กาฬสินธุ์-ตำรวจ สภ.สมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ รวบหนุ่มวัย 26 ปี ก่อเหตุควงมีดอีโต้จี้ชิงทรัพย์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สารภาพหาเงินไปซื้อยาบ้ามาขาย เหิมเตรียมกลับมาก่อเหตุซ้ำแต่ไม่รอดถูกจับ เผยประวัติเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดได้แค่ 7 วันก็ออกมาก่อเหตุแล้ว
วันนี้ (4 เม.ย.) พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.ต.อ.อนันต์ เลิศเวช ผกก.สภ.สมเด็จ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจ และชุดสืบสวนเข้าจับกุมตัว นายปรีชารัตน์ หรือหน่อง ขันธุแสง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/1 ม.4 ต.โนนศิลา อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ 185/2556 ลงวันที่ 3 เม.ย.2556 ที่บริเวณสี่แยกหลังตลาดสดเทศบาลสมเด็จ ขณะขี่รถจักรยานยนต์ดูลาดเลาเตรียมลงมือชิงทรัพย์อีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ นายปรีชารัตน์ ได้ก่อเหตุใช้มีดอีโต้บุกเดี่ยวเข้าไปชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น เลขที่ 51/3 ถนนถีนานนท์สายสมเด็จ-กาฬสินธุ์ สาขาหน้าตลาดโต้รุ่งสมเด็จ เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา พร้อมยึดของกลางมีดอีโต้ 1 เล่ม รองเท้าผ้าใบ 1 คู่ กางเกงยีนส์ เสื้อยืดกีฬาสีขาว เสื้อคลุมลายพรางทหาร และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีแดง-เหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน พบชายสวมเสื้อลายทหาร ไม่ปิดปังใบหน้า ถือมีดอีโต้เข้าไปจี้บังคับพนักงาน และชิงทรัพย์ สามารถเห็นใบหน้าคนร้ายอย่างชัดเจน จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับได้ดังกล่าว
ผู้ต้องหารับสารภาพว่า เพิ่งพ้นโทษ และออกจากเรือนจำคดียาเสพติดในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2556 และเดินทางกลับบ้านที่ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นวันที่ 9 มี.ค.2556 ได้นั่งรถเข้ามาใน อ.สมเด็จ ลงมือขโมยรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าตลาดสด พร้อมบุกเดี่ยวเข้าไปชิงทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ใช้มีดอีโต้เป็นอาวุธ จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป และนำเงินที่ได้ไปซื้อยาบ้าจากชายคนหนึ่งใน อ.สหัสขันธ์ จำนวน 10 เม็ด ราคา 1,700 บาท นำไปขายต่อให้แก่กลุ่มวัยรุ่นราคา 250 บาท อีกส่วนหนึ่งนำไปเสพเอง
เมื่อเงินหมดจึงเดินทางไปลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นฯ ใน อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา กระทั่งเงินหมดอีก จึงเตรียมจะลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านเซเว่นฯ สาขาสมเด็จ อีกครั้ง เพราะคิดว่าตำรวจคงคาดไม่ถึงว่าตนจะกลับมาอีก จึงขี่รถจักรยานยนต์มาดูลาดเลาแต่มาถูกจับเสียก่อน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหาชิงทรัพย์ (โดยใช้อาวุธในเวลากลางคืน) โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด หรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม