ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจภูเก็ตตามจับแล้วผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนปลอม-มีด สวมหน้ากากปีศาจบุกเดียวเข้าชิงทรัพย์ที่ร้านเซเว่นฯ ในพื้นที่ป่าตอง ได้เงินสด 1,900 บาท หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลา 10 วัน ตามแกะรอยพบหนีกบดานบ้านเกิด จ.นครศรีธรรมราช อ้างหาเงินซื้อนมให้ลูก ตกงานไม่มีรายได้
เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (27 พ.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิชนะพันธ์ ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.ท.ไพศาล เทพ รองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรกะทู้ พ.ต.ต.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรกะทู้ และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม แถลงข่าวการจับกุม นายปิยะวุธ ดารากัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาบันซ้าน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยของกลาง เสื้อผ้าที่คนร้ายใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ อาวุธปืนปลอม หมวกหน้ากากปีศาจ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างทำไปเพราะต้องหาหาเงินไปซื้อนมให้ลูกอายุ 3 ขวบ
สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 03.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.กะทู้ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ ว่า มีเหตุคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านเซเว่นฯ ได้เงินสดไป จำนวน 1,900 บาท หลบหนีไป หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมสอบปากคำพนักงานภายในร้าน และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบคนร้ายสวมเสื้อกันหนาวแขนยาวสีเทาแบบคลุมศีรษะ สวมถุงมือสีขาว กางเกงยีนส์ขายาว สวมหน้ากากเพื่อปกปิดใบหน้า และสวมใส่รองเท้าสีดำ ขณะก่อเหตุคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนปลอมสีดำ และอาวุธมีดพับจี้บังคับพนักงานให้เปิดลิ้นชักเก็บเงิน หลังจากนั้นคนร้ายได้หยิบเงิน จำนวน 1,900 บาท ก่อนเดินหลบหนีออกจากร้านไป
ต่อมา ทาง พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้สั่งการชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.วิฑูรย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิชนะพันธ์ ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.อ.วันไชย ปะลาวัน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วยสืบสวน สภ.กะทู้ และสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต ดำเนินการสืบสวนจับกุมคนร้ายในคดีนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนติดตามจับกุม โดยทางสืบสวน สภ.กะทู้ และสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต ได้ร่วมกันตรวจสอบกล้อง CCTV พบเส้นทางของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ โดยคนร้ายได้ขับขี่รถ จยย. ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นฟิลาโน่ สีแดง ขับมาตามเส้นทางบ้านมอญ-นาใน มายังจุดเกิดเหตุ หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปทางถนนผังเมือง มุ่งผ่านแยกโรงพยาบาลป่าตองก่อนเลี้ยวขวาไปทางเส้นทางนาใน-บ้านมอญ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อดังกล่าวในพื้นที่ทั้งหมดจากข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นรถที่อยู่ในพื้นที่ป่าตอง เนื่องจากคนร้ายมีความชำนาญเส้นทางในพื้นที่ และมีการปกปิดตำหนิรูปพรรณเป็นพิเศษ พบรถต้องสงสัยในพื้นที่ จ.ภูเก็ต จำนวน 30 คัน โดยได้ตรวจสอบรถต้องสงสัยในพื้นที่ทั้งหมด ผลการตรวจสอบพบรถ จยย. ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟิลาโน่ สีแดง ทะเบียนป้ายแดง 99-061 ที่จอดอยู่บริเวณชุมชนบ้านมอญ เป็นของนายปิยะวุธ ดารากัย โดยนายปิยะวุธ ได้นำรถไปจำนำไว้กับเพื่อนในราคา 2,000 บาท หลังเกิดเหตุ 2 วัน โดยแจ้งกับเพื่อว่าจะรีบกลับบ้านที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และจากการตรวจสอบพบว่า นายปิยะวุธ พื้นเพเดิมเป็นคน ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีลักษณะคล้ายกับคนร้ายจากนั้นได้นำพยานมาดูภาพจากกล้องวงจรปิด พยานยืนยันว่า ภาพดังกล่าวคือ นายปิยะวุธ โดยนายปิยะวุธ ได้เข้ามาทำงานในพื้นที่ป่าตองมาประมาณ 10 กว่าปี และมีปัญหาด้านการเงิน
พ.ต.อ.อรุณ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนทราบว่า นายปิยะวุธ พักอยู่ที่ซอยพระบารมี 2 แต่พบว่าในวันที่ 16 พ.ค.2556 หลังก่อเหตุได้ย้ายออกจากที่พักดังกล่าวไปแล้ว จึงได้นำภาพถ่ายมาตรวจสอบตามสถานที่ต่างๆ อีกครั้ง พบว่าได้พักอาศัยที่อพาร์ตเมนต์ไม่ทราบชื่อ ห้อง 3/2 อยู่ในซอยฝั่งตรงข้ามเทศบาลเมืองป่าตอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นไปตรวจสอบห้องดังกล่าว พบเสื้อกันหนาวยี่ห้อเจเจ อาวุธปืนปลอม ถุงมือยาง กางเกงยีนส์ ซึ่งตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ และพบเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง โดยนายปิยะวุธ และภรรยาได้หลบหนีไปแล้ว ทางพนักงานสอบสวน สภ.กะทู้ ได้ออกหมายจับผู้ต้องหานี้ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 1862556 ลงวันที่ 23 พ.ค.2556 ในความผิดฐาน “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม พาอาวุธมีไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
และจากการสืบสวนติดตามจับกุม นายปิยะวุธ พบว่า ได้หลบหนีไปอยู่กับบิดาที่บ้านนาเคียน จ.นครศรีธรรมราช โดยชุดจับกุมได้ร่วมกับสืบสวน ภ.จว.นครศรีธรรมราช จับกุมตัวนายปิยะวุธ ได้เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 พ.ค.2556 ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ขณะที่นายปิยะวุธ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่ากำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน เนื่องจากตน และภรรยาตกงานไม่มีเงินมาซื้อนมให้ลูกจึงตัดสินใจก่อเหตุชิงทรัพย์ดังกล่าว เพื่อนำเงินมาซื้อนมให้ลูกซึ่งมีอายุ 3 ขวบได้กิน ก่อนที่จะลงมือก็ใช้เวลาตัดสินใจอยู่นาน
เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (27 พ.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิชนะพันธ์ ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.ท.ไพศาล เทพ รองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรกะทู้ พ.ต.ต.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรกะทู้ และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม แถลงข่าวการจับกุม นายปิยะวุธ ดารากัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาบันซ้าน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยของกลาง เสื้อผ้าที่คนร้ายใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ อาวุธปืนปลอม หมวกหน้ากากปีศาจ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างทำไปเพราะต้องหาหาเงินไปซื้อนมให้ลูกอายุ 3 ขวบ
สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 03.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.กะทู้ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ ว่า มีเหตุคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านเซเว่นฯ ได้เงินสดไป จำนวน 1,900 บาท หลบหนีไป หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมสอบปากคำพนักงานภายในร้าน และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบคนร้ายสวมเสื้อกันหนาวแขนยาวสีเทาแบบคลุมศีรษะ สวมถุงมือสีขาว กางเกงยีนส์ขายาว สวมหน้ากากเพื่อปกปิดใบหน้า และสวมใส่รองเท้าสีดำ ขณะก่อเหตุคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนปลอมสีดำ และอาวุธมีดพับจี้บังคับพนักงานให้เปิดลิ้นชักเก็บเงิน หลังจากนั้นคนร้ายได้หยิบเงิน จำนวน 1,900 บาท ก่อนเดินหลบหนีออกจากร้านไป
ต่อมา ทาง พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้สั่งการชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.วิฑูรย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิชนะพันธ์ ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.อ.วันไชย ปะลาวัน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วยสืบสวน สภ.กะทู้ และสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต ดำเนินการสืบสวนจับกุมคนร้ายในคดีนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนติดตามจับกุม โดยทางสืบสวน สภ.กะทู้ และสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต ได้ร่วมกันตรวจสอบกล้อง CCTV พบเส้นทางของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ โดยคนร้ายได้ขับขี่รถ จยย. ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นฟิลาโน่ สีแดง ขับมาตามเส้นทางบ้านมอญ-นาใน มายังจุดเกิดเหตุ หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปทางถนนผังเมือง มุ่งผ่านแยกโรงพยาบาลป่าตองก่อนเลี้ยวขวาไปทางเส้นทางนาใน-บ้านมอญ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อดังกล่าวในพื้นที่ทั้งหมดจากข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นรถที่อยู่ในพื้นที่ป่าตอง เนื่องจากคนร้ายมีความชำนาญเส้นทางในพื้นที่ และมีการปกปิดตำหนิรูปพรรณเป็นพิเศษ พบรถต้องสงสัยในพื้นที่ จ.ภูเก็ต จำนวน 30 คัน โดยได้ตรวจสอบรถต้องสงสัยในพื้นที่ทั้งหมด ผลการตรวจสอบพบรถ จยย. ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟิลาโน่ สีแดง ทะเบียนป้ายแดง 99-061 ที่จอดอยู่บริเวณชุมชนบ้านมอญ เป็นของนายปิยะวุธ ดารากัย โดยนายปิยะวุธ ได้นำรถไปจำนำไว้กับเพื่อนในราคา 2,000 บาท หลังเกิดเหตุ 2 วัน โดยแจ้งกับเพื่อว่าจะรีบกลับบ้านที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และจากการตรวจสอบพบว่า นายปิยะวุธ พื้นเพเดิมเป็นคน ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีลักษณะคล้ายกับคนร้ายจากนั้นได้นำพยานมาดูภาพจากกล้องวงจรปิด พยานยืนยันว่า ภาพดังกล่าวคือ นายปิยะวุธ โดยนายปิยะวุธ ได้เข้ามาทำงานในพื้นที่ป่าตองมาประมาณ 10 กว่าปี และมีปัญหาด้านการเงิน
พ.ต.อ.อรุณ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนทราบว่า นายปิยะวุธ พักอยู่ที่ซอยพระบารมี 2 แต่พบว่าในวันที่ 16 พ.ค.2556 หลังก่อเหตุได้ย้ายออกจากที่พักดังกล่าวไปแล้ว จึงได้นำภาพถ่ายมาตรวจสอบตามสถานที่ต่างๆ อีกครั้ง พบว่าได้พักอาศัยที่อพาร์ตเมนต์ไม่ทราบชื่อ ห้อง 3/2 อยู่ในซอยฝั่งตรงข้ามเทศบาลเมืองป่าตอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นไปตรวจสอบห้องดังกล่าว พบเสื้อกันหนาวยี่ห้อเจเจ อาวุธปืนปลอม ถุงมือยาง กางเกงยีนส์ ซึ่งตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ และพบเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง โดยนายปิยะวุธ และภรรยาได้หลบหนีไปแล้ว ทางพนักงานสอบสวน สภ.กะทู้ ได้ออกหมายจับผู้ต้องหานี้ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 1862556 ลงวันที่ 23 พ.ค.2556 ในความผิดฐาน “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม พาอาวุธมีไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
และจากการสืบสวนติดตามจับกุม นายปิยะวุธ พบว่า ได้หลบหนีไปอยู่กับบิดาที่บ้านนาเคียน จ.นครศรีธรรมราช โดยชุดจับกุมได้ร่วมกับสืบสวน ภ.จว.นครศรีธรรมราช จับกุมตัวนายปิยะวุธ ได้เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 พ.ค.2556 ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ขณะที่นายปิยะวุธ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่ากำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน เนื่องจากตน และภรรยาตกงานไม่มีเงินมาซื้อนมให้ลูกจึงตัดสินใจก่อเหตุชิงทรัพย์ดังกล่าว เพื่อนำเงินมาซื้อนมให้ลูกซึ่งมีอายุ 3 ขวบได้กิน ก่อนที่จะลงมือก็ใช้เวลาตัดสินใจอยู่นาน