ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รวมพลคนหน้ากากที่ภูเก็ตครั้งที่ 2 ยังคงคึกคัก เพื่อแสดงจุดยืนของความเป็นคนภูเก็ต จี้รัฐบาลปลด “ปลอดประสพ” ตามยุทธการดอกไม้บาน โดยมีจิตกร หรือปู บุษบา ผู้ดำเนินรายการวิทยุและรายการโทรทัศน์ พร้อมด้วย อ.แก้วสรร อติโพธิ ร่วมเปิดเวที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 16 มิถุนายน ที่ปลายแหลมสะพานหิน อ่าวภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ตรงกันข้ามกับศาลเจ้ากิ้วเที้ยนเก้ง ชาวจังหวัดภูเก็ตได้จัดให้มีเวที “รวมพลคนหน้ากากภูเก็ต” ขึ้น ซึ่งครั้งนี้เป็นการจัดรวมพลคนหน้ากากครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกจัดไปเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยครั้งนี้มีประชาชนมาร่วมจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศบริเวณปลายแหลมสะพานหินเป็นไปด้วยความคึกคัก ซึ่งนอกจากจะมีการปราศรัยบนเวทีของนักวิชาการ แกนนำชุมชน และกลุ่มบุคคลต่างๆ โดยเฉพาะการขึ้นเวทีให้ความรู้ของนักจัดรายการชื่อดัง “จิตกร หรือปู บุษบา” และ “อาจารย์แก้วสรร อติโพธิ” แล้ว ยังมีการเปิดซุ้มบริการอาหารฟรีสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมในครั้งนี้ รวมทั้งมีการนำเต็นท์ขนาดใหญ่มากางเพื่อเตรียมพร้อมกรณีฝนตกหนักด้วย
สำหรับการจัดเวทีรวมพลคนหน้ากากภูเก็ตในครั้งนี้ เพื่อแสดงจุดยืนของความเป็นตัวตนของคนภูเก็ต และต่อต้านรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมถึงต่อต้านระบอบทักษิณ ตามยุทธศาสตร์ “ดอกไม้บานทั่วประเทศไทย” โดยมีประชาชนทุกเพศทุกวัย โดยบางส่วนสวมเสื้อยืดสกรีนรูปหน้ากากขาว ใส่หน้ากากสีขาว หน้ากากสีเหลือง ถือป้ายไวนิล ป้ายผ้า โปสเตอร์ เขียนข้อความภาษาไทย และภาษาอังกฤษ นอกจากนั้นยังยังมีภาพล้อเลียน นายปลอดประสพ น.ส.ยิ่งลักษณ์
โดยการชุมนุมในครั้งนี้ในครั้งนี้ พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรทั้งใน และนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ต ได้เข้ามาจัดการจราจรและรักษาความปลอดภัยโดยรอบพื้นที่การชุมนุม
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมบนเวทีนั้นเป็นการสลับกันขึ้นเวทีของวิทยากรในท้องถิ่น และวิทยากรจากส่วนกลาง นายจิตกร หรือปู บุษบา ผู้ดำเนินรายการวิทยุและรายการโทรทัศน์ กล่าวว่า การเดินทางมาร่วมเวทีครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 และขอให้ชาวภูเก็ตอย่าหยุดเพียงแค่ไปยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเท่านั้น ในการเสนอให้นายกรัฐมนตรีปลด นายปลอดประสพ แต่จะต้องเดินหน้าต่อไป และยื่นหนังสือประท้วงไปทุกส่วน รวมถึงนายกรัฐมนตรีด้วย เพื่อให้เห็นถึงศักยภาพของคนภูเก็ต เพราะตั้งแต่ยื่นหนังสือ รวมถึงการรวมพลแสดงออกถึงความไม่ต้องการของคนภูเก็ต แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังมีการนิ่งเฉย ยังไม่มีการดำเนินการอะไรเลย เพราะฉะนั้น จะต้องเดินหน้ากันต่อไป
ขณะที่อาจารย์แก้วสรร อติโพธิ กล่าวว่า เรื่องของศูนย์ประชุมนานาชาตินั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเมืองท่องเที่ยวอย่างจังหวัดภูเก็ต เพราะจังหวัดภูเก็ตนั้นเป็นแหล่งที่ทำมาหากินของคนทั้งประเทศ ปัจจุบัน คนทั่วประเทศมาทำมาหากินอยู่ที่นี่ การออกมาพูดว่าไม่มีอารมณ์ที่จะสร้างนั้นไม่เข้าใจว่าคิดอะไรอยู่ ซึ่งภูเก็ตนั้นควรที่จะมีศูนย์ประชุมเพื่อที่จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ดึงรายได้เข้าประเทศ มาบอกว่าไม่มีอารมณ์ทำให้บ้านเมืองเสียหายมหาศาล
