดตรัง แต่ขณะนี้ได้มีอีกพืชที่น่าสนใจ และสามารถปลูกเป็นพืชแซมในสวนยางพารา อายุ 0-3 ปี จนทำเป็นอาชีพเสริม และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรเป็นอย่างดีซึ่งก็คือ มะละกอ โดยมีเกษตรกรรายหนึ่ง คือ นายวิรัตน์ นุ่นสง อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 10 ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ได้ทำการปลูกมะละกอพันธุ์เรดเลดี้ จำนวน 27 ไร่ ปรากฏว่า สามารถสร้างรายได้ให้นับล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ นายวิรัตน์ ได้เริ่มต้นสั่งซื้อพันธุ์มะละกอพันธุ์เรดเลดี้ อายุกล้า 90 วัน ในราคาต้นละ 60 บาท จากจังหวัดเชียงใหม่ มาปลูกเป็นพืชแซมในสวนยางพาราอายุไม่เกิน 3 ปี โดยมีระยะปลูกระหว่างต้น 2-2.5 เมตร และมีระยะปลูกระหว่างแถว 4 เมตร ทำให้ในพื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกมะละกอได้ประมาณ 100-120 ต้น ทั้งนี้ มะละกอจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลแก่ได้หลังจากปลูกไปแล้ว 5-6 เดือน และจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลสุกได้หลังจากปลูกไปแล้ว 9 เดือน โดยมีผลผลิต 40-50 ผลต่อปีต่อต้น น้ำหนักผลเฉลี่ย 1.5-2 กิโลกรัม หรือมีผลผลิตเฉลี่ย 60-75 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี ทำให้ในพื้นที่ 1 ไร่ มีผลผลิตออกมาเฉลี่ย 6,000-9,000 กิโลกรัมต่อปี
ดังนั้น เมื่อรวมพื้นที่ของ นายวิรัตน์ ที่มีอยู่ทั้งหมด 27 ไร่ จึงสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตมะละกอ ได้เฉลี่ยเดือนละ 3,000 กิโลกรัม โดยจะไปขายส่งแบบคละผล ในราคากิโลกรัมละ 20 บาท ทำให้ในพื้นที่แค่ 1 ไร่ สามารถมีรายได้เฉลี่ย 120,000-180,000 บาทต่อปี โดยมีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ไร่ละ 25,000-30,000 บาทต่อปี ซึ่งรวมค่าระบบน้ำไปด้วยแล้ว สำหรับตลาดจำหน่ายผลผลิตมะละกอ ก็คือ ในพื้นที่จังหวัดตรัง สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร จึงนับเป็นพืชที่ให้ผลตอบแทนต่อไร่ที่สูง และตลาดยังมีความต้องการอีกมาก นับเป็นพืชทางเลือกอีกอย่างหนึ่งสำหรับเกษตรกรชาวตรัง
สำหรับเกษตรกรท่านใดที่มีความสนใจอยากจะปลูกมะละกอชนิดนี้ ติดต่อเรื่องพันธุ์ วิธีการปลูก และการดูแลรักษาได้ที่ นายวิรัตน์ นุ่นสง โทรศัพท์ 08-0541-8220 หรือติดต่อได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอรัษฎา โทรศัพท์ 0-7526-0486