นครศรีธรรมราช - จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำสัญญาว่าจ้างติดตั้งนั่งร้านเพื่อให้ช่างสิบหมู่ขึ้นตรวจสอบบัวคว่ำบัวหงาย องค์พระบรมธาตุเจดีย์ เริ่มดำเนินงานหลังวันวิสาขบูชา เบื้องต้นคาดใช้เวลา 180 วัน
วันนี้ (20 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังความวิตกกังวลของหลายภาคส่วนเกี่ยวกับร่องรอยการชำรุดของกลีบบัวคว่ำบัวหงาย และปลียอดทองคำองค์พระบรมธาตุเจดีย์ที่มีคราบสนิม รวมทั้งทองคำที่เปลี่ยนสีกลายเป็นสีดำทำให้เกิดข้อกังขาว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น โดยล่าสุดนั้น นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ลงนามในสัญญาจ้างร่วมกับห้างหุ้นส่วนจำกัดเมธาวีรวมช่าง เพื่อติดตั้งนั่งร้านรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช เพื่อให้ช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ขึ้นไปตรวจสอบบริเวณกลีบบัวคว่ำบัวหงาย ฐานปลียอดทองคำขององค์พระบรมธาตุเจดีย์
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (20 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ลงนามในสัญญาจ้างครั้งนี้ใช้งบประมาณในการจ้างติดตั้งนั่งร้านเป็นเงิน 820,000 บาท โดยระบุว่า ก่อนเริ่มดำเนินการทางบริษัทจะประกอบพิธีขอขมาพระบรมธาตุเจดีย์ก่อนติดตั้งนั่งร้านหลังจากวันวิสาขบูชา มีโยธาธิการและผังเมืองเป็นผู้ควบคุมดูแล ใช้เวลาในการประกอบติดตั้ง 30 วัน และจะติดตั้งไว้เป็นระยะเวลา 180 วัน
โดยมีช่างสิบหมู่จากกรมศิลปากรเป็นผู้ขึ้นไปตรวจสอบ หลังจากนั้นจะนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดรายงานให้กรมศิลปากรรับทราบ เพื่อตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาว่าจะซ่อมแซม หรือบูรณะอย่างไรต่อไป ซึ่งยังตอบไม่ได้ ต้องดูผลจากการตรวจสอบก่อน ส่วนการรักษาดูแลรักษาความปลอดภัยนั้น จะให้ทางจังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 5 ฝ่าย ทั้งจากตำรวจ ทหาร กรมศิลปากร วัฒนธรรมจังหวัด และวัดพระมหาธาตุนครศรีธรรมราช เป็นผู้ดำเนินการ
ขณะที่ตัวแทนห้างหุ้นส่วนจำกัดได้แจ้งเจตจำนงว่า ตามสัญญามีการติดตั้งนั่งร้านไว้ 180 วัน แต่หากการตรวจสอบ และการบูรณะไม่แล้วเสร็จภายใน 180 วัน ทางบริษัทจะไม่มีการเรียกเก็บเงินเพิ่มแต่อย่างใด ส่วนที่เหลือถือว่าเป็นการทำบุญร่วมกัน
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการผลักดันวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเป็นมรดกโลก ว่า งบประมาณปี 2556 ได้รับอนุมัติจากการประชุม ครม. สัญจรมีอยู่ 2 ส่วนคือ ส่วนหนึ่งงบ 9 ล้านกว่าบาท ใช้ในการจัดทำเอกสารซึ่งมีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชเป็นผู้รับผิดชอบ และการประชาสัมพันธ์ ซึ่งคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์กำลังหาข้อสรุปว่าจะทำอะไรกันบ้าง ซึ่งงบประมาณนี้ได้โอนมาแล้ว
อีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่โอนมาคือ การปรับปรุงภูมิทัศน์ตามแบบของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และกรมโยธาธิการและผังเมือง จำนวน 35 ล้านบาท ซึ่งได้ส่งแบบแปลนไปให้สำนักงบประมาณแล้ว เมื่องบประมาณโอนมาก็จะได้ดำเนินการตามระเบียบพัสดุต่อไป สำหรับปีงบประมาณ 2557 ใช้งบพัฒนาจังหวัดแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การก่อสร้างถนนที่จะเข้ามาทางด้านหลังองค์พระบรมธาตุ วงเงิน 70 ล้านบาท และการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน 30 ล้านบาท รวมเป็น 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีงบประมาณที่จังหวัดขอความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรี ในการปรับปรุงถนนหนทางต่างๆ ซึ่งเทศบาลนครนครศรีธรรมราชเป็นผู้เสนอวงเงินกว่า 300 ล้านบาท แต่เรื่องแบบแปลนยังไม่เสร็จซึ่งได้เร่งให้เทศบาลนครฯ ทำรายละเอียดให้เสร็จเพื่อส่งไปให้กระทรวงมหาดไทยต่อไป และยังได้รับทราบจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า ได้สนับสนุนงบจากการแปรญัตติเพื่อติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่างองค์พระบรมธาตุอีก 20 ล้านบาท