ยะลา - แม่ทัพภาค 4 แถลงแผนดูแลพี่น้องประชาชนชาวไทยมุสลิมช่วงเดือนถือศีลอด ยันจะปฏิบัติการสอดรับเวทีพูดคุยเพื่อสันติภาพ พร้อมเปิดรับรายงานตัวผู้หลงผิดกลับบ้านเพื่อประกอบศาสนกิจร่วมกับครอบครัว ระบุมีแผนรองรับหากยังมีเหตุการณ์ช่วงเดือนรอมฎอน
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาค 4 เปิดเผยว่า ในนามของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ต้องขอแสดงความยินดีต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องในเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 ซึ่งกำลังจะเวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่งในปีนี้
เดือนรอมฎอน เป็นเดือนที่มีความสำคัญของพี่น้องมุสลิมทั่วโลก เพราะเป็นเดือนอันประเสริฐ ละเว้นการกระทำความชั่วทั้งปวง ซึ่งทุกคนจะได้แสดงออกถึงความภักดี ความเชื่อมั่น และศรัทธาต่อองค์อัลลอฮฺ เป็นศาสนบัญญัติที่มุสลิมทั่วโลกต้องยึดถือ และปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ตระหนัก และให้ความสำคัญในการประกอบศาสนกิจของพี่น้องชาวไทยมุสลิมทุกคนในห้วงเดือนอันประเสริฐนี้มาโดยตลอด และพร้อมที่จะตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนที่ไม่ต้องการให้เกิดสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ และสอดรับกับกระบวนการพูดคุยสันติภาพที่กลุ่มผู้มีความเห็นต่างออกมายอมรับข้อเสนอในการลดเหตุความรุนแรง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวัง และยินดีทำให้พี่น้องประชาชนสามารถประกอบศาสนกิจได้อย่างมีความสุข
แม่ทัพภาคที่ 4 ยังกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนได้เล็งเห็นความสำคัญของเดือนรอมฎอน ว่าเป็นห้วงเวลาแห่งการทำความดี ได้มีโอกาสประกอบศาสนกิจ และใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอย่างปกติสุข โดยกำหนดแนวทางในการดำเนินการคือ พร้อมให้การสนับสนุน และอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนในการเดินทางไปประกอบศาสนกิจในห้วงรอมฎอน โดยมุ่งเน้นการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวไทยมุสลิมทุกคนมีความเชื่อมั่นถึงความปลอดภัยในการประกอบศาสนกิจได้อย่างเต็มที่ และมีความสุข การปฏิบัติการทางทหาร มุ่งเน้นการรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินในภารกิจเชิงรับให้มากขึ้น
ทั้งนี้ ยังคงปฏิบัติภายใต้หลักกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความเห็นต่างจากรัฐกลับสู่มาตุภูมิ โดยให้เข้ารายงานตัวแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย ก่อนกลับไปร่วมประกอบศาสนกิจเนื่องในเดือนรอมฎอนกับครอบครัว โดยขอให้เข้ามารายงานตัวได้ตั้งแต่บัดนี้ เพื่อดำเนินกรรมวิธีตามขั้นตอนต่างๆ ก่อนถึงเดือนรอมฎอน ปรับจุดตรวจ จุดสกัด ให้เป็นจุดอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมา สำหรับด่านตรวจถาวรจะมุ่งเน้นอำนวยความสะดวก และจะตรวจเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
“นอกจากนั้น จะมีการจัดกิจกรรมพัฒนาสัมพันธ์ระหว่างผู้นับถือศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลามเนื่องในเดือนรอมฎอน วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และสามารถอยู่ร่วมกันได้ภายใต้มิติความหลากหลายของสังคมพหุวัฒนธรรม ขอเชิญพี่น้องประชาชนทุกเชื้อชาติ ศาสนา เข้าไปมีส่วนร่วมแสดงความยินดีในกิจกรรมเดือนรอมฎอน ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือประชาชนที่ด้อยโอกาส การให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนในทุกระดับ และสนับสนุนการปฏิบัติตามหลักศาสนา” แม่ทัพภาค 4 กล่าว
พล.ท.สกล ชื่นตระกูล ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอเรียนให้ทราบว่า การแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดห้วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มุ่งเน้นแก้ปัญหาเชิงสันติวิธีภายใต้หลักกฎหมาย เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้พี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่ และป้องกันฐานที่มั่นอย่างเคร่งครัดเสมอมา จึงขอให้พี่น้องประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อมาตรการที่ได้กำหนดไว้ และขอให้ทุกคนได้แสดงจุดยืนในการปฏิเสธความรุนแรงในทุกรูปแบบ เพื่อให้สามารถประกอบศาสนกิจได้อย่างเต็มที่ และทำให้เดือนรอมฎอนในปีนี้ เป็นเดือนรอมฎอนอันประเสริฐอย่างแท้จริง
