ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เตรียมดึงศักยภาพศิษย์เก่าอินโดนีเซีย ในประเทศไทย มาร่วมพัฒนาพื้นที่เพื่อเตรียมมุ่งสู่ประชาคมอาเซียน
วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมโรงแรมหาดแก้วรีสอร์ท อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “วันศิษย์เก่าอินโดนีเซีย ครั้งที่ 1” (Reuni Alumni Indonesia Ke - 1/ 2013) โดยมี HE.Lutfi Rauf เอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย พล.ต.กิตติ อินทสร รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนจุฬาราชมนตรี สมาชิกศิษย์เก่าอินโดนีเซียในประเทศไทย และนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในอินโดนีเซีย เข้าร่วมกว่า 200 คน ปัจจุบันชมรมศิษย์เก่าอินโดนีเซียในประเทศไทย มีนายอับดุลฮาฟิซ หิเล เป็นประธานชมรม
“วันศิษย์เก่าอินโดนีเซีย ครั้งที่ 1” จัดขึ้นโดยชมรมศิษย์เก่าอินโดนีเซียในประเทศไทย ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสถานกงสุลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลา มีวัตถุประสงค์เพื่อพบปะ พูดคุย กระชับความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์เก่าด้วยกัน และหารือความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้พร้อมเพื่อที่จะก้าวสู่ประตูประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายน 2556 ณ โรงแรมหาดหาดแก้วรีสอร์ท จังหวัดสงขลา
โดยมีกิจกรรมการเสวนา หัวข้อ แนวทางการพัฒนาและความร่วมมือศิษย์เก่าอินโดนีเซีย การแสดงวัฒนธรรมจากอินโดนีเซีย และการบรรยายหัวข้อ บทบาทศิษย์เก่าอินโดนีเซียกับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ศิษย์เก่าอินโดนีเซีย หรือผู้ที่จบการศึกษาจากประเทศอินโดนีเซีย เป็นทรัพยาการบุคคลที่สำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ภาษาอินโดนีเซีย หรือภาษามลายู ซึ่งวันนี้กลายเป็นภาษาที่ใช้ในการทำงานในอาเซียน จึงเป็นของโอกาสของผู้ที่ใช้ภาษามลายู ที่จะเป็นผู้นำ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสร้างความเจริญให้แก่ประเทศ
เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวอีกว่า อยากให้สมาชิกชมรมศิษย์เก่าอินโดนีเซียทุกคน ช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะใช้การศึกษา ศาสนา ภาษามลายู ในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง ศอ.บต.พร้อมที่สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศไทย และอินโดนีเซีย ในการแลกเปลี่ยนทั้งด้านการศึกษา วัฒนธรรม ตลอดจนการพัฒนาด้านฝีมือแรงงาน การสร้างงาน และใช้ศักยภาพของนักศึกษาที่จบการศึกษาจากประเทศอินโดนีเซีย มาร่วมกันพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมโรงแรมหาดแก้วรีสอร์ท อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “วันศิษย์เก่าอินโดนีเซีย ครั้งที่ 1” (Reuni Alumni Indonesia Ke - 1/ 2013) โดยมี HE.Lutfi Rauf เอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย พล.ต.กิตติ อินทสร รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนจุฬาราชมนตรี สมาชิกศิษย์เก่าอินโดนีเซียในประเทศไทย และนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในอินโดนีเซีย เข้าร่วมกว่า 200 คน ปัจจุบันชมรมศิษย์เก่าอินโดนีเซียในประเทศไทย มีนายอับดุลฮาฟิซ หิเล เป็นประธานชมรม
“วันศิษย์เก่าอินโดนีเซีย ครั้งที่ 1” จัดขึ้นโดยชมรมศิษย์เก่าอินโดนีเซียในประเทศไทย ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสถานกงสุลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลา มีวัตถุประสงค์เพื่อพบปะ พูดคุย กระชับความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์เก่าด้วยกัน และหารือความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้พร้อมเพื่อที่จะก้าวสู่ประตูประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายน 2556 ณ โรงแรมหาดหาดแก้วรีสอร์ท จังหวัดสงขลา
โดยมีกิจกรรมการเสวนา หัวข้อ แนวทางการพัฒนาและความร่วมมือศิษย์เก่าอินโดนีเซีย การแสดงวัฒนธรรมจากอินโดนีเซีย และการบรรยายหัวข้อ บทบาทศิษย์เก่าอินโดนีเซียกับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ศิษย์เก่าอินโดนีเซีย หรือผู้ที่จบการศึกษาจากประเทศอินโดนีเซีย เป็นทรัพยาการบุคคลที่สำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ภาษาอินโดนีเซีย หรือภาษามลายู ซึ่งวันนี้กลายเป็นภาษาที่ใช้ในการทำงานในอาเซียน จึงเป็นของโอกาสของผู้ที่ใช้ภาษามลายู ที่จะเป็นผู้นำ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสร้างความเจริญให้แก่ประเทศ
เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวอีกว่า อยากให้สมาชิกชมรมศิษย์เก่าอินโดนีเซียทุกคน ช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะใช้การศึกษา ศาสนา ภาษามลายู ในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง ศอ.บต.พร้อมที่สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศไทย และอินโดนีเซีย ในการแลกเปลี่ยนทั้งด้านการศึกษา วัฒนธรรม ตลอดจนการพัฒนาด้านฝีมือแรงงาน การสร้างงาน และใช้ศักยภาพของนักศึกษาที่จบการศึกษาจากประเทศอินโดนีเซีย มาร่วมกันพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้