นราธิวาส - คนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องยัดใส่กระป๋องสีสเปรย์ซุกในร้านขายโทรศัพท์ และร้านขายของชำ ห่างกัน 30 เมตร ในเขตเทศบาลเมืองสุคิริน จุดชนวนด้วยนาฬิกาดิจิตอลทั้ง 2 จุด ทำให้ชาวบ้านบาดเจ็บ 3 ราย ร้ายขายของชำถูกไฟไหม้เสียหาย 2 คูหา และบ้านข้างเคียงอีก 2 หลัง
เวลา 13.35 น. วันนี้ (4 มิ.ย.) ร.ต.ท.สถาพร จ้องกู้ ร้อยเวร สภ.สุคิริน จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้น จำนวน 2 ลูก ที่ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือชื่อ มิเตอร์โฟน เลขที่ 179/1 ม.4 ต.สุคิริน และที่ร้านขายของชำชื่อร้าน ช.พานิช เลขที่ 163 ซึ่งห่างกันประมาณ 30 เมตร ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย จึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ที่ร้าน ช.พานิช โดยมี นายบุญชอบ ลักเล่ง อายุ 46 ปี เป็นเจ้าของ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยนำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลสุคิรินอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะประสานหน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลสุคิริน จำนวน 3 คัน มาฉีดน้ำสกัดกั้นต้นเพลิง โดยใช้เวลานานกว่า 15 นาที เพลิงสงบ และพบว่าร้าน ช.พานิช ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย 2 คูหา และบ้านที่อยู่ติดกันทางด้านซ้ายและขวาถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายไปด้วย 2 คูหา เจ้าหน้าที่จึงได้กันประชาชนเป็นจำนวนมากที่ยืนดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ร้านออกห่าง
ก่อนที่จะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุแรก ที่ร้านมิเตอร์โฟน ซึ่งมี นายวิโรจน์ เจริญทิม เป็นเจ้าของ โดยที่บริเวณเก้าอี้นั่งซึ่งทำด้วยรากไม้เฟอร์นิเจอร์ มีร่องรอยถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกระป๋องสีสเปรย์ หนัก 1 กก. จุดชนวนด้วยนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอลตกกระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายวิโรจน์ เจ้าของร้านทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีชายวัยรุ่น จำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะมาจอดที่หน้าร้านโดยคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายใส่หมวกแก๊ปลงเดินจากรถ ทำทีมาเติมเงินโทรศัพท์มือถือ เมื่อนายวิโรจน์ เผลอคนร้ายได้ลอบนำกระป๋องสีสเปรย์ที่ประกอบระเบิดเอาไว้ไปตั้งไว้บริเวณใต้เก้าอี้นั่งเล่นหน้าร้าน แล้วก็เดินขึ้นรถจักรยานยนต์หายไป โดยที่นายวิโรจน์ ไม่ได้เอะใจ เมื่อผ่านไปประมาณ 2 นาที จึงได้เกิดระเบิดขึ้น
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบจุดระเบิดลูกที่ 2 ซึ่งเป็นร้านขายของชำ พบว่า สินค้าภายในร้านถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด โดยมีซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องชนิด และขนาดเดียวกันกับจุดแรกตกกระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจหาหลักฐานในที่เกิดเหตุได้มากนัก เนื่องจากความร้อนของเพลิงไหม้ยังอบอวลอยู่
จากการสอบสวน นายบุญชอบ เจ้าของร้านทราบว่า ก่อนเกิดเหตุในขณะนั้น มีชาวบ้านจำนวนกว่า 6-7 คน กำลังเลือกซื้อหาสินค้าอยู่ภายในร้านที่จำหน่ายสินค้าทุกประเภทอยู่นั้น ตนพยายามที่จะเร่งให้รีบซื้อสินค้า และออกไปจากร้าน เพราะต้องการที่จะไปดูเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่ร้านมิเตอร์โฟน ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 30 เมตร จึงไม่ได้สังเกตชายวัยรุ่นต้องสงสัย จำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะมาจอดที่หน้าร้านคล้ายกับรอคนที่รู้จักกันที่เดินซื้อของในร้าน ตนจึงไม่ได้สนใจ เมื่อ 2 วัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ออกไปประมาณ 5 นาที จึงเกิดระเบิดขึ้นที่บริเวณชั้นวางสินค้าที่ตั้งไว้หน้าร้าน เป็นเวลาเดียวกับผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 ราย เดินออกจากร้าน จึงทำให้ถูกระเบิดได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลสุคิริน ทราบชื่อ คือ 1.นายมูฮัมหมัดรุสลัน อาลียะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 ม.4 ต.สุคิริน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณลำตัวอาการไม่สาหัสมากนัก 2.นายมะซู หามะ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/4 ม.5 ต.สุคิริน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขาทั้ง 2 ขาอาการสาหัส 3.นางแมะหม๊ะ หามะ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเดียวกัน ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณหน้าท้อง และขาหนีบอาการสาหัส ทั้ง 2 ราย ถูกส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ร้ายของกลุ่มก่อความไม่สงบ