“ส่วนประเด็นมาตรการการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในช่วงเดือนรอมฎอน และความกังวลของประชาชนที่มีต่อกลุ่มผู้ก่อความสงบที่อาจจะก่อเหตุในช่วงเดือนรอมฎอนว่า ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยงานด้านความมั่นคงทุกฝ่าย ได้มีมาตรการรองรับในเรื่องนี้ มีการจัดระบบกองหนุนว่าหากสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่ทุกคนตั้งความหวังร่วมกันไว้ เราได้มีแผนสำรองไว้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เราต่างต้องตั้งความหวังร่วมกับพี่น้องประชนทุกคนว่า เราจะเดินทางสู่สันติวิธี ภายใต้เดือนรอมฎอนอันประเสริฐนี้อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ เรายังได้เปิดที่ว่างสำหรับการปฏิบัติผ่านโต๊ะพูดคุยต่างๆ และทางรัฐบาลได้มีการสั่งการลงมาตามลำดับ สำหรับแผนในวันนี้ เป็นแผนที่ได้ร่วมปฏิบัติการร่วมกับพี่น้องประชาชนมาทุกปี ซึ่งในทุกปีเราได้รับการเสนอแนะจากพี่น้องประชาชนเรื่องการปฏิบัติงาน และได้นำมาปรับใช้เพื่ออำนวยความสะดวกอย่างสูงสุด และในช่วงที่ผ่านมา ก็ได้มีการหารือกับประชาชนผ่านทางนายอำเภอโดยศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ และทางเราได้นำสิ่งที่ทุกคนต้องการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติ มาขมวดร่วมกันกับแผนงานของเรา จนเป็นแผนปฏิบัติที่ได้แถลงในครั้งนี้” มทภ.4 กล่าว
สำหรับช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน (เอี๊ยะติก๊าฟ) นั้น ขณะนี้เราได้ให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานว่า จะเป็นช่วงที่พี่น้องชาวไทยมุสลิมจะต้องเข้าไปดำรงชีวิตในมัสยิด ทางเราได้ให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเข้าไปมีส่วนร่วมกิจกรรมอันประเสริฐเช่นนี้ จะด้วยรับการเชื้อเชิญ หรือการเข้าไปสนับสนุน เพราะทุกคนตั้งใจที่จะร่วมผ่านเดือนอันประเสริฐนี้ไปด้วยกัน ร่วมกันสร้างรอมฎอนให้เป็นเดือนสันติสุขอย่างแท้จริง
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาค 4 เปิดเผยว่า ในนามของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ต้องขอแสดงความยินดีต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องในเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 ซึ่งกำลังจะเวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่งในปีนี้
เดือนรอมฎอน เป็นเดือนที่มีความสำคัญของพี่น้องมุสลิมทั่วโลก เพราะเป็นเดือนอันประเสริฐ ละเว้นการกระทำความชั่วทั้งปวง ซึ่งทุกคนจะได้แสดงออกถึงความภักดี ความเชื่อมั่น และศรัทธาต่อองค์อัลลอฮฺ เป็นศาสนบัญญัติที่มุสลิมทั่วโลกต้องยึดถือ และปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ตระหนัก และให้ความสำคัญในการประกอบศาสนกิจของพี่น้องชาวไทยมุสลิมทุกคนในห้วงเดือนอันประเสริฐนี้มาโดยตลอด และพร้อมที่จะตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนที่ไม่ต้องการให้เกิดสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ และสอดรับกับกระบวนการพูดคุยสันติภาพที่กลุ่มผู้มีความเห็นต่างออกมายอมรับข้อเสนอในการลดเหตุความรุนแรง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวัง และยินดีทำให้พี่น้องประชาชนสามารถประกอบศาสนกิจได้อย่างมีความสุข
แม่ทัพภาคที่ 4 ยังกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนได้เล็งเห็นความสำคัญของเดือนรอมฎอน ว่าเป็นห้วงเวลาแห่งการทำความดี ได้มีโอกาสประกอบศาสนกิจ และใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอย่างปกติสุข โดยกำหนดแนวทางในการดำเนินการคือ พร้อมให้การสนับสนุน และอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนในการเดินทางไปประกอบศาสนกิจในห้วงรอมฎอน โดยมุ่งเน้นการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวไทยมุสลิมทุกคนมีความเชื่อมั่นถึงความปลอดภัยในการประกอบศาสนกิจได้อย่างเต็มที่ และมีความสุข การปฏิบัติการทางทหาร มุ่งเน้นการรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินในภารกิจเชิงรับให้มากขึ้น