สำหรับการชุมนุมของคนหน้ากากขาวที่ภูเก็ตนั้นเหมือนเป็นดอกไม้ที่บานขึ้นมาโดยไม่ได้นัดหมาย ไม่มีแกนนำ ไม่มีใครบงการ แต่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเอง และเป็นการรวมตัวกันอย่างสงบ กลุ่มหน้ากากขาวเป็นปรากฏการณ์การแข็งข้อของคนที่ถูกทรยศจึงต้องลุกขึ้นมารวมตัวกันแสดงให้เห็นความเป็นตัวตนของคนภูเก็ต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 16 มิถุนายน ที่ปลายแหลมสะพานหิน อ่าวภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ตรงกันข้ามกับศาลเจ้ากิ้วเที้ยนเก้ง ชาวจังหวัดภูเก็ตได้จัดให้มีเวที “รวมพลคนหน้ากากภูเก็ต” ขึ้น ซึ่งครั้งนี้เป็นการจัดรวมพลคนหน้ากากครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกจัดไปเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยครั้งนี้มีประชาชนมาร่วมจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศบริเวณปลายแหลมสะพานหินเป็นไปด้วยความคึกคัก ซึ่งนอกจากจะมีการปราศรัยบนเวทีของนักวิชาการ แกนนำชุมชน และกลุ่มบุคคลต่างๆ โดยเฉพาะการขึ้นเวทีให้ความรู้ของนักจัดรายการชื่อดัง “จิตกร หรือปู บุษบา” และ “อาจารย์แก้วสรร อติโพธิ” แล้ว ยังมีการเปิดซุ้มบริการอาหารฟรีสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมในครั้งนี้ รวมทั้งมีการนำเต็นท์ขนาดใหญ่มากางเพื่อเตรียมพร้อมกรณีฝนตกหนักด้วย
สำหรับการจัดเวทีรวมพลคนหน้ากากภูเก็ตในครั้งนี้ เพื่อแสดงจุดยืนของความเป็นตัวตนของคนภูเก็ต และต่อต้านรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมถึงต่อต้านระบอบทักษิณ ตามยุทธศาสตร์ “ดอกไม้บานทั่วประเทศไทย” โดยมีประชาชนทุกเพศทุกวัย โดยบางส่วนสวมเสื้อยืดสกรีนรูปหน้ากากขาว ใส่หน้ากากสีขาว หน้ากากสีเหลือง ถือป้ายไวนิล ป้ายผ้า โปสเตอร์ เขียนข้อความภาษาไทย และภาษาอังกฤษ นอกจากนั้นยังยังมีภาพล้อเลียน นายปลอดประสพ น.ส.ยิ่งลักษณ์
โดยการชุมนุมในครั้งนี้ในครั้งนี้ พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรทั้งใน และนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ต ได้เข้ามาจัดการจราจรและรักษาความปลอดภัยโดยรอบพื้นที่การชุมนุม
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมบนเวทีนั้นเป็นการสลับกันขึ้นเวทีของวิทยากรในท้องถิ่น และวิทยากรจากส่วนกลาง นายจิตกร หรือปู บุษบา ผู้ดำเนินรายการวิทยุและรายการโทรทัศน์ กล่าวว่า การเดินทางมาร่วมเวทีครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 และขอให้ชาวภูเก็ตอย่าหยุดเพียงแค่ไปยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเท่านั้น ในการเสนอให้นายกรัฐมนตรีปลด นายปลอดประสพ แต่จะต้องเดินหน้าต่อไป และยื่นหนังสือประท้วงไปทุกส่วน รวมถึงนายกรัฐมนตรีด้วย เพื่อให้เห็นถึงศักยภาพของคนภูเก็ต เพราะตั้งแต่ยื่นหนังสือ รวมถึงการรวมพลแสดงออกถึงความไม่ต้องการของคนภูเก็ต แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังมีการนิ่งเฉย ยังไม่มีการดำเนินการอะไรเลย เพราะฉะนั้น จะต้องเดินหน้ากันต่อไป
ขณะที่อาจารย์แก้วสรร อติโพธิ กล่าวว่า เรื่องของศูนย์ประชุมนานาชาตินั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเมืองท่องเที่ยวอย่างจังหวัดภูเก็ต เพราะจังหวัดภูเก็ตนั้นเป็นแหล่งที่ทำมาหากินของคนทั้งประเทศ ปัจจุบัน คนทั่วประเทศมาทำมาหากินอยู่ที่นี่ การออกมาพูดว่าไม่มีอารมณ์ที่จะสร้างนั้นไม่เข้าใจว่าคิดอะไรอยู่ ซึ่งภูเก็ตนั้นควรที่จะมีศูนย์ประชุมเพื่อที่จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ดึงรายได้เข้าประเทศ มาบอกว่าไม่มีอารมณ์ทำให้บ้านเมืองเสียหายมหาศาล
สำหรับการชุมนุมของคนหน้ากากขาวที่ภูเก็ตนั้นเหมือนเป็นดอกไม้ที่บานขึ้นมาโดยไม่ได้นัดหมาย ไม่มีแกนนำ ไม่มีใครบงการ แต่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเอง และเป็นการรวมตัวกันอย่างสงบ กลุ่มหน้ากากขาวเป็นปรากฏการณ์การแข็งข้อของคนที่ถูกทรยศจึงต้องลุกขึ้นมารวมตัวกันแสดงให้เห็นความเป็นตัวตนของคนภูเก็ต
