xs
xsm
sm
md
lg

งามไส้! ตร.หาดใหญ่ทำของกลางหาย ฟ้องกราวรูด 10 คน ชุดจับกุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอุทัย อุไรรัตน์ (ซ้ายมือ)
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - อดีตผู้ต้องหาคดีรับของโจรฟ้อง 10 ตำรวจทุกระดับ ข้อหายักยอกทรัพย์ หลังศาลยกฟ้องแต่ของกลางหาย อ้างน้ำท่วมเสียหายแทงจำหน่าย

วันนี้ (13 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายอุทัย อุไรรัตน์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ถ.อนุสรณ์อาจารย์ทอง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อาชีพเปิดร้านรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า และอดีตผู้ต้องหาในคดีรับของโจรเมื่อปี 2543 ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน พร้อมกับนำหลักฐานการแจ้งความดำเนินคดีต่ออดีตตำรวจ สภ.หาดใหญ่ 10 นาย ซึ่งเป็นชุดจับกุมในขณะนั้น ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และร่วมกันยักยอกทรัพย์ ซึ่งได้เข้าแจ้งความที่ สภ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ศาลยกฟ้องแต่ของกลางที่ตำรวจยึดไว้หายไปทั้งหมด 19 รายการ มูลค่า 6 แสนบาท

สำหรับตำรวจทั้ง 10 นาย ประกอบด้วย นายตำรวจระดับสัญญาบัตร 4 นาย พ.ต.อ.สุพิชศิลป์ อิศรางกูร ณ อยุธยา (อดีต ผกก.สภ.หาดใหญ่) พ.ต.อ.ประพัฒน์ ศรีอนันต์ (อดีตหัวหน้าชุดจับกุม) พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีแสง (อดีตพนักงานสอบสวน) พ.ต.ท.ศิริศักดิ์ พูนศิริ (รองหัวหน้าชุดจับกุม) และตำรวจระดับชั้นประทวน 6 นาย มี จ.ส.ต.จรัล นวลเพ็ชร ส.ต.อ.สมนาจ ศรีวะปะ ส.ต.อ.สุนทร คำเถาะ ส.ต.อ.ธีรชาติ รักษ์สกุล ส.ต.ท.ชาลี บุญรัศมี ส.ต.ต.อาคม ขาวเต็มดี (ยศในขณะนั้น)

นายอุทัย ให้การว่า เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2543 ได้ถูกตำรวจ สภ.หาดใหญ่ เข้าจับกุมที่บ้านพักซึ่งเปิดเป็นร้านรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าในข้อหารับของโจร หลังจากที่ได้มีชายวัยรุ่น 2 คน นำพระบูชาหลวงปู่ทวด 1 องค์ มาขายให้แต่ตนไม่ได้รับซื้อไว้ แต่วัยรุ่นทั้ง 2 คนได้ฝากพระเอาไว้ โดยบอกว่าจะไปธุระและค่อยกลับมาเอา แต่ปรากฏว่าในวันเดียวกัน ตำรวจได้จับกุมหนึ่งในวัยรุ่นทราบชื่อว่า นายสมเกียรติ ในคดียาเสพติดและซัดทอดว่าได้ขโมยพระบูชามาเก็บไว้ที่ตน และตำรวจได้นำกำลังมาเข้าตรวจค้นภายในร้านพร้อมกับยึดทรัพย์สินซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือช่างไปทั้งหมด 19 รายการ มูลค่ากว่า 6 แสนบาท และดำเนินคดีในข้อหารับของโจร

แต่หลังจากที่ตนได้สู้คดีในชั้นศาลเป็นเวลา 3 ปี ปรากฏว่า ศาล จ.สงขลา ได้พิจารณายกฟ้องเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2547 และได้ยื่นเรื่องต่อพนักงานอัยการให้ทาง สภ.หาดใหญ่ คืนของกลางทั้งหมดให้ตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน 2547 แต่ปรากฏว่า ของกลางทั้งหมดได้หายไป โดยตำรวจอ้างว่าถูกน้ำท่วมเสียหาย และได้แทงจำหน่ายไปแล้ว และตำรวจได้เจรจาขอชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2 แสนบาท ซึ่งตนก็ยินยอม และได้มีการจ่ายเงินให้เพียง 110,000 บาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับเงินส่วนที่เหลือ 9 หมื่นบาท อีกเลยเป็นเวลาเกือบ 10 ปี

และล่าสุด เมื่อวันที่7 มีนาคม 2556 ตนได้ให้สำนักงานอัยการ จ.สงขลา ทำหนังสือสอบถามผลคดี และการคืนทรัพย์สินของกลางมายัง สภ.หาดใหญ่ อีกครั้งแต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า และไม่มีคำตอบเรื่องเงินส่วนที่เหลือ จึงได้ติดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์ต่อตำรวจชุดจับกุมทั้ง 10 นาย และยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เนื่องจากตนได้รับความเสียหายทั้งชื่อเสียง และทรัพย์สินทั้งที่ไม่ได้กระทำผิด
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น