สายส่งไฟฟ้าแรงสูงขนาด 500 กิโลโวลต์ จากภาคกลาง ขัดข้องส่งผลไฟฟ้าดับทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ กฟผ.เร่งตรวจสอบ ล่าสุด สามารถแก้ไขจนสถานีไฟฟ้าหลักกลับมาจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ครบทั้ง 14 จังหวัดแล้ว
มีรายงานข่าวตั้งแต่เวลา 19.00 น. วันนี้ (21 พ.ค.) ได้เกิดไฟฟ้าดับในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานีลงไป ทั้งฝั่งอ่าวไทย และอันดามันจนถึง 3 จังหวัดชายแดนไทย-มาเลเซีย
เบื้องต้น นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า เนื่องจากสายส่งไฟฟ้าแรงสูงขนาด 500 กิโลโวลต์ จากภาคกลางถูกตัดออกจากระบบ ทำให้ไฟฟ้าดับเนื่องจากกำลังผลิตไฟฟ้าในพื้นที่มีไม่พอ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่าไฟฟ้าจากแหล่งผลิตที่อยู่ในภาคภาคใต้ เช่น ที่เขื่อนรัชประภา จ.สุราษฎร์ธานี ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา หรือที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ถูกตัดจากระบบหรือไม่ ขณะนี้กำลังเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อนำไฟฟ้าเข้าระบบ นับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
นายชนินทร์ เชาวร์นิริติศัย ผู้ช่วยผู้ว่าการควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า กฟผ.กล่าวว่า ตามปกติภาคใต้ต้องรับไฟฟ้าจากภาคกลาง ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวความต้องการใช้ไฟฟ้าใกล้ถึงจุดสูงสุด และสายส่งเกิดปัญหาขึ้น ทำให้สายส่งหลักลัดวงจร ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดต้องค้นหาต่อไป โดยการตรวจจับข้อมูลที่อยู่ในระบบส่งทั้งหมด และวิเคราะห์อีกครั้ง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้โรงไฟฟ้าในภาคใต้หลุดออกไปจากระบบหลายโรง และต้องใช้เวลาในการเชื่อมต่อใหม่ แต่โรงหลักๆ สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้แล้ว อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้กับภาคอื่นคงไม่มี เนื่องจากมีกำลังผลิตมากกว่าความต้องการ
ด้านนายนำชัย หล่อวัฒนตระกูล ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดเผยถึงสาเหตุไฟฟ้าดับในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ว่า มาจากสถานีไฟฟ้าใหญ่ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขัดข้อง เจ้าหน้าที่เร่งแก้ไขสถานการณ์แล้ว
มีรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. บางพื้นที่กระแสไฟฟ้าเริ่มมาตามปกติแล้ว เช่น ในหลายพื้นที่ของ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สงขลา เป็นต้น
ขณะที่นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า สาเหตุไฟฟ้าดับครั้งนี้เนื่องจากกระแสไฟฟ้าที่ส่งจากโรงไฟฟ้ากุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ไ ปจังหวัดภาคใต้ วงจรที่ 1 พลิกลงทำให้วงจรที่ 2 พลิกด้วย กระแสไฟที่ส่งไปภาคใต้จึงถูกตัด เจ้าหน้าที่ได้เร่งแก้ไข คาดว่าจะใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง ส่วนกระแสไฟฟ้าสำรองนั้นไม่สามารถดึงมาใช้ได้
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า 14 จังหวัดภาคใต้มีการใช้ไฟฟ้ามากกว่าปริมาณที่ผลิตได้ในพื้นที่ จึงต้องส่งกระแสไฟฟ้าจากภาคกลางลงไปช่วย มื่อกระแสไฟฟ้าไม่พอจ่ายแรงดันไฟจึงถูกดึงลงทำให้ไฟฟ้าดับทั้งหมด
แหล่งข่าวจาก กฟภ.ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ที่สถาานีไฟฟ้าใหญ่ อ.บางสะพาน เป็นที่ตั้งของหม้อแปลงขนาด 115 KV จำนวน 2 ชุด เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้แก่ภาคใต้ 2 ไลน์ สาเหตุที่ไฟฟ้าดับทั่วภาคใต้เป็นเพราะหม้อแปลงเกิดถูกตัดไป 1 ลูก
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเกิดไฟฟ้าดับทั่วภาคใต้ ฝ่ายช่างก็ได้เร่งแก้ปัญหาขณะนี้สามารถจ่ายไฟฟ้าให้แก่บางพื้นที่ในหลายจังหวัดของภาคใต้ได้แล้วด้วยหม้อแปลง 1 ลูกที่เหลือ ส่วนอีกลูกที่ไม่ทำงานกำลังเร่งตรวจหาสาเหตุ และทำการซ่อมแซมอยู่ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จึงจะกลับมาจ่ายไฟฟ้าให้แก่ภาคใต้ได้ตามปกติ
ต่อมา เมื่อเวลา 21.30 น.ก ฟผ.รายงานว่า โรงไฟฟ้าหลักในภาคใต้สามารถจ่ายไฟได้ตามปกติครบทั้ง 14 จังหวัดแล้ว แต่ต้องใช้เวลาอีกสักระยะกระแสไฟฟ้าจึงจะไปถึงครบทุกครัวเรือน
มีรายงานข่าวตั้งแต่เวลา 19.00 น. วันนี้ (21 พ.ค.) ได้เกิดไฟฟ้าดับในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานีลงไป ทั้งฝั่งอ่าวไทย และอันดามันจนถึง 3 จังหวัดชายแดนไทย-มาเลเซีย
เบื้องต้น นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า เนื่องจากสายส่งไฟฟ้าแรงสูงขนาด 500 กิโลโวลต์ จากภาคกลางถูกตัดออกจากระบบ ทำให้ไฟฟ้าดับเนื่องจากกำลังผลิตไฟฟ้าในพื้นที่มีไม่พอ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่าไฟฟ้าจากแหล่งผลิตที่อยู่ในภาคภาคใต้ เช่น ที่เขื่อนรัชประภา จ.สุราษฎร์ธานี ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา หรือที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ถูกตัดจากระบบหรือไม่ ขณะนี้กำลังเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อนำไฟฟ้าเข้าระบบ นับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
นายชนินทร์ เชาวร์นิริติศัย ผู้ช่วยผู้ว่าการควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า กฟผ.กล่าวว่า ตามปกติภาคใต้ต้องรับไฟฟ้าจากภาคกลาง ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวความต้องการใช้ไฟฟ้าใกล้ถึงจุดสูงสุด และสายส่งเกิดปัญหาขึ้น ทำให้สายส่งหลักลัดวงจร ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดต้องค้นหาต่อไป โดยการตรวจจับข้อมูลที่อยู่ในระบบส่งทั้งหมด และวิเคราะห์อีกครั้ง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้โรงไฟฟ้าในภาคใต้หลุดออกไปจากระบบหลายโรง และต้องใช้เวลาในการเชื่อมต่อใหม่ แต่โรงหลักๆ สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้แล้ว อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้กับภาคอื่นคงไม่มี เนื่องจากมีกำลังผลิตมากกว่าความต้องการ
ด้านนายนำชัย หล่อวัฒนตระกูล ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดเผยถึงสาเหตุไฟฟ้าดับในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ว่า มาจากสถานีไฟฟ้าใหญ่ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขัดข้อง เจ้าหน้าที่เร่งแก้ไขสถานการณ์แล้ว
มีรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. บางพื้นที่กระแสไฟฟ้าเริ่มมาตามปกติแล้ว เช่น ในหลายพื้นที่ของ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สงขลา เป็นต้น
ขณะที่นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า สาเหตุไฟฟ้าดับครั้งนี้เนื่องจากกระแสไฟฟ้าที่ส่งจากโรงไฟฟ้ากุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ไ ปจังหวัดภาคใต้ วงจรที่ 1 พลิกลงทำให้วงจรที่ 2 พลิกด้วย กระแสไฟที่ส่งไปภาคใต้จึงถูกตัด เจ้าหน้าที่ได้เร่งแก้ไข คาดว่าจะใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง ส่วนกระแสไฟฟ้าสำรองนั้นไม่สามารถดึงมาใช้ได้
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า 14 จังหวัดภาคใต้มีการใช้ไฟฟ้ามากกว่าปริมาณที่ผลิตได้ในพื้นที่ จึงต้องส่งกระแสไฟฟ้าจากภาคกลางลงไปช่วย มื่อกระแสไฟฟ้าไม่พอจ่ายแรงดันไฟจึงถูกดึงลงทำให้ไฟฟ้าดับทั้งหมด
แหล่งข่าวจาก กฟภ.ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ที่สถาานีไฟฟ้าใหญ่ อ.บางสะพาน เป็นที่ตั้งของหม้อแปลงขนาด 115 KV จำนวน 2 ชุด เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้แก่ภาคใต้ 2 ไลน์ สาเหตุที่ไฟฟ้าดับทั่วภาคใต้เป็นเพราะหม้อแปลงเกิดถูกตัดไป 1 ลูก
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเกิดไฟฟ้าดับทั่วภาคใต้ ฝ่ายช่างก็ได้เร่งแก้ปัญหาขณะนี้สามารถจ่ายไฟฟ้าให้แก่บางพื้นที่ในหลายจังหวัดของภาคใต้ได้แล้วด้วยหม้อแปลง 1 ลูกที่เหลือ ส่วนอีกลูกที่ไม่ทำงานกำลังเร่งตรวจหาสาเหตุ และทำการซ่อมแซมอยู่ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จึงจะกลับมาจ่ายไฟฟ้าให้แก่ภาคใต้ได้ตามปกติ
ต่อมา เมื่อเวลา 21.30 น.ก ฟผ.รายงานว่า โรงไฟฟ้าหลักในภาคใต้สามารถจ่ายไฟได้ตามปกติครบทั้ง 14 จังหวัดแล้ว แต่ต้องใช้เวลาอีกสักระยะกระแสไฟฟ้าจึงจะไปถึงครบทุกครัวเรือน