ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผอ.สำนักพัฒนาบริการท่องเที่ยว เป็นประธานเผยแพร่มาตรฐานกิจกรรมเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เตรียมรับมืออีก 8 ปีข้างหน้า จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าอาเซียนกว่า 200 ล้านคน
วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่โรงแรมทวินโฮเท็ล จ.ภูเก็ต นางสุพิทย์ วีระใจ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาบริการท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว เป็นประธานการประชุมชี้แจง พร้อมเผยแพร่มาตรฐานกิจกรรมเพื่อการท่องเที่ยว (มาตรฐานกิจกรรมเดินป่า ดูนก ดูพรรณไม้ป่า ดูผีเสื้อ ล่องแก่ง ปีนหน้าผา ดำน้ำ การจัดกิจกรรมค่ายพักแรม (Camping) แคนู (Canoe)/คายัค (Kayak) การจัดกิจกรรมปางช้างเพื่อการท่องเที่ยวและมาตรฐานการจัดกิจกรรม Eco Lodge เพื่อการท่องเที่ยว) โดยมี ดร.อดิษบ์ ชัยรัตนานนท์ จากสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ดร.วิจตรา วรรณวิจิตร ผู้อำนวยการสำนักรับรองระบบคุณภาพ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย และสถานประกอบการด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วม
นางสุพิทย์ วีระใจ ผอ.สำนักพัฒนาบริการท่องเที่ยว กล่าวว่า องค์การท่องเที่ยวโลก (World Tourism Organization : UNWTO) ได้คาดการณ์ว่าในอีก 8 ปีข้างหน้า (ค.ศ.2020) จะมีนักท่องเที่ยวทั่วโลกกว่า 1,600 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวแถบเอเชียแปซิฟิกถึง 400 ล้านคน ในจำนวนนั้นส่วนหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยวในอาเซียนประมาณ 160-200 ล้านคน แสดงให้เห็นว่าการท่องเที่ยวในแถบอาเซียนยังมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น ประเทศสมาชิกอาเซียนหลายๆ ประเทศเริ่มตื่นตัว และให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศแถบอาเซียนมากขึ้น และยังเป็นการรองรับการก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ภายในปี พ.ศ.2558
โดยนักธุรกิจจากประเทศสมาชิกอาเซียนสามารถเข้ามาลงทุนธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการด้านธุรกิจการท่องเที่ยวไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นในอนาคต ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงต้องเร่งพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ โดยใช้มาตรฐานเป็นเครื่องมือในการยกระดับคุณภาพการให้บริการ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศที่จะเลือกใช้บริการกับสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย
ทั้งนี้ กรมการท่องเที่ยวจึงกำหนดจัดประชุมชี้แจงในวันนี้ขึ้น เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวในทุกระดับ ทั้งด้านบุคลากร มาตรการให้บริการต่างๆ และแหล่งท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มศักยภาพขีดความสามรรถในการองรับการเปลี่ยนแปลงบนพื้นฐานการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างสมดุล และยั่งยืน อีกทั้งเพื่อเชิญชวนสถานประกอบการให้เข้าสู่กระบวนการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ยกระดับศักยภาพของสถานประกอบการ และบุคลากรให้สูงขึ้น มีความเป็นธรรมโปร่งใสระหว่างผู้ประกอบการด้วยกัน สอดคล้องกับความคาดหวังของนักท่องเที่ยวก่อให้เกิดความพึงพอใจกลับมาใช้บริการซ้ำอีกต่อไป