ทั้งนี้ ยังคงปฏิบัติภายใต้หลักกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความเห็นต่างจากรัฐกลับสู่มาตุภูมิ โดยให้เข้ารายงานตัวแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย ก่อนกลับไปร่วมประกอบศาสนกิจเนื่องในเดือนรอมฎอนกับครอบครัว โดยขอให้เข้ามารายงานตัวได้ตั้งแต่บัดนี้ เพื่อดำเนินกรรมวิธีตามขั้นตอนต่างๆ ก่อนถึงเดือนรอมฎอน ปรับจุดตรวจ จุดสกัด ให้เป็นจุดอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมา สำหรับด่านตรวจถาวรจะมุ่งเน้นอำนวยความสะดวก และจะตรวจเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
“นอกจากนั้น จะมีการจัดกิจกรรมพัฒนาสัมพันธ์ระหว่างผู้นับถือศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลามเนื่องในเดือนรอมฎอน วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และสามารถอยู่ร่วมกันได้ภายใต้มิติความหลากหลายของสังคมพหุวัฒนธรรม ขอเชิญพี่น้องประชาชนทุกเชื้อชาติ ศาสนา เข้าไปมีส่วนร่วมแสดงความยินดีในกิจกรรมเดือนรอมฎอน ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือประชาชนที่ด้อยโอกาส การให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนในทุกระดับ และสนับสนุนการปฏิบัติตามหลักศาสนา” แม่ทัพภาค 4 กล่าว
พล.ท.สกล ชื่นตระกูล ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอเรียนให้ทราบว่า การแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดห้วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มุ่งเน้นแก้ปัญหาเชิงสันติวิธีภายใต้หลักกฎหมาย เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้พี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่ และป้องกันฐานที่มั่นอย่างเคร่งครัดเสมอมา จึงขอให้พี่น้องประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อมาตรการที่ได้กำหนดไว้ และขอให้ทุกคนได้แสดงจุดยืนในการปฏิเสธความรุนแรงในทุกรูปแบบ เพื่อให้สามารถประกอบศาสนกิจได้อย่างเต็มที่ และทำให้เดือนรอมฎอนในปีนี้ เป็นเดือนรอมฎอนอันประเสริฐอย่างแท้จริง
“ส่วนประเด็นมาตรการการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในช่วงเดือนรอมฎอน และความกังวลของประชาชนที่มีต่อกลุ่มผู้ก่อความสงบที่อาจจะก่อเหตุในช่วงเดือนรอมฎอนว่า ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยงานด้านความมั่นคงทุกฝ่าย ได้มีมาตรการรองรับในเรื่องนี้ มีการจัดระบบกองหนุนว่าหากสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่ทุกคนตั้งความหวังร่วมกันไว้ เราได้มีแผนสำรองไว้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เราต่างต้องตั้งความหวังร่วมกับพี่น้องประชนทุกคนว่า เราจะเดินทางสู่สันติวิธี ภายใต้เดือนรอมฎอนอันประเสริฐนี้อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ เรายังได้เปิดที่ว่างสำหรับการปฏิบัติผ่านโต๊ะพูดคุยต่างๆ และทางรัฐบาลได้มีการสั่งการลงมาตามลำดับ สำหรับแผนในวันนี้ เป็นแผนที่ได้ร่วมปฏิบัติการร่วมกับพี่น้องประชาชนมาทุกปี ซึ่งในทุกปีเราได้รับการเสนอแนะจากพี่น้องประชาชนเรื่องการปฏิบัติงาน และได้นำมาปรับใช้เพื่ออำนวยความสะดวกอย่างสูงสุด และในช่วงที่ผ่านมา ก็ได้มีการหารือกับประชาชนผ่านทางนายอำเภอโดยศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ และทางเราได้นำสิ่งที่ทุกคนต้องการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติ มาขมวดร่วมกันกับแผนงานของเรา จนเป็นแผนปฏิบัติที่ได้แถลงในครั้งนี้” มทภ.4 กล่าว
สำหรับช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน (เอี๊ยะติก๊าฟ) นั้น ขณะนี้เราได้ให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานว่า จะเป็นช่วงที่พี่น้องชาวไทยมุสลิมจะต้องเข้าไปดำรงชีวิตในมัสยิด ทางเราได้ให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเข้าไปมีส่วนร่วมกิจกรรมอันประเสริฐเช่นนี้ จะด้วยรับการเชื้อเชิญ หรือการเข้าไปสนับสนุน เพราะทุกคนตั้งใจที่จะร่วมผ่านเดือนอันประเสริฐนี้ไปด้วยกัน ร่วมกันสร้างรอมฎอนให้เป็นเดือนสันติสุขอย่างแท้จริง