ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคม และองค์กรชุมชนภาคใต้จาก 7 สถาบันอุดมศึกษาในภาคใต้ เขียนจดหมายเปิดผนึกจี้นายกฯ เร่งแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของกลุ่ม “พีมูฟ” อย่างจริงจัง พร้อมระบุให้ทบทวนแผนพัฒนาภาคใต้ โดยคำนึงถึงความยั่งยืน และความต้องการของประชาชนเป็นหลัก
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคม และองค์กรชุมชนภาคใต้ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของนักวิชาการ 7 สถาบันการศึกษา ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เขียนจดหมายเปิดผนึกถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้เร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ ตามข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ “พีมูฟ” ดังนี้
จดหมายเปิดผนึก
เรื่อง เร่งแก้ไขตามข้อเรียกร้องขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)
เรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี
ตามที่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ซึ่งเป็นขบวนการขององค์กรเกษตรกรและคนจนในเมืองที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการพัฒนาประเทศ จากกรณีปัญหาต่างๆ ได้แก่ ปัญหาที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย ปัญหาผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูล กรณีโรงไฟฟ้าชีวมวล กรณีปัญหาคนไทยไร้สัญชาติ และกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายการพัฒนาของรัฐในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย ได้ชุมนุมเรียกร้องทวงสัญญาการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาล มาตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2556 นั้น
ถึงบัดนี้ เป็นที่แน่ชัดว่าการแก้ไขปัญหาไม่มีความคืบหน้าในระดับที่จะมั่นใจได้ว่าปัญหาเหล่านี้จะได้รับการแก้ไขในเร็ววัน อันเนื่องมาจากระบบ กลไกการแก้ไขภายใต้ระบบราชการที่ล่าช้า การเจตนาเตะถ่วงปัญหา การซื้อเวลา และขาดความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลที่ได้ยืนยันมาโดยตลอดว่าเป็นตัวแทนอันชอบธรรมของประชาชน
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ ที่เกิดจากการรวมตัวของนักวิชาการจาก 7 สถาบันอุดมศึกษาในภาคใต้ ได้ติดตามการเคลื่อนไหวของเครือข่ายประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมมาโดยตลอด เห็นว่าปัญหาเหล่านี้ล้วนมีมูลฐานจากนโยบายการพัฒนาที่รวมศูนย์อำนาจ การปล่อยปละละเลยต่อการแก้ไขปัญหารากฐาน การเพิกเฉย และไม่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องอันเรื้อรัง และยาวนานของประชาชน เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ จึงขอเรียกร้องดังนี้
1.ให้รัฐบาลแสดงเจตนารมณ์ที่แจ้งชัดต่อสาธารณชนในการติดตาม แก้ไข ปัญหาตามข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่ความเป็นธรรม และเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยไม่บิดพลิ้ว หรือเตะถ่วงใดๆ โดยเรียกร้องให้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เข้ามากำกับ และสั่งการด้วยตนเอง
2.การชุมนุมเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อความเป็นธรรมในสังคมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้แสดงออกให้เห็นถึงการเคารพในแนวทางประชาธิปไตยอย่างมั่นคง และน่ายกย่อง ดังนั้น รัฐบาลจึงควรเจรจากับขบวนการประชาชนเพื่อความเป็นธรรม อย่างเท่าเทียม เป็นธรรม และเป็นกัลยาณมิตร
3.ในฐานะนักวิชาการในภาคใต้ เรามีความห่วงใยต่อปัญหา และผลกระทบจากการพัฒนาภาคใต้ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และแนวโน้มปัญหาในอนาคต จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล “หยุด/ทบทวนแผนพัฒนาภาคใต้” และ “เร่งสร้างแนวทางการพัฒนาที่คำนึงถึงความยั่งยืน และความต้องการของประชาชน”
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ ขอย้ำว่าความชอบธรรมสูงสุดของรัฐบาลคือ การเร่งแก้ไขปัญหาประชาชนผู้ด้อยโอกาสในสังคมอย่างจริงจังเท่านั้น และเราขอสนับสนุนความชอบธรรมนี้อย่างจริงจัง
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคม และองค์กรชุมชนภาคใต้ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของนักวิชาการ 7 สถาบันการศึกษา ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เขียนจดหมายเปิดผนึกถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้เร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ ตามข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ “พีมูฟ” ดังนี้
จดหมายเปิดผนึก
เรื่อง เร่งแก้ไขตามข้อเรียกร้องขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)
เรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี
ตามที่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ซึ่งเป็นขบวนการขององค์กรเกษตรกรและคนจนในเมืองที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการพัฒนาประเทศ จากกรณีปัญหาต่างๆ ได้แก่ ปัญหาที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย ปัญหาผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูล กรณีโรงไฟฟ้าชีวมวล กรณีปัญหาคนไทยไร้สัญชาติ และกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายการพัฒนาของรัฐในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย ได้ชุมนุมเรียกร้องทวงสัญญาการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาล มาตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2556 นั้น
ถึงบัดนี้ เป็นที่แน่ชัดว่าการแก้ไขปัญหาไม่มีความคืบหน้าในระดับที่จะมั่นใจได้ว่าปัญหาเหล่านี้จะได้รับการแก้ไขในเร็ววัน อันเนื่องมาจากระบบ กลไกการแก้ไขภายใต้ระบบราชการที่ล่าช้า การเจตนาเตะถ่วงปัญหา การซื้อเวลา และขาดความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลที่ได้ยืนยันมาโดยตลอดว่าเป็นตัวแทนอันชอบธรรมของประชาชน
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ ที่เกิดจากการรวมตัวของนักวิชาการจาก 7 สถาบันอุดมศึกษาในภาคใต้ ได้ติดตามการเคลื่อนไหวของเครือข่ายประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมมาโดยตลอด เห็นว่าปัญหาเหล่านี้ล้วนมีมูลฐานจากนโยบายการพัฒนาที่รวมศูนย์อำนาจ การปล่อยปละละเลยต่อการแก้ไขปัญหารากฐาน การเพิกเฉย และไม่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องอันเรื้อรัง และยาวนานของประชาชน เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ จึงขอเรียกร้องดังนี้
1.ให้รัฐบาลแสดงเจตนารมณ์ที่แจ้งชัดต่อสาธารณชนในการติดตาม แก้ไข ปัญหาตามข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่ความเป็นธรรม และเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยไม่บิดพลิ้ว หรือเตะถ่วงใดๆ โดยเรียกร้องให้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เข้ามากำกับ และสั่งการด้วยตนเอง
2.การชุมนุมเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อความเป็นธรรมในสังคมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้แสดงออกให้เห็นถึงการเคารพในแนวทางประชาธิปไตยอย่างมั่นคง และน่ายกย่อง ดังนั้น รัฐบาลจึงควรเจรจากับขบวนการประชาชนเพื่อความเป็นธรรม อย่างเท่าเทียม เป็นธรรม และเป็นกัลยาณมิตร
3.ในฐานะนักวิชาการในภาคใต้ เรามีความห่วงใยต่อปัญหา และผลกระทบจากการพัฒนาภาคใต้ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และแนวโน้มปัญหาในอนาคต จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล “หยุด/ทบทวนแผนพัฒนาภาคใต้” และ “เร่งสร้างแนวทางการพัฒนาที่คำนึงถึงความยั่งยืน และความต้องการของประชาชน”
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ ขอย้ำว่าความชอบธรรมสูงสุดของรัฐบาลคือ การเร่งแก้ไขปัญหาประชาชนผู้ด้อยโอกาสในสังคมอย่างจริงจังเท่านั้น และเราขอสนับสนุนความชอบธรรมนี้อย่างจริงจัง
