ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คนร้ายเหิมงัดหน้าต่างบ้านพักอาจารย์ ม.ราชภัฏภูเก็ต ภายในหมู่บ้านร็อคกาเด้น 5 หวังลักทรัพย์ แต่ชาวบ้านในพื้นที่พบพฤติกรรมต้องสงสัย รวมตัวออกตรวจสอบภายในหมู่บ้าน จนพบรถจักรยานยนต์จอดทิ้งหน้าบ้าน เข้าปิดล้อมกดดันโจรไหวตัวนำทรัพย์สินที่หยิบได้ปีนหนีออกทางหน้าต่างด้านหลังบ้านวิ่งขึ้นภูเขา ชาวบ้านไล่ล่ากระชั้นชิดแต่ยังไร้วี่แวว ทิ้งทรัพย์สินทั้งหมดไว้ รวมทั้งรถจักรยาน และรองเท้าแตะ
เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ (14 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต รับแจ้งมีเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ที่บ้านเลข 125/427 หมู่บ้านร็อคกาเด้น 5 หมู่ 5 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต และวิ่งหลบหนีขึ้นไปอยู่บนภูเขาด้านหลังหมู่บ้าน โดยมีชาวบ้านในหมู้บ้านจำนวนหนึ่งกำลังไล่ติดตามเพื่อจับกุมตัว ภายหลังรับแจ้ง ร.ต.อ.สมชาย หนูบุญ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ได้รายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ตท.เชาวร์ ผอมนะ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ร.ต.อ.วิชัช คงคาไหว รอง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และกระจายกำลังออกคนหาคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้
จากการตรวจสอบพบว่า บ้านหลังที่คนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์เป็นบ้านของนางศุภกาญจน์ ตันติกัลยาภรณ์ ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ที่บ้าน เนื่องจากสามีของนางศุภการณ์ ซึ่งเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เดินทางไปสอนหนังสือ ขณะที่ตัวเองก็ไปทำงานข้างนอก โดยตรวจสอบสิ่งของที่คนร้ายนำไปทิ้งไว้ที่บริเวณกำแพงด้านหลังของตัวบ้าน ประกอบ ด้วยโน้ตบุ๊ฏ 2 เครื่องใส่รวมอยู่ในกระเป๋าเดียวกัน เงินเหรียญ และอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบรองเท้าแตะของคนร้ายจำนวน 1 คู่ ที่ทิ้งไว้ในบริเวณเดียวกัน และยังพบรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน ขกฉ 400 ภูเก็ต ซึ่งที่ผู้ต้องสงสัยใช้ในการขับขี่มาจอดไว้ที่หน้าบ้านหลังที่เกิดเหตุจำนวน 1 คัน ทางเจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ทำการตรวจสอบ
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อเหตุเหตุชาวบ้านเห็นชายวัยรุ่นขับรถเข้ามาในหมู่บ้านหลายรอบ และรูปร่างรวมทั้งรถที่ใช้คล้ายกับคนร้ายที่เคยเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ในหมู่บ้านมาแล้ว เนื่องจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ จึงมีการแจ้งให้ชาวบ้านในหมู่บ้านทราบ และออกติดตามหาตัว จนกระทั่งชาวบ้านมาพบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ จึงได้รวมกันซุ่มดู และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ ส่วนคนร้ายเมื่อเห็นว่ามีคนมาซุ่มอยู่หน้าบ้านก็อาศัยช่วงดังกล่าวหยิบเอาทรัพย์สิน และปีนหนีออกทางหน้าต่างด้านข้างของตัวบ้านก่อนที่จะวิ่งขึ้นภูเขาด้านหลังหมู่บ้าน แต่เนื่องจากทรัพย์สินที่ถือออกมามีน้ำหนักมาก คนร้ายจึงตัดสินใจทิ้งไว้บริเวณกำแพงบ้าน และวิ่งหนีเอาตัวรวด โดยมีชาวบ้านวิ่งตามไปติดๆ แต่ยังไม่สามารถจับตัวได้
นายสุนทร สกุลสัน ประธานกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านริมเขา-บายพาส 5 กล่าวว่า ภายในหมู่บ้านดังกล่าว ถูกคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์แล้วไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ ระยะเวลาเพียงไม่กี่วันก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ทางชาวบ้านจึงต้องช่วยกันดูแล และสอดส่อดคนแปลกหน้าที่เข้ามาในหมู่บ้าน จนกระทั่งวันนี้มีคนเห็นชายวัยรุ่นลักษณะน่าสงสัยขับรถเข้ามาในหมู่บ้าน จึงแจ้งให้ชาวบ้านในหมู่บ้านทราบ และออกติดตามจับกุมคนร้ายทันทีแต่ก็ยังไร้ร่องร่อย
