ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ลงพื้นที่ไต่สวนข้อเท็จจริงสถานที่จัดเก็บสารกัมมันตรังสีของบริษัทขุดเจาะน้ำมันใน จ.สงขลา เผยเตรียมเคลื่อนย้ายออกจากตัวเมืองสงขลาภายในเดือน พ.ย.นี้ ส่วนความรุนแรงของวัสดุกัมมันตรังสีพบว่า อยู่ในระดับที่ปลอดภัย
วันนี้ (2 ก.ค.) ที่โรงแรมกรีนเวิลด์พาเลซสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายนิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมคณะอนุกรรมการด้านสิทธิชุมชน ลงพื้นที่ไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีที่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับสถานที่จัดเก็บสารกัมมันตรังสีของบริษัท ชลัมเบอร์เจอร์ โอเวอร์ซีส์ เอส.เอ. จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทขุดเจาะน้ำมัน ตั้งอยู่ที่ถนนไทรงาม เขตเทศบาลนครสงขลา ซึ่งเป็นย่านชุมชน และเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อชุมชน โดยมีตัวแทนของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องใน จ.สงขลา องค์กรพัฒนาเอกชน และตัวแทนของบริษัท ชลัมเบอร์เจอร์ โอเวอร์ซีส์ เอส.เอ จำกัด เข้าร่วมรายงานข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ ทางบริษัทขุดเจาะน้ำมันชี้แจงว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเคลื่อนย้ายวัสดุสารกัมมันตรังสีไปยังสถานที่จัดเก็บแห่งใหม่ ซึ่งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างสถานที่จัดเก็บแห่งใหม่ และจะดำเนินการเคลื่อนย้ายให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้ โดยทุกขั้นตอนได้รายงานให้ทางจังหวัดทราบทุกระยะ
ขณะที่ตัวแทนของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ รายงานว่า จากการตรวจสอบปริมาณสารกัมมันตรังสีของบริษัท ชลัมเบอร์เจอร์ฯ อยู่ในระดับที่ปลอดภัย และความรุนแรงของวัสดุกัมมันตรังสีที่ใช้อยู่ในระดับ 3 จาก 5 ระดับตามมาตรฐานสากล ส่วนสถานที่จัดเก็บวัสดุกัมมันตรังสีใน จ.สงขลา มีทั้งหมด 29 แห่ง ประกอบด้วย ด้านอุตสาหกรรม 11 แห่ง, การแพทย์ 6 แห่ง และใช้ในการศึกษาวิจัยอีก 12 แห่ง ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้มีการตรวจประเมินไปแล้ว 16 แห่ง
อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนยังคงมีความกังวลห่วงใยในเรื่องของระบบการขนส่ง และการออกใบอนุญาต ซึ่งกฎเกณฑ์การขนส่งสารกัมมันตรังสียังอยู่ระหว่างการยกร่างกฎหมาย และการออกใบอนุญาตก็ไม่ได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
ทั้งนี้ ทางคณะอนุกรรมการด้านสิทธิชุมชนจะนำข้อสรุปทั้งหมดไปพิจารณาข้อเท็จจริงอีกครั้ง ว่ามีการดำเนินการเกี่ยวกับสถานที่จัดเก็บสารกัมมันตรังสีถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อสร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้แก่ประชาชน