จัดยิ่งใหญ่งานมหกรรมเกษตรอินทรีย์ วิถีเศรษฐกิจพอเพียงสู่อาเซียน

กระบี่ - จัดยิ่งใหญ่งาน มหกรรมเกษตรอินทรีย์ วิถีเศรษฐกิจพอเพียง สู่ประชาคมอาเซียน ที่ จ.กระบี่ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่เกษตรกรภาคใต้ ในการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่มีคุณภาพ และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค หวังลดต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารในการแข่งขันสู่เออีซี ชี้การเปิดเสรีทางการค้า เกษตรกรไทยจะได้รับผลกระทบมากที่สุด

เวลา 10.30 น. วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่โรงแรมพีช ลากูน่า รีสอร์ท แอนด์ สปา ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี เปิดงานมหกรรมเกษตรอินทรีย์ วิถีเศรษฐกิจพอเพียง สู่ประชาคมอาเซียน โดยมีนายเกรียงศักดิ์ หงษ์โต อธิบดีกรมพัฒนาที่ดินร่วมงาน

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรลดการใช้ปุ๋ยเคมี และสารเคมีทางการเกษตร เพื่อพัฒนาสู่ระบบเกษตรอินทรีย์ สร้างความเข้มแข็งให้เกิดในระบบอินทรีย์ของประเทศ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาคอาเซียน และระดับนานาชาติ ภายในงานมีการบรรยายการให้ความรู้เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ พิธีมอบรางวัล โรงเรียนเกษตรอินทรีย์ ชนะเลิศดีเด่น ประจำปี 56 ได้แก่ โรงเรียนบ้านกลางมิตรภาพ 44 จ.กระบี่ กลุ่มเกษตรกรใช้สารอินทรีย์ลดสารเคมีทางการเกษตรดีเด่น ชนะเลิศปี 56 ได้แก่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตปุ๋ยอินทรีย์บ้านเขานาง จ.ชุมพร และกลุ่มผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์

สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นิทรรศการเกษตรอินทรีย์จากหน่วยงานภาครัฐ และจากกลุ่มเกษตรอินทรีย์จังหวัดต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ การผลิตในระบบอินทรีย์ และการจำหน่ายสินค้า และผลผลิตทางการเกษตรของกลุ่มเกษตร ทั้งในจังหวัดกระบี่ และจังหวัดใกล้เคียง เช่น ข้าวสังข์หยดอินทรีย์ กลุ่มแม่บ้านเกาะกลาง ไข่เค็มสมุนไพรยูงทอง บ้านห้วยยูง จ.กระบี่ ส้มแขกน้ำปลาหวาน จ.ภูเก็ต ปลาดุกอินทรีย์ สบู่สมุนไพร จ.นครศรีธรรมราช เป็นต้น

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า การจัดงานมหกรรมเกษตรอินทรีย์ ที่จังหวัดกระบี่ในครั้งนี้ นับเป็นการเปิดโอกาสให้มีการนำผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งดำเนินการในลักษณะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในสังกัด องค์กรภาครัฐและเอกชน มาประชาสัมพันธ์สู่สาธารณะอย่างกว้างขวาง สร้างแรงจูงใจให้ผู้ผลิตเข้าสู่ระบบเกษตรอินทรีย์ ผู้ผลิต และผู้บริโภคปลอดภัยเกษตรกรรมไทยยั่งยืน และเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตพบผู้บริโภค เพิ่มช่องทางการตลาดใหม่มากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวอีกว่า การเปิดเสรีทางการค้าอาเซียนในปี 58 เกษตรกรไทยจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะอาชีพเกษตรกรรม คือ อาชีพหลักของผู้คนส่วนใหญ่ในอาเซียน ดังนั้น ภาคเกษตรกรรมจะเกิดการแข่งขันกันรุนแรงในเรื่องของราคา และต้นทุนการผลิต ดังนั้น ทางออกของคนไทย คือต้องผลิตสินค้าที่มีมาตรฐานโดยการหันมาผลิตสินค้าที่ปลอดภัยจากสารพิษ โดยใช้ระบบเกษตรอินทรีย์ และเน้นผลิตสินค้าตามความต้องการของตลาด