ด้านนายมาลีกี หมัดหลี เจ้าของบ้านเลขที่ 125/427 ซึ่งเคยถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้าน กล่าวว่า ที่หมู่บ้านดังกล่าวเกิดเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์จำนวนหลายหลังแล้ว โดยในส่วนของตนนั้น คนร้ายเข้ามาลักทรัพย์สินภายในบ้านเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 3 แสนบาท และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนเดียวกับคนร้ายที่เข้าก่อเหตุในวันนี้
เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ (14 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต รับแจ้งมีเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ที่บ้านเลข 125/427 หมู่บ้านร็อคกาเด้น 5 หมู่ 5 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต และวิ่งหลบหนีขึ้นไปอยู่บนภูเขาด้านหลังหมู่บ้าน โดยมีชาวบ้านในหมู้บ้านจำนวนหนึ่งกำลังไล่ติดตามเพื่อจับกุมตัว ภายหลังรับแจ้ง ร.ต.อ.สมชาย หนูบุญ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ได้รายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ตท.เชาวร์ ผอมนะ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ร.ต.อ.วิชัช คงคาไหว รอง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และกระจายกำลังออกคนหาคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้
จากการตรวจสอบพบว่า บ้านหลังที่คนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์เป็นบ้านของนางศุภกาญจน์ ตันติกัลยาภรณ์ ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ที่บ้าน เนื่องจากสามีของนางศุภการณ์ ซึ่งเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เดินทางไปสอนหนังสือ ขณะที่ตัวเองก็ไปทำงานข้างนอก โดยตรวจสอบสิ่งของที่คนร้ายนำไปทิ้งไว้ที่บริเวณกำแพงด้านหลังของตัวบ้าน ประกอบ ด้วยโน้ตบุ๊ฏ 2 เครื่องใส่รวมอยู่ในกระเป๋าเดียวกัน เงินเหรียญ และอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบรองเท้าแตะของคนร้ายจำนวน 1 คู่ ที่ทิ้งไว้ในบริเวณเดียวกัน และยังพบรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน ขกฉ 400 ภูเก็ต ซึ่งที่ผู้ต้องสงสัยใช้ในการขับขี่มาจอดไว้ที่หน้าบ้านหลังที่เกิดเหตุจำนวน 1 คัน ทางเจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ทำการตรวจสอบ
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อเหตุเหตุชาวบ้านเห็นชายวัยรุ่นขับรถเข้ามาในหมู่บ้านหลายรอบ และรูปร่างรวมทั้งรถที่ใช้คล้ายกับคนร้ายที่เคยเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ในหมู่บ้านมาแล้ว เนื่องจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ จึงมีการแจ้งให้ชาวบ้านในหมู่บ้านทราบ และออกติดตามหาตัว จนกระทั่งชาวบ้านมาพบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ จึงได้รวมกันซุ่มดู และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ ส่วนคนร้ายเมื่อเห็นว่ามีคนมาซุ่มอยู่หน้าบ้านก็อาศัยช่วงดังกล่าวหยิบเอาทรัพย์สิน และปีนหนีออกทางหน้าต่างด้านข้างของตัวบ้านก่อนที่จะวิ่งขึ้นภูเขาด้านหลังหมู่บ้าน แต่เนื่องจากทรัพย์สินที่ถือออกมามีน้ำหนักมาก คนร้ายจึงตัดสินใจทิ้งไว้บริเวณกำแพงบ้าน และวิ่งหนีเอาตัวรวด โดยมีชาวบ้านวิ่งตามไปติดๆ แต่ยังไม่สามารถจับตัวได้
นายสุนทร สกุลสัน ประธานกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านริมเขา-บายพาส 5 กล่าวว่า ภายในหมู่บ้านดังกล่าว ถูกคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์แล้วไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ ระยะเวลาเพียงไม่กี่วันก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ทางชาวบ้านจึงต้องช่วยกันดูแล และสอดส่อดคนแปลกหน้าที่เข้ามาในหมู่บ้าน จนกระทั่งวันนี้มีคนเห็นชายวัยรุ่นลักษณะน่าสงสัยขับรถเข้ามาในหมู่บ้าน จึงแจ้งให้ชาวบ้านในหมู่บ้านทราบ และออกติดตามจับกุมคนร้ายทันทีแต่ก็ยังไร้ร่องร่อย
ด้านนายมาลีกี หมัดหลี เจ้าของบ้านเลขที่ 125/427 ซึ่งเคยถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้าน กล่าวว่า ที่หมู่บ้านดังกล่าวเกิดเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์จำนวนหลายหลังแล้ว โดยในส่วนของตนนั้น คนร้ายเข้ามาลักทรัพย์สินภายในบ้านเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 3 แสนบาท และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนเดียวกับคนร้ายที่เข้าก่อเหตุในวันนี้