“พงษ์ศักดิ์”นัดผู้ที่เกี่ยวข้องหาสาเหตุไฟดับ 14 จังหวัดภาคใต้เร่งด่วน พร้อมเตรียมแผนรองรับปัญหาดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด่วน ยันไฟดับครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้(22พ.ค.) จะหารือร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ถึงกรณีการเกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากกรณีใดแน่ รวมถึงจะหาทางป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
“เราต้องยอมรับว่าภาคใต้ผลิตไฟไม่พอใช้กับความต้องการโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)จะต้องส่งไฟผ่านระบบส่งจากภาคกลางไปช่วย การสำรองโดยส่งผ่านสายส่งไปในระยะไกลๆ ปัญหานี้มันจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา กรณีที่มีคนมองว่าไฟดับเพราะต้องการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มที่ภาคใต้นั้นคงไม่ได้ประโยชน์อะไรเพราะถ้าเขาสร้างโรงไฟฟ้าไม่ได้ก็มีหน้าที่ต้องจ่ายไฟผ่านสายส่งจากภาคกลางเพราะเป็นหน้าที่ดับไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร “นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
นายพงษ์ดิษฐ พจนา รองผู้ว่ากิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะโฆษก กฟผ. กล่าวว่า สาเหตุเบื้องต้นเกิดจากสายส่ง 500 Kv เส้นที่ 2 ชำรุดจึงทำให้ต้องจ่ายผ่านเส้นเดียวที่มีแรงดันต่ำกว่าทำให้สายส่งที่ส่งไฟเกิดกำลังหลุดจากระบบไฟจึงดับเป็นวงกว้าง อย่างไรก็ตามได้เร่งให้โรงไฟฟ้าภาคใต้ผลิตทดแทน ทั้งการผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันดีเซลที่ จ.สุราษฎร์ธานี และเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันเตาที่ จ.กระบีเข้ามาเพิ่ม รวมทั้งอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อไฟฟ้าฉุกเฉินจากประเทศมาเลเซีย คาดว่าทะยอยจ่ายไฟฟ้าครบทุกพื้นที่ในคืนนี้
ทั้งนี้ กฟผ. จะเร่งซ่อมแซมระบบสายส่งจากภาคกลางที่ส่งไฟภาคใต้ที่ อ.บางสะพานให้เสร็จอย่างเร่งด่วนพร้อมจะหาสาเหตุที่แท้จริงจะแถลงข่างให้ทราบต่อไป โดยในปัจจุบันโรงไฟฟ้าในภาคใต้มีกำลังการผลิตเพียง 2,000 เมกะวัตต์ แต่มีความต้องการใช้สูงถึง 2,500 เมกะวัตต์ โดยอีก 500 เมกะวัตต์ที่ขาดจะต้องพึ่งการผลิตไฟฟ้าจากภาคกลางส่งเข้าไป
