สุราษฎร์ธานี - ชาวบ้าน ม.1 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ฯ รวมตัวต้านนายทุนส่งรถแบ็กโฮรื้อถอนต้นปาล์มอายุกว่า 10 ปี จำนวนกว่า 700 ไร่ แต่ต้านไม่อยู่ ได้รวมตัวเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ได้รับคำตอบไม่มีอำนาจสั่งยุติ แนะให้ไปร้องผู้ว่าราชการจังหวัด
วันนี้ (4 มิ.ย.) ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ตำบลท่าสะท้อน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมตัวเดินทางเข้าขัดขวางรถแบ็กโฮ จำนวนกว่า 10 คัน พร้อมคนงานที่กำลังรื้อถอนต้นปาล์มน้ำมันอายุกว่า 10 ปี จำนวนกว่า 700 ไร่ หลังจากที่ฝ่ายชาวบ้านอ้างว่าที่ดินผืนนี้เป็นแหล่งทำมาหากินมาตั้งแต่ปี 2544 แต่ภายหลังได้มีเจ้าของบริษัท ทักษิณปาล์ม จำกัด มาปักแนวเขตพร้อมมีเอกสารสิทธิครอบครองที่ดิน
นายประจักษ์ สอนประสงค์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ม.1 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ตัวแทนชาวบ้านกล่าวว่า ตนและครอบครัวได้เข้าบุกเบิกจับจองพื้นที่ทำกิน ปลูกปาล์มน้ำมัน จำนวน 45 ไร่ ในพื้นที่มาตั้งแต่ปี 2544 โดยไม่ได้ยื่นขอเอกสารสิทธิ หลังจากเข้าครอบครองมาประมาณ 3 ปี ได้มีคนของบริษัท ทักษิณปาล์ม จำกัด มาปักแนวเขต ทางชาวบ้านจึงรวมตัวคัดค้าน พร้อมเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน แต่เรื่องก็เงียบหายไป จนกระทั่งเมื่อปี 2555 ได้มีคำสั่งของกรมบังคับคดีมาปิดประกาศยึดทรัพย์ ของนายธวัช สิโนทก พร้อมบริวารจึงทำให้เกิดเรื่องขึ้นมา ดังนั้น ชาวบ้านได้รวมตัวยื่นร้องคัดค้านต่อศาล
ขณะที่ นายจารึก ประดับ อายุ 60 ปี เจ้าพื้นที่สวนปาล์มดังกล่าว ระบุว่า พวกตนพร้อมพวกเข้ามาจับจองพื้นที่ทำกินปลูกต้นปาล์มน้ำมันมาตั้งแต่ปี 2544 ต่อมา เมื่อปีที่ผ่านมา ได้มีคำสั่งกองบังคับคดีได้มาปิดประกาศยึดทรัพย์สินของนายธวัช สิโนทก และบริวาร และให้ขนย้ายทรัพย์สินออกจากพื้นที่ภายใน 7 วัน จึงทำให้ตนพร้อมผู้ปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 38 ราย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นได้ยื่นร้องคัดค้านต่อศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธุ์ และเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2555 ศาลได้ตัดสินว่า ผู้ร้องทั้ง 38 ราย มิใช่บริวารของจำเลย ซึ่งได้นำคำตัดสินยื่นเสนอต่อทาง บริษัท ทักษิณปาล์ม จำกัด แต่ทางบริษัทไม่รับฟัง วันนี้ทางบริษัทได้ส่งเครื่องจักรกลหนักเข้ามาทำการรื้อถอนต้นปาล์มน้ำมันของชาวบ้าน จึงรวมตัวมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ไม่มีอำนาจยับยั้งได้ โดยแนะนำให้ผู้เสียหายทั้งหมดเดินทางไปร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมเพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการต่อไป
ด้าน นายชาคร สุริยพฤศ ตัวแทนบริษัท พร้อม นายคมสันต์ ม่วงงาม ทนายความได้ชี้แจงว่า พื้นที่ทั้งหมด จำนวน 2,000 กว่าไร่ เป็นของ บริษัททักษิณปาล์ม จำกัด โดยมีเอกสาร น.ส.3 ก. ครอบครองโดยถูกต้องตามกฎหมาย และการดำเนินการก็เป็นไปตามคำสั่งศาล
