ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต จัดโครงการจุดประกายจ้างงานผู้สูงอายุ ประจำปี 2556 สนองนโยบายในการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีงานทำ และแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่ห้องเฮนาคา โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน เป็นประธานเปิดโครงการจุดประกายจ้างงานผู้สูงอายุ ประจำปี 2556 ซึ่งสำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้น โดยมีผู้ตรวจราชการกรม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการมีงานทำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการส่งเสริมการมีงานทำ เลขานุการกรม จัดหางานจังหวัด เจ้าหน้าที่ ตลอดจนผู้เข้ารับการอบรม ทั้งจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตัวแทนนายจ้าง/สถานประกอบ จำนวน 50 คน เข้าร่วม
นางเยาวภา พิบูลย์ผล จัดหางานจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต กรมการจัดหางาน ในฐานะหน่วยงานหนึ่งที่ได้รับมอบหมายให้มีบทบาทภารกิจด้านการส่งเสริมอาชีพ และการมีงานทำ ให้ประชาชนเห็นความสำคัญ และตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีแนวโน้มสูงขึ้น การดำเนินการเพื่อตอบสนองนโยบายในการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีงานทำจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้ทางหนึ่ง จึงประชาสัมพันธ์ให้สถานประกอบการต่างๆ ได้มีการเตรียมการจัดหาตำแหน่งงานที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อรองรับการจ้างงานผู้สูงอายุ และเพิ่มระยะเวลาการทำงานในสถานประกอบการให้ยาวขึ้น เช่น จากที่เกษียณอายุ 60 ปี เพิ่มเป็น 62 หรือ 65 ปี ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้ในระดับหนึ่ง
ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ และเพิ่มระยะเวลาการทำงานในสถานประกอบการให้ยาวขึ้น เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานของ จ.ภูเก็ต สำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต จึงได้จัดทำโครงการจุดประกายจ้างงานผู้สูงอายุขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ เพิ่มระยะเวลาการทำงานในสถานประกอบการให้ยาวขึ้น และเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานของจังหวัดภูเก็ต
ด้านนายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า การดำเนินงานโครงการจุดประกายจ้างงานผู้สูงอายุ เป็นนโยบายของกรมการจัดหางาน ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบด้านการส่งเสริมการมีงานทำได้ตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีแนวโน้มสูงขึ้น และการดำเนินการเพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีงานทำ จึงเห็นควรให้สถานประกอบการต่างๆ ได้มีการเตรียมการจัดหาตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อรองรับการจ้างงานผู้สูงอายุ และเพิ่มระยะเวลาการทำงานในสถานประกอบการให้ยาวขึ้น
อีกทั้งยังจะสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้ในระดับหนึ่ง รวมทั้งจะทำให้ผู้เข้าร่วมได้ตระหนัก และเข้าใจสภาพปัญหาเกี่ยวกับสถานการณ์การขาดแคลนแรงงานในปัจจุบัน และอนาคต มีการเตรียมความพร้อมด้านทรัพยากรบุคคลเกี่ยวกับการการจ้างงานผู้สูงอายุ และเพื่อให้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับตำแหน่งที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุในแต่ละประเภทกิจการหรือข้อเสนอแนะ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐในการจ้างงานผู้สูงอายุ
“สำหรับจังหวัดภูเก็ต ได้รับการร้องขอเรื่องการขาดแคลนแรงงานอย่างมาก ซึ่งตัวเลขคนที่เข้าสู่ตลาดแรงงานกับความต้องการไม่ค่อยสัมพันธ์กัน ทั้งส่วนของแรงงานไร้ฝีมือ และแรงงานมีฝีมือ ยังขาดแคลน จะเห็นว่าคนงานทั่วไปถดถอยออกไปค่อนข้างเยอะ เนื่องจากคนกลุ่มนี้อายุมากขึ้น ส่วนวิธีการแก้ปัญหาให้แก่ภาคอุตสาหกรรม หรือภาคเกษตร ต้องมีการจ้าง หรือเพิ่มอายุงานให้มากขึ้น และรวมถึงตำแหน่งงานของผู้สูงอายุด้วย เพื่อป้องกันแรงงานขาดแคลน และการทดแทนแรงงานกลุ่มนี้ต้องไม่เอาคนต่างด้าวเข้ามาทดแทน
ซึ่งในปีต่อไป เรามีคณะกรรมการแก้ปัญหาแรงงานในระดับชาติ ในการกำหนดนโยบายบริหารจัดการทางด้านแรงงาน เพราะเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะมีคนงานบางส่วนเคลื่อนย้ายเข้ามา แต่เข้ามาในลักษณะถูกกฎหมาย ผิดกฎหมายบ้าง ก็พยายามเน้นย้ำว่าไทยเราคงต้องสงวนงาน งานคนงานไว้ให้คนไทย ตั้งแต่งานพาร์ตไทม์ งานผู้สูงอายุ เป็นต้น ซึ่งอาจจะไม่อนุญาตให้มีการจ้างแรงงานต่างด้าวมาทดแทนแรงงานในกลุ่มนี้” นายประวิทย์กล่าวในที่สุด
วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่ห้องเฮนาคา โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน เป็นประธานเปิดโครงการจุดประกายจ้างงานผู้สูงอายุ ประจำปี 2556 ซึ่งสำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้น โดยมีผู้ตรวจราชการกรม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการมีงานทำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการส่งเสริมการมีงานทำ เลขานุการกรม จัดหางานจังหวัด เจ้าหน้าที่ ตลอดจนผู้เข้ารับการอบรม ทั้งจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตัวแทนนายจ้าง/สถานประกอบ จำนวน 50 คน เข้าร่วม
นางเยาวภา พิบูลย์ผล จัดหางานจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต กรมการจัดหางาน ในฐานะหน่วยงานหนึ่งที่ได้รับมอบหมายให้มีบทบาทภารกิจด้านการส่งเสริมอาชีพ และการมีงานทำ ให้ประชาชนเห็นความสำคัญ และตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีแนวโน้มสูงขึ้น การดำเนินการเพื่อตอบสนองนโยบายในการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีงานทำจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้ทางหนึ่ง จึงประชาสัมพันธ์ให้สถานประกอบการต่างๆ ได้มีการเตรียมการจัดหาตำแหน่งงานที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อรองรับการจ้างงานผู้สูงอายุ และเพิ่มระยะเวลาการทำงานในสถานประกอบการให้ยาวขึ้น เช่น จากที่เกษียณอายุ 60 ปี เพิ่มเป็น 62 หรือ 65 ปี ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้ในระดับหนึ่ง
ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ และเพิ่มระยะเวลาการทำงานในสถานประกอบการให้ยาวขึ้น เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานของ จ.ภูเก็ต สำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต จึงได้จัดทำโครงการจุดประกายจ้างงานผู้สูงอายุขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ เพิ่มระยะเวลาการทำงานในสถานประกอบการให้ยาวขึ้น และเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานของจังหวัดภูเก็ต
ด้านนายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า การดำเนินงานโครงการจุดประกายจ้างงานผู้สูงอายุ เป็นนโยบายของกรมการจัดหางาน ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบด้านการส่งเสริมการมีงานทำได้ตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีแนวโน้มสูงขึ้น และการดำเนินการเพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีงานทำ จึงเห็นควรให้สถานประกอบการต่างๆ ได้มีการเตรียมการจัดหาตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อรองรับการจ้างงานผู้สูงอายุ และเพิ่มระยะเวลาการทำงานในสถานประกอบการให้ยาวขึ้น
อีกทั้งยังจะสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้ในระดับหนึ่ง รวมทั้งจะทำให้ผู้เข้าร่วมได้ตระหนัก และเข้าใจสภาพปัญหาเกี่ยวกับสถานการณ์การขาดแคลนแรงงานในปัจจุบัน และอนาคต มีการเตรียมความพร้อมด้านทรัพยากรบุคคลเกี่ยวกับการการจ้างงานผู้สูงอายุ และเพื่อให้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับตำแหน่งที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุในแต่ละประเภทกิจการหรือข้อเสนอแนะ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐในการจ้างงานผู้สูงอายุ
“สำหรับจังหวัดภูเก็ต ได้รับการร้องขอเรื่องการขาดแคลนแรงงานอย่างมาก ซึ่งตัวเลขคนที่เข้าสู่ตลาดแรงงานกับความต้องการไม่ค่อยสัมพันธ์กัน ทั้งส่วนของแรงงานไร้ฝีมือ และแรงงานมีฝีมือ ยังขาดแคลน จะเห็นว่าคนงานทั่วไปถดถอยออกไปค่อนข้างเยอะ เนื่องจากคนกลุ่มนี้อายุมากขึ้น ส่วนวิธีการแก้ปัญหาให้แก่ภาคอุตสาหกรรม หรือภาคเกษตร ต้องมีการจ้าง หรือเพิ่มอายุงานให้มากขึ้น และรวมถึงตำแหน่งงานของผู้สูงอายุด้วย เพื่อป้องกันแรงงานขาดแคลน และการทดแทนแรงงานกลุ่มนี้ต้องไม่เอาคนต่างด้าวเข้ามาทดแทน
ซึ่งในปีต่อไป เรามีคณะกรรมการแก้ปัญหาแรงงานในระดับชาติ ในการกำหนดนโยบายบริหารจัดการทางด้านแรงงาน เพราะเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะมีคนงานบางส่วนเคลื่อนย้ายเข้ามา แต่เข้ามาในลักษณะถูกกฎหมาย ผิดกฎหมายบ้าง ก็พยายามเน้นย้ำว่าไทยเราคงต้องสงวนงาน งานคนงานไว้ให้คนไทย ตั้งแต่งานพาร์ตไทม์ งานผู้สูงอายุ เป็นต้น ซึ่งอาจจะไม่อนุญาตให้มีการจ้างแรงงานต่างด้าวมาทดแทนแรงงานในกลุ่มนี้” นายประวิทย์กล่าวในที่สุด
