โรงสีปัดปิดจำนำข้าวโดยพลการ ยันทำตามคำสั่ง อคส. ชาวนาโวยไม่คุ้มการลงทุน

โรงสีข้าวเผยคำสั่ง อคส.ปิดรับจำนำข้าว 20 มิ.ย. ยันไม่ได้ทำโดยพลการ แต่เมื่อมีนโยบายให้จำนำข้าวราคาใหม่ 12,000 บาทต่อตันในวันที่ 30 มิ.ย.จึงเปิดรับตามปกติ ขณะที่ชาวนาบ่นกันขรม รัฐบาลหั่นราคาจำนำ ระบุไม่คุ้มต่อการลงทุน

นายนิเวศน์ ศรีตงกิม เจ้าของโรงสีเพชรบุรีอินเตอร์ไรซ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาโรงสีได้มีการปิดรับจำนำข้าว ในวันที่ 20 มิถุนายนจริง โดยเป็นคำสั่งขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ซึ่งไม่ได้เป็นการปิดโรงสีโดยพลการ และในขณะนี้ก็ได้เปิดรับจำนำข้าวตามโครงการของรัฐบาลตามปกติ จนกว่าจะสิ้นสุดโครงการ ตั้งแต่ในวันที่ 30 มิถุนายนเป็นต้นไปจะมีการปรับเปลี่ยนราคารับ จากเดิมที่ 15,000 ต่อตัน เหลือเพียง 12,000 บาทต่อตัน และการปรับราคาไม่ได้มีผลต่อโรงสี เนื่องจากทางโรงสีมีรายได้จากการแปลสภาพข้าวในอัตราตันละ 500 บาท จึงไม่มีความจำเป็นต้องปิดรับการรับจำนำ เพื่อรอการปรับราคาใหม่

อย่างไรก็ตาม เกษตรกรที่นำเข้ามาจำนำจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 13,000 ต่อตัน ระดับความชื้นอยู่ที่ร้อยละ 25 ซึ่งหากปรับลดราคาลงเหลือ 12,000 ต่อตันนั้น คาดว่าจะทำให้ชาวนามีรายได้เฉลี่ยประมาณ 9,500-10,000 บาทต่อตัน

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่สำรวจโรงสี อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี พบว่า เกษตรกรผู้ปลูกข้าวยังคงมีการนำข้าวมาเข้าร่วมในโครงการรับจำนำของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง หลังจากเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการปิดรับจำนำ ทำให้บรรยากาศในวันนี้บริเวณหน้าโรงสีเป็นไปอย่างคึกคัก ก่อนมีการปรับลดราคาการรับจำนำในโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล เหลือตันละ 12,000 บาท วันที่ 30 มิถุนายนนี้

ขณะที่ เกษตรกร หรือ ชาวนาส่วนใหญ่ ต่างยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่า การที่รัฐบาลปรับลดราคาในการรับจำนำ ถือเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เพราะหากขายข้าวไม่ได้ราคาถึงตันละ 10,000 บาทจะไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน เนื่องจากต้นทุนที่ปลูกข้าวนั้นมีอยู่สูงรวม รวมถึงการเกี่ยวข้าว แรงงาน และปุ๋ยที่ใช้ จึงอยากให้รัฐบาลมีการคงราคาไว้เท่าเดิมที่ 15,000 บาทต่อตัน หรือหาแนวทางอื่นๆ เข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติม