ปัตตานี - ครูชายแดนใต้กังวลนโยบายยุบโรงเรียน ส่งผลกระทบต่อมาตรการดูแลความปลอดภัยครูแน่นอน หากเดินทางไกลขึ้นก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ประธานสมาพันธ์ครูระบุอยากให้ชี้แจงต่อผู้ปกครอง และชุมชน เจตนาในการยุบคืออะไร
ภายหลัง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายในการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีนักเรียนต่ำกว่า 60 คน ทั่วประเทศ จนหลายฝ่ายออกมาแย้ง ตลอดจนไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว
ขณะที่ครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่างกังวล และมองว่านโยบายดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อมาตรการดูแลความปลอดภัยครู และโรงเรียนในบางพื้นที่ เพราะจะต้องเสี่ยงต่อการเดินทางที่ไกลขึ้น แต่ก็มองถึงโรงเรียนหลายแห่งที่ยังคงขาดครูผู้สอน อุปกรณ์การเรียนการสอน รวมทั้งงบประมาณทางการศึกษา จนส่งผลกระทบทำให้คุณภาพในการเรียนการสอนหลายโรงเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ และนักเรียนไม่สามารถสอบแข่งขันกับโรงเรียนในภูมิภาคอื่นได้ หากมีการยุบเพื่อให้ได้ไปเรียนกับโรงเรียนที่ใหญ่ และมีความพร้อมกว่า ก็จะเป็นผลดีต่อตัวครู และเด็กนักเรียน แต่ก็อยากให้มีการมีการชี้แจงต่อผู้ปกครอง และชุมชนที่อาจจะยุบโรงเรียนถึงสาเหตุ และที่สำคัญอยากให้มีการคำนึงถึงความปลอดภัยของครูผู้สอนเป็นหลักด้วย
ซึ่งจากสถานการณ์ความรุนแรงที่ยังคงเกิดขึ้นอยู่รายวันขณะนี้ จนส่งผลกระทบทำให้ครูต่างเกิดความไม่มั่นใจ และขอให้ทุกหน่วยกำลังที่เกี่ยวข้องเร่งออกมาตรการก่อนที่โรงเรียนในพื้นที่จะเริ่มเปิดเทอม และทำการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป
ขณะที่ นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เร่งประชุมหน่วยกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองที่พื้นที่เขตการศึกษาปัตตานี เขต 1, 2, 3 เพื่อเน้นย้ำแผนปฏิบัติตามมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย ครู และโรงเรียน พร้อมเผยยังมีความกังวล แต่ก็ให้ปฏิบัติตามแผนที่รัดกุมเพื่อป้องกันเหตุร้ายต่างๆ ตลอดจนเพื่อเร่งสร้างความมั่นใจให้แก่ครูในช่วงวันเปิดภาคเรียนที่จะถึงนี้
นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า โดยหลักการที่จะยุบโรงเรียนตามนโยบายของรัฐมนตรี เพื่อเร่งรัดคุณภาพการศึกษา ซึ่งในส่วนของโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากคิดจะยุบโรงเรียนขนาดเล็ก และขาดความพร้อม ทั้งด้านครู อุปกรณ์ และงบประมาณการศึกษานั้นหากจะยุบก็สามารถทำได้ แต่ต้องทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง ประชาชนในชุมชนให้เข้าใจว่า เจตนาที่ทำนั้นเพื่ออะไร แต่หากจะพูดถึงเรื่องความปลอดภัยก็จะมีปัญหาเช่นกัน เพราะเด็กในชุมชนเองจะออกจากบ้านไปสู่โรงเรียนก็ไม่ไกล แต่ถ้าหากต้องเปิดโอกาสให้นักเรียนเดินทางไกล หรือครูต้องเดินทางไกลมันก็จะยิ่งเกิดความไม่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และสิ่งที่ครู ตลอดจนบุคลากรทางการศึกษาคาดหวังต่อเจ้าหน้าที่ให้มีการปฏิบัติและทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ กับความยั่งยืนในการทำงาน และความปลอดภัย จะต้องเกิดขึ้นไม่เฉพาะวันเปิดภาคเรียน แต่ต้องมีตลอดไป และจะต้องไม่ให้เกิดการสูญเสียครูต่อไปอีกด้วย
นายบุญสม กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้มีการประชุมสมาพันธ์ครูใน 3 จังหวัด และมีข้อสรุป 3 ข้อ คือ 1.วิเคราะห์สถานการณ์ขณะนี้ 2.แนวทางการ รปภ.ครู และ 3.ทำอย่างไรให้ครูปลอดภัย ซึ่งสถานการขณะนี้ เจ้าหน้าที่ ประชาชน ก็มีความกังวลเรื่องความปลอดภัยเพราะสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับหลายฝ่ายก็ส่งผลถึงความรู้สึกของครูได้ด้วยเช่นกัน ฉะนั้น การเปิดเทมอครั้งนี้ครูต้องใช้มิติ 2 ตัว คือ 1.ปฏิบัติตามแผน รปภ.ครู 2.ป้องกันตนเอง
ส่วนการเตรียมการเปิดเทอมนั้น ทางหน่วยกำลัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีแนวทางดูแลครูให้ปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพราะได้มีการประชุมหน่วยงานความมั่นคงทุกฝ่ายทั้ง 3 จังหวัด และมีทางสมาพันธ์ครูร่วมด้วยนั้น ผลหลังจากพูดคุยนั้นทางสมาพันธ์มีความพึงพอใจในแผน รปภ.ครู ซึ่งทางสมาพันธ์ และเขตพื้นที่การศึกษาจะเฝ้าติดตามแผน รปภ.ของหน่วยความมั่นคงตลอดเวลา และจะมีการประเมินผลการปฏิบัติ ตนขอฝากให้แผนดังกล่าวใช้ตลอดไป ไม่ใช่แค่วันเปิดเทอมเท่านั้น และครูจะต้องปลอดภัย
ภายหลัง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายในการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีนักเรียนต่ำกว่า 60 คน ทั่วประเทศ จนหลายฝ่ายออกมาแย้ง ตลอดจนไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว
ขณะที่ครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่างกังวล และมองว่านโยบายดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อมาตรการดูแลความปลอดภัยครู และโรงเรียนในบางพื้นที่ เพราะจะต้องเสี่ยงต่อการเดินทางที่ไกลขึ้น แต่ก็มองถึงโรงเรียนหลายแห่งที่ยังคงขาดครูผู้สอน อุปกรณ์การเรียนการสอน รวมทั้งงบประมาณทางการศึกษา จนส่งผลกระทบทำให้คุณภาพในการเรียนการสอนหลายโรงเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ และนักเรียนไม่สามารถสอบแข่งขันกับโรงเรียนในภูมิภาคอื่นได้ หากมีการยุบเพื่อให้ได้ไปเรียนกับโรงเรียนที่ใหญ่ และมีความพร้อมกว่า ก็จะเป็นผลดีต่อตัวครู และเด็กนักเรียน แต่ก็อยากให้มีการมีการชี้แจงต่อผู้ปกครอง และชุมชนที่อาจจะยุบโรงเรียนถึงสาเหตุ และที่สำคัญอยากให้มีการคำนึงถึงความปลอดภัยของครูผู้สอนเป็นหลักด้วย
ซึ่งจากสถานการณ์ความรุนแรงที่ยังคงเกิดขึ้นอยู่รายวันขณะนี้ จนส่งผลกระทบทำให้ครูต่างเกิดความไม่มั่นใจ และขอให้ทุกหน่วยกำลังที่เกี่ยวข้องเร่งออกมาตรการก่อนที่โรงเรียนในพื้นที่จะเริ่มเปิดเทอม และทำการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป
ขณะที่ นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เร่งประชุมหน่วยกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองที่พื้นที่เขตการศึกษาปัตตานี เขต 1, 2, 3 เพื่อเน้นย้ำแผนปฏิบัติตามมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย ครู และโรงเรียน พร้อมเผยยังมีความกังวล แต่ก็ให้ปฏิบัติตามแผนที่รัดกุมเพื่อป้องกันเหตุร้ายต่างๆ ตลอดจนเพื่อเร่งสร้างความมั่นใจให้แก่ครูในช่วงวันเปิดภาคเรียนที่จะถึงนี้
นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า โดยหลักการที่จะยุบโรงเรียนตามนโยบายของรัฐมนตรี เพื่อเร่งรัดคุณภาพการศึกษา ซึ่งในส่วนของโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากคิดจะยุบโรงเรียนขนาดเล็ก และขาดความพร้อม ทั้งด้านครู อุปกรณ์ และงบประมาณการศึกษานั้นหากจะยุบก็สามารถทำได้ แต่ต้องทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง ประชาชนในชุมชนให้เข้าใจว่า เจตนาที่ทำนั้นเพื่ออะไร แต่หากจะพูดถึงเรื่องความปลอดภัยก็จะมีปัญหาเช่นกัน เพราะเด็กในชุมชนเองจะออกจากบ้านไปสู่โรงเรียนก็ไม่ไกล แต่ถ้าหากต้องเปิดโอกาสให้นักเรียนเดินทางไกล หรือครูต้องเดินทางไกลมันก็จะยิ่งเกิดความไม่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และสิ่งที่ครู ตลอดจนบุคลากรทางการศึกษาคาดหวังต่อเจ้าหน้าที่ให้มีการปฏิบัติและทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ กับความยั่งยืนในการทำงาน และความปลอดภัย จะต้องเกิดขึ้นไม่เฉพาะวันเปิดภาคเรียน แต่ต้องมีตลอดไป และจะต้องไม่ให้เกิดการสูญเสียครูต่อไปอีกด้วย
นายบุญสม กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้มีการประชุมสมาพันธ์ครูใน 3 จังหวัด และมีข้อสรุป 3 ข้อ คือ 1.วิเคราะห์สถานการณ์ขณะนี้ 2.แนวทางการ รปภ.ครู และ 3.ทำอย่างไรให้ครูปลอดภัย ซึ่งสถานการขณะนี้ เจ้าหน้าที่ ประชาชน ก็มีความกังวลเรื่องความปลอดภัยเพราะสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับหลายฝ่ายก็ส่งผลถึงความรู้สึกของครูได้ด้วยเช่นกัน ฉะนั้น การเปิดเทมอครั้งนี้ครูต้องใช้มิติ 2 ตัว คือ 1.ปฏิบัติตามแผน รปภ.ครู 2.ป้องกันตนเอง
ส่วนการเตรียมการเปิดเทอมนั้น ทางหน่วยกำลัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีแนวทางดูแลครูให้ปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพราะได้มีการประชุมหน่วยงานความมั่นคงทุกฝ่ายทั้ง 3 จังหวัด และมีทางสมาพันธ์ครูร่วมด้วยนั้น ผลหลังจากพูดคุยนั้นทางสมาพันธ์มีความพึงพอใจในแผน รปภ.ครู ซึ่งทางสมาพันธ์ และเขตพื้นที่การศึกษาจะเฝ้าติดตามแผน รปภ.ของหน่วยความมั่นคงตลอดเวลา และจะมีการประเมินผลการปฏิบัติ ตนขอฝากให้แผนดังกล่าวใช้ตลอดไป ไม่ใช่แค่วันเปิดเทอมเท่านั้น และครูจะต้องปลอดภัย
