ตรัง - นายก อบต.ควนธานี วอนผู้เกี่ยวข้องหันมาสนใจพัฒนาศาลหลักเมืองตรัง หลังจากไร้การเหลียวแล และขาดแคลนงบประมาณ เพราะยังต้องปรับปรุงในด้านต่างๆ อีกเพียบ
วันนี้ (28 พ.ย.) นายประนอม รักจริง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ควนธานี อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง กล่าวว่า ศาลหลักเมืองตรังซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเก่า สายตรัง-กันตัง ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจ และเคารพบูชาของชาวจังหวัดตรังมายาวนานกว่า 2 ศตวรรษ หรือ 202 ปีแล้ว นับตั้งแต่เมื่อ พ.ศ.2354 ซึ่งได้มีการตั้งเมืองตรังขึ้นเป็นครั้งแรกที่ตำบลควนธานี และยังเป็นสถานที่ที่พ่อเมืองทุกยุคทุกสมัยจะต้องกราบสักการะเป็นอันดับแรกเมื่อเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด รวมไปถึงบุคคลสำคัญต่างๆ ที่ได้เดินทางมาด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงระยะหลังๆ เป็นต้นมา โดยเฉพาะหลังจากมีการตัดถนนใหม่ สายตรัง-กันตัง ทำให้ศาลหลักเมืองตรังซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเก่าไม่ค่อยได้รับการเหลียวแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่เป็นโบราณสถานที่น่าจะสำคัญที่สุดของจังหวัดตรัง ซึ่งมิใช่เฉพาะชาวต่างจังหวัดที่เดินทางผ่านไปมาเท่านั้น แม้แต่ชาวตรังบางคนก็ไม่รู้ว่าศาลหลักเมืองตั้งอยู่ ณ ที่ใด ขนาดแผ่นพับแนะนำจังหวัดตรังที่ได้จัดทำขึ้นกลับไม่มีการลงภาพ หรือเนื้อหาเกี่ยวกับศาลหลักเมืองเลย ทำให้พวกตนรู้สึกน้อยใจเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ ศาลหลักเมืองตรังยังมีจุดที่จะต้องพัฒนาอีกหลายเรื่อง เช่น การทำป้ายขนาดใหญ่ไว้กลางถนนใหม่สายตรัง-กันตัง เพื่อให้ผู้คนโดยทั่วไปรับรู้ เพราะเส้นทางที่เดินทางเข้ามาประมาณ 1 กิโลเมตร นั้น ทาง อบต.ควนธานี ได้เทคอนกรีต และราดยางไว้แล้ว นอกจากนั้น ยังควรซ่อมแซมศาลาแสดงนิทรรศการ ซึ่งสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ พ.ศ.2538 เนื่องจากหลังคาบางส่วนเริ่มชำรุดทรุดโทรมแล้ว รวมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์ด้านหน้าศาลาให้สวยงามยิ่งขึ้น แต่คงต้องใช้งบประมาณสูงมากเกินกว่าที่ อบต.จะรับภาระได้
ขณะเดียวกัน นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ยังเสนอให้ทำการติดตั้งกระจกครอบเสาหลักเมือง ซึ่งทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เซนติเมตร ยาว 2.59 เมตร ที่ตั้งอยู่ภายในศาลาทรงไทยจัตุรมุข โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระสุหร่าย และทรงเจิมเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ.2536 ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เพื่อมิให้ประชาชนที่ไปกราบสักการะนำมือไปลูบคลำ จนเกรงจะทำให้เสาหลักเมืองเกิดความชำรุดเสียหายได้ ซึ่ง อบต.ก็กำลังอยู่ระหว่างการจัดหางบประมาณเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในปี 2556 จะมีการก่อสร้างศาลาทรงไทยจัตุรมุข จำนวน 2 หลัง บริเวณหลังประตูทางเข้า ทั้งด้านซ้าย และขวา ด้วยงบพัฒนาจังหวัด 6 แสนบาทเศษ เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดจำหน่ายดอกไม้ธูปเทียน และใช้เป็นสถานที่พักผ่อนของนักท่องเที่ยว เนื่องจากในแต่ละวันจะมีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมากราบสักการะศาลหลักเมืองตรังกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลและวันหยุดสำคัญ นอกจากนั้น ทาง อบต.ควนธานี ยังได้จัดจ้างเจ้าหน้าที่มาประจำเพื่อดูแล และแนะนำสถานที่ให้แก่ผู้คนด้วย