ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กกต.สงขลา ฟันธงเลือกตั้งนายก อบจ. ยังไม่มีการทำผิดกฎหมาย พบมีเรื่องร้องเรียนทำลายป้ายผู้สมัครในบางพื้นที่ เชื่อการหาเสียงแบบป่าเถื่อนหมดไปแล้วจากการเมืองท้องถิ่น
นายสำรวม รักษาพราหมณ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา เปิดเผยว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีป้ายผู้สมัครบ้างป้ายปักข้างถนนขวางทางเข้าบ้าน และซอยต่างๆ อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เพราะบดบังการมองเห็นในการเข้าออกถนน ขอให้ผู้สมัครฯ ประสานกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ของทีมด้วย และในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ จะเชิญผู้สมัคร และผู้สนับสนุนมาประชุมเชิงสมานฉันท์ที่ห้องประชุม อบจ. โดยจะนำข้อร้องเรียนมาแจ้งให้ทราบ
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา มีหน่วยเลือกตั้ง 1,701 หน่วย จำนวนประชากรผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้นกว่า 990,000 คน ต้องใช้กรรมการประจำหน่วย 19,500 คน ใช้งบทั้งสิ้นประมาณ 74 ล้านบาท
ด้าน นายโชคชัย ผลวัฒนะ ผอ.กกต.จ.สงขลา เปิดเผยว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา ยังไม่มีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งที่อันตราย นอกจากรับแจ้งเบาะแสมีการทำลายป้ายผู้สมัครเสียหายบ้างในบางพื้นที่ ขอให้ผู้สมัครแจ้งตำรวจ หรือ กกต.ไว้เป็นหลักฐาน ให้หาผู้กระทำผิดมาลงโทษ หากสอบสวนแล้วเชื่อมโยงถึงผู้สมัครนายกฯ คนหนึ่งคนใด กกต.จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาโทษต่อไป ตนคิดว่าการหาเสียงแบบป่าเถื่อนหมดไปแล้วจากการเมืองท้องถิ่น
นายสำรวม รักษาพราหมณ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา เปิดเผยว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีป้ายผู้สมัครบ้างป้ายปักข้างถนนขวางทางเข้าบ้าน และซอยต่างๆ อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เพราะบดบังการมองเห็นในการเข้าออกถนน ขอให้ผู้สมัครฯ ประสานกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ของทีมด้วย และในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ จะเชิญผู้สมัคร และผู้สนับสนุนมาประชุมเชิงสมานฉันท์ที่ห้องประชุม อบจ. โดยจะนำข้อร้องเรียนมาแจ้งให้ทราบ
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา มีหน่วยเลือกตั้ง 1,701 หน่วย จำนวนประชากรผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้นกว่า 990,000 คน ต้องใช้กรรมการประจำหน่วย 19,500 คน ใช้งบทั้งสิ้นประมาณ 74 ล้านบาท
ด้าน นายโชคชัย ผลวัฒนะ ผอ.กกต.จ.สงขลา เปิดเผยว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา ยังไม่มีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งที่อันตราย นอกจากรับแจ้งเบาะแสมีการทำลายป้ายผู้สมัครเสียหายบ้างในบางพื้นที่ ขอให้ผู้สมัครแจ้งตำรวจ หรือ กกต.ไว้เป็นหลักฐาน ให้หาผู้กระทำผิดมาลงโทษ หากสอบสวนแล้วเชื่อมโยงถึงผู้สมัครนายกฯ คนหนึ่งคนใด กกต.จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาโทษต่อไป ตนคิดว่าการหาเสียงแบบป่าเถื่อนหมดไปแล้วจากการเมืองท้องถิ่น
