ชุดสืบคลองตันรวบแก๊งโจ๋ปล้นชิง จยย.ได้ของกลางร่วม 40 คัน โดยเลือกสถานที่เปลี่ยวในการก่อเหตุ ใช้อาวุธจี้บังคับ ด้าน ตร.ขยายผลจับกุมนายหน้ารับซื้อของโจรต่อ
วันที่ (11 พ.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่สน.คลองตัน พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุนทร เขมะประภา รอง ผบก.น.5 รรท.ผกก.สน.คลองตัน พ.ต.ท.กิตติพันธิ์ เที่ยงน้อย รอง ผกก.สส.สน.คลองตัน พ.ต.ท.อภิชาต ทองจันดี สว.สส.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวแก็งวัยโจ๋ออกตระเวนปล้น ชิงทรัพย์จักรยานยนต์ ประกอบด้วย นายวิศิษฐ์พงษ์ หรืออาร์ม รักษ์ชน อายุ 22 ปี, นายณัฐกานต์ หรืออ๊อฟ มะโนไพร อายุ 20 ปี, นายคมเพชร หรือเอ้ พลเทพ อายุ 20 ปี, นายกล้าหาญ หรือจิม แสงสีเนตร อายุ 23 ปี, นายราเมศ หรือเจ จิมทอง อายุ 22 ปี, นายเอกพล หรือเอก จันทรังสี อายุ 27 ปี และผู้ต้องหาเยาวชนอายุตั้งแต่ 14-19 จำนวน 5 ราย ทั้งนี้ยังสาวถึงนายธนกร หรือลุค ยุทธโรจน์ อายุ 34 ปี เป็นพ่อค้าคนกลาง พร้อมของกลางจักรยานยนต์หลากหลายยี่ห้อจำนวนกว่า 30 คัน ไม้เบสบอล มีดสปาต้า ปืนปลอม 1 กระบอก โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่หาดบางแสน ต.แสนสุข อ.บางแสน จ.ชลบุรี
พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายหลายรายเข้ามาร้องเรียนว่าถูกแก๊งผู้ต้องหาดังกล่าวก่อเหตุปล้นจักรยานยนต์จนได้รับความเดือดร้อน จึงได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวจนทราบพฤติการณ์ว่ากลุ่มคนร้ายมักจะรวมตัวกันขับขี่จักรยานยนต์จำนวน 2-3 คันตั้งแต่ช่วงเวลาหลัง 6 โมงเย็นจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นเพื่อตระเวนหาเป้าหมายที่เป็นจักรยานยนต์ มักจะเลือกเหยื่อที่ขับขี่จักรยานยนต์มาคันเดียวในสถานที่เปลี่ยว ก่อนจะขับรถปาดหน้าและบังคับให้หยุด ให้เหยื่อลงจากรถ ต่อจากนั้นจะทำการปล้นโดยการใช้อาวุธในการข่มขู่ จากนั้นจะนำทรัพย์สินที่ปล้นได้และนำจักรยานยนต์ไปขายในราคาคันละประมาณ 8,000-15,000 บาท ให้กับนายธนกร ที่ซอยร่มเกล้า 31
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.คลองตัน ได้สืบทราบถึงการกระทำของแก๊งดังกล่าวจึงได้ติดตามตัวและสามารถจับกุมได้ที่บางแสน จ.ชลบุรี พร้อมของกลางจักรยานยนต์จำนวน 4 คัน ต่อมาทางฝ่ายสืบสวนได้ทำการขยายผลจับกุมนายธนกรได้ที่โกดังย่านถนนแฮปปี้แลนด์ เขตบางกะปิ พร้อมได้ของกลางเพิ่มเติมกว่า 28 คัน รวมทั้งสิ้น 32 คัน ก่อนนำตัวคนร้ายและของกลางมาสอบสวนต่อที่สน.คลองตัน นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติทางอาชญากรรมทราบว่าแก๊งคนร้ายได้เคยก่อเหตุในท้องที่ สน.คลองตัน สน.พระโขนง สน.มักกะสัน สน.บางเขน สน.บางนา และสภ.คูคต รวมการปล้นทั้งหมด 16 ครั้ง
จากการสอบสวนนายธนากรยอมรับว่าได้รับซื้อจักรยานยนต์มาจากแก๊งดังกล่าวจริง โดยได้นำมาขายต่อให้กับนายวัฒน์และนายดิว ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง โดยนายธนากรเผยอีกว่าได้เก็บรถทั้งหมดไว้ในโกดังดังกล่าวซึ่งตนจะรับหน้าที่เป็นพ่อค้าคนกลางในการจำหน่ายรถออกต่อไป โดยได้รับเงินค่าหัวประมาณ 3,000-5,000 บาทต่อคัน
ด้าน น.ส.ฟาริดา กลัดสมบูรณ์ ผู้เสียหายเล่าว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย. เวลาประมาณ 02.00 น. ตนและแฟนหนุ่มได้กำลังขับรถกลับบริเวณถนนเอกมัย ตรงข้ามบิ๊กซี เข้ามาทางเอกมัยซอย 10 เข้าซอยปีดีพนมยงค์ 15 โดยมีจักรยานยนต์ 2 คันเลี้ยวเข้าไปก่อนโดยมาจากทางพระโขนง ต่อจากนั้นมีจักรยานยนต์คันหนึ่งพยายามชะลอให้ผู้เสียหายขับแซงไปก่อน พอถึงทางโค้งจะมีจักรยานยนต์ดักรออยู่แล้วส่องไฟใส่ผู้เสียหายให้จอดรถและจากนั้นจักรยานยนต์คันหลังก็ตามประกบพร้อมนำมีดสปาต้าจี้ชิงทรัพย์และนำรถของผู้สียหายขับหลบหนีไป
พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวอีกว่า ฝากช่วยประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มคนร้ายดังกล่าวก่อเหตุนั้นเดินทางมาตรวจสอบรถของกลางทั้งหมดที่ยึดมาได้ สน.คลองตันได้ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะทำการขยายผลของขบวนการดังกล่าวต่อไปอีกครั้ง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ และปล้นทรัพย์ผู้อื่นโดยมีอาวุธและใช้อาวุธปืนหรือใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์สินไป ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
