ตรังเตรียมพัฒนาอนุสาวรีย์จิ๋วสุดในโลกให้ยิ่งใหญ่

ตรัง - หลายฝ่ายเตรียมพัฒนาอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ ซึ่งมีขนาดเล็กที่สุดในโลก ริมถนนสายตรัง-พัทลุง หวังให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากต้องถูกหลงลืมมายาวนานหลายปีแล้ว

วันนี้ (4 พ.ย.) นายกมล ประเสริฐกุล นายอำเภอนาโยง จ.ตรัง ได้นำผู้สื่อข่าวเดินทางขึ้นไปบนเทือกเขาบรรทัด หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า เขาพับผ้า แล้วเข้าไปยังเส้นทางเดิมของถนนสายตรัง-พัทลุง เขตบ้านน้ำราบ ต.ช่อง อ.นาโยง ในบริเวณที่ตั้งของสถานีทดลองยางเก่า ซึ่งปัจจุบัน ไม่ได้มีรถสัญจรไปมาแล้ว เพื่อทำการสำรวจอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) อดีตเจ้าเมืองตรัง และบิดาแห่งยางพาราไทย ในฐานะที่ท่านเป็นผู้ที่นำต้นยางพารามาปลูกที่จังหวัดตรัง เป็นต้นแรกของประเทศไทย เนื่องจากได้รับการกล่าวขานว่า เป็นอนุสาวรีย์ที่มีขนาดจิ๋วที่สุดในโลก ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปปั้นที่หล่อด้วยโลหะรมดำ และมีความสูงเพียงแค่ 43 เซนติเมตร หรือ 1 ฟุตเศษๆ เท่านั้น

ทั้งนี้ จากคำบอกเล่าของ นายอ้อม ศรีแก้ว อดีตกำนันตำบลช่อง วัย 67 ปี หนึ่งในผู้ที่มีส่วนร่วมในการก่อสร้างอนุสาวรีย์จิ๋วแห่งนี้ เล่าว่า ได้ดำเนินการขึ้นเมื่อปี 2531-2532 โดยมี นายผัน จันทรปาน อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง สมัยนั้น เป็นผู้ริเริ่ม เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ในอดีตเป็นสถานีทดลองยางที่ใช้สำหรับผลิตพันธุ์ยางพารา เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้าน ดังนั้น เพื่อเป็นเกียรติแด่พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี จึงได้ตัดสินใจเลือกสถานที่แห่งนี้ก่อสร้างอนุสาวรีย์ขึ้น โดยแรกๆ ยังตั้งอยู่ในป่ารกทึบ แต่ล่าสุด ได้มีการปรับปรุงพื้นที่ และเทคอนกรีตโดยรอบให้เกิดความสวยงาม

อย่างไรก็ตาม เมื่อก่อสร้างอนุสาวรีย์จิ๋วเสร็จได้เพียงไม่กี่ปี ถนนสายตรัง-พัทลุง ก็ถูกปิด รถทุกคันก็หันไปใช้ถนนสายใหม่กันหมด จึงทำให้ผู้คนหลงลืมกันไป แม้เมื่อปี 2541 สมัยที่ นายเฉลิมชัย ปรีชานนท์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ก็เคยมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปรับปรุงอนุสาวรีย์แห่งนี้ พร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนภายนอกได้รับรู้ ในฐานะที่เป็นอนุสาวรีย์ที่มีขนาดจิ๋วที่สุดในโลก แต่เนื่องจากความไม่ต่อเนื่อง บวกกับการโยกย้ายของผู้ว่าฯ เฉลิมชัย จึงทำให้ความพยายามที่จะผลักดันโครงการในครั้งนั้นไม่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมเท่าที่ควร และทำให้อนุสาวรีย์ไม่ได้รับการเหลียวแลอย่างที่ชาวบ้านต้องการ

นายกมล ประเสริฐกุล นายอำเภอนาโยง กล่าวว่า อบต.ช่อง ได้รับมอบเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ จากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ตรัง แต่ไม่สามารถดูแลบริเวณพื้นที่ทั้งหมดอย่างทั่วถึง และทำได้เพียงแค่การปรับปรุงภูมิทัศน์เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น รวมทั้งคงไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะฟื้นอนุสาวรีย์แห่งนี้ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบได้ แต่เบื้องต้น มีการแบ่งพื้นที่เพื่อปลูกต้นไม้วงศ์ยาง ประมาณ 20 ไร่ ซึ่งขณะนี้ มีขนาดใหญ่โตเหมาะต่อการเข้ามาจัดกิจกรรมอยู่ค่ายพักแรม และยังแบ่งพื้นที่เพื่อปลูกต้นศรีตรัง ประมาณ 15 ไร่ ซึ่งขณะนี้ก็มีขนาดใหญ่โตจนออกดอกสวยงามแล้วด้วย พร้อมทั้งยังได้มีการปลูกเพิ่มลงไปล่าสุดอีก 800 ต้น

ทั้งนี้ ในส่วนของอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี นั้น ทางอำเภอนาโยง จะร่วมกับทุกภาคส่วนในพื้นที่จัดทำประชาคม เพื่อระดมแนวคิดในการพัฒนาให้สวยงามมากยิ่งขึ้น เช่น มีการจัดทำป้ายชื่อ พร้อมระบุข้อมูลที่สำคัญ ไปติดแสดงไว้ให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบ มีการตกแต่งบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ให้ดูน่าประทับใจ มีการปรับปรุงถนนทางเข้าให้สะดวกสบาย และเชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่น เป็นต้น พร้อมกระจายข่าวเชิญชวนผู้คนให้เดินทางมาเที่ยวชมประติมากรรมอันล้ำค่า ที่อดีตผู้ว่าฯ ผัน ได้สรรค์สร้างไว้กลางป่าบนเทือกเขาบรรทัด ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของทั้งชาวตรัง และชาวนาโยงเป็นอย่างยิ่ง