เกษตรกรฟื้นฟู จ.กระบี่รวมตัวบุกศาลากลาง จี้ผู้ว่าฯ เปลี่ยนรายชื่อ คกก.สอบที่ดิน

กระบี่ - กลุ่มเกษตรกรฟื้นฟูจังหวัดกระบี่กว่า 150 คน เดินทางไปที่ศาลากลาง เรียกร้องให้ผู้ว่าฯ จ.กระบี่ ถอนรายชื่อคณะกรรมการตรวจสอบที่ดินซึ่งเป็นคนนอกพื้นที่พ้นจากคณะฯ เนื่องจากเกรงว่าอาจจัดมีการจัดสรรที่ดินไม่เป็นธรรม ดังนั้น คนกระบี่ต้องเป็นผู้กำหนด

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (13 มิ.ย.) กลุ่มเกษตรกรฟื้นฟูจังหวัดกระบี่ ประมาณ 150 คน นำโดย นายณัฐนัย ไทรทอง และนายดลยาริก สาระภี ได้เดินทางมารวมกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อเรียกร้องให้ทางจังหวัดถอนรายชื่อคณะกรรมการแก้ไขปัญหากรณีราษฎรเรียกร้องการจัดสรรที่ดินทำกินในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่หมดอายุการสัมปทาน หลังจากการตรวจสอบรายชื่อพบว่า กรรมการส่วนใหญ่เป็นคนต่างจังหวัด จึงขอให้ทางจังหวัดกระบี่แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ที่มาจากคนจังหวัดกระบี่แทน

นายณัฐนัย ไทรทอง แกนนำกลุ่มเกษตรกรฟื้นฟูจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่จังหวัดกระบี่ได้มีคำสั่งแต่งตั้งสมาชิกเครือข่ายเกษตรกรไร้ที่ดินทำกิน ซึ่งปักหลักกางเต็นท์อยู่ที่หน้าสำนักงานป่าไม้ที่ 12 ม.1 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ รวม 2 วัน 2 คืน จำนวนกว่า 500 คน นำโดย นายกฤษฎา จีระพันธ์ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.56 ที่ผ่านมา และได้เดินทางมารวมตัวกันต่อที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อกดดันให้จังหวัดทำการจัดสรรพื้นที่หมดสัมปทานในพื้นที่จังหวัดกระบี่ให้แก่กลุ่มฯ โดยมี พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ผู้แทนประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางมารับเรื่อง

จากนั้นได้เชิญตัวแทนกลุ่มเกษตรไร้ที่ทำกิน มาจากหลายจังหวัดร่วมประชุมหารือร่วมกับนายวีระ จันทรทิพรักษ์ ปลัดจังหวัดกระบี่ นายอำนาจ สร้อยเกียว ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ เพื่อหาข้อสรุปและแนวทางการแก้ไขปัญหา พร้อมมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด มีทั้งหัวหน้าส่วนราชการ และสมาชิกกลุ่มฯ เท่านั้น ซึ่งทางกลุ่มของตนเห็นว่า ไม่มีความเป็นธรรมต่อคนกระบี่ เนื่องจากชาวบ้านต้องเป็นคนตัดสินใจเอง ไม่ใช่ให้คนต่างจังหวัดเป็นคนกำหนด จึงได้รวมตัวกันมาเรียกร้องให้ทางจังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่แทนชุดเก่า

ต่อมา นายวีระ จันทรทิพรักษ์ ปลัดจังหวัดกระบี่ ได้เชิญตัวแทนกลุ่มเพื่อเจรจาที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ พร้อมกล่าวว่า สำหรับคณะกรรมการชุดเดิมได้มีการลงนามรับรองไปแล้ว จึงไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ และที่สำคัญ ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่ส่อไปในทางมิชอบ ประกอบกับแม้ว่าคณะกรรมการชุดเก่าจะเป็นคนต่างจังหวัดส่วนใหญ่ แต่มติคณะรัฐมนตรีเดิมให้จัดสรรพื้นที่หมดอายุสัมปทานให้คนในพื้นที่ก่อน และเมื่อกลุ่มเกษตรกรฟื้นฟูไม่มั่นใจก็สามารถดำเนินการร้องต่อกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ ซึ่งทางกลุ่มพอใจจึงสลายการชุมนุมในที่สุด