สุราษฎร์ธานี - บสย.สุราษฎร์ฯมั่นใจปี 56 ยอดวงเงินค้ำประกันทะลุ 6 พันล้านบาท โดยมี 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ขณะที่การลงทุนด้านท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมด้านเกษตร ยังร้อนแรง มีการขยายตัวทั้ง 2 ฝั่งทะเล ทั้งด้านอันดามัน และอ่าวไทย ส่วนวงเงินค้ำประกันเงินกู้ส่วนใหญ่อยู่ที่รายละ 3-5 ล้านบาท เผยสิ้นเดือน เม.ย. อนุมัติวงเงินค้ำประกันสินเชื่อแล้วกว่า 1.2 พันล้านบาท
นายเทียบจิตต์ จันทรภูติผลากร ผู้จัดการบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) สำนักงานสาขาสุราษฎร์ธานี ดูแลรับผิดชอบผู้ประกอบการในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ได้แก่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.ระนอง จ.สุราษฎร์ธานี จ.กระบี่ จ.ภูเก็ต และ จ.พังงา เปิดเผยว่า การค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มปีนี้ของ บสย.สาขาสุราษฎร์ธานี มีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้น ภายใต้ยุทธศาสตร์เชิงรุกการเจาะกลุ่มลูกค้าแบบรายจังหวัด ควบคู่กับกิจกรรมการสร้างการรับรู้ บสย.
สำหรับปี 2556 นี้ตั้งเป้าวงเงินค้ำประกันเงินกู้ 6,000 ล้านบาท ขยายวงเงินค้ำประกันสินเชื่อเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 54 จากปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มธุรกิจหลักของสาขาสุราษฎร์ธานี 5 อันดับ ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน กลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ยาง กลุ่มอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหารทะเล กลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ และกลุ่มธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง ซึ่งส่วนใหญ่วงเงินค้ำประกันจะอยู่ที่ประมาณรายละ 3-5 ล้านบาท ร้อยละ 80-85 นอกจากนั้น วงเงินตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป
นายเทียบจิตต์ กล่าวอีกว่า สำหรับศักยภาพพื้นที่ของจังหวัดภาคใต้ตอนบนนั้น ธุรกิจอุตสาหกรรมด้านการเกษตร และธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและบริการ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นธุรกิจที่ บสย. ตั้งเป้าเข้าไปค้ำประกันสินเชื่อเป็นส่วนใหญ่ในปีนี้ เพราะพื้นที่ภาคใต้ตอนบนมีการลงทุนด้านท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมด้านเกษตรเป็นหลัก โดยเฉพาะการลงทุนด้านการท่องเที่ยว มีการขยายตัวทั้ง 2 ฝั่งทะเล ทั้งด้านอันดามัน และอ่าวไทย ซึ่งแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติเดินทางแวะเวียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก
ปัจจุบัน สำนักงานสาขาสุราษฎร์ธานี อนุมัติค้ำประกันให้ SMEs จำนวน 6,700 ราย วงเงินค้ำประกัน 18,000 ล้านบาท ส่วนในปี 2555 ที่ผ่านมา มีเป้าหมายค้ำประกัน 3,900 ล้านบาท ผลการดำเนินงานอนุมัติค้ำประกัน SMEs จำนวน 1,548 ราย วงเงินค้ำฯ 5,023 ล้านบาท เกินเป้าหมาย 1,123 ล้านบาท เป็นลูกหนี้ NPL เพียง 1 ราย จำนวน 600,000 บาท คิดเป็น 0.01% สำหรับสิ้นเดือน เม.ย.2556 ปีนี้นั้นมียอดค้ำประกันแล้วกว่า 1,200 ล้านบาท
นายเทียบจิตต์ จันทรภูติผลากร ผู้จัดการบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) สำนักงานสาขาสุราษฎร์ธานี ดูแลรับผิดชอบผู้ประกอบการในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ได้แก่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.ระนอง จ.สุราษฎร์ธานี จ.กระบี่ จ.ภูเก็ต และ จ.พังงา เปิดเผยว่า การค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มปีนี้ของ บสย.สาขาสุราษฎร์ธานี มีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้น ภายใต้ยุทธศาสตร์เชิงรุกการเจาะกลุ่มลูกค้าแบบรายจังหวัด ควบคู่กับกิจกรรมการสร้างการรับรู้ บสย.
สำหรับปี 2556 นี้ตั้งเป้าวงเงินค้ำประกันเงินกู้ 6,000 ล้านบาท ขยายวงเงินค้ำประกันสินเชื่อเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 54 จากปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มธุรกิจหลักของสาขาสุราษฎร์ธานี 5 อันดับ ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน กลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ยาง กลุ่มอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหารทะเล กลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ และกลุ่มธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง ซึ่งส่วนใหญ่วงเงินค้ำประกันจะอยู่ที่ประมาณรายละ 3-5 ล้านบาท ร้อยละ 80-85 นอกจากนั้น วงเงินตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป
นายเทียบจิตต์ กล่าวอีกว่า สำหรับศักยภาพพื้นที่ของจังหวัดภาคใต้ตอนบนนั้น ธุรกิจอุตสาหกรรมด้านการเกษตร และธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและบริการ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นธุรกิจที่ บสย. ตั้งเป้าเข้าไปค้ำประกันสินเชื่อเป็นส่วนใหญ่ในปีนี้ เพราะพื้นที่ภาคใต้ตอนบนมีการลงทุนด้านท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมด้านเกษตรเป็นหลัก โดยเฉพาะการลงทุนด้านการท่องเที่ยว มีการขยายตัวทั้ง 2 ฝั่งทะเล ทั้งด้านอันดามัน และอ่าวไทย ซึ่งแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติเดินทางแวะเวียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก
ปัจจุบัน สำนักงานสาขาสุราษฎร์ธานี อนุมัติค้ำประกันให้ SMEs จำนวน 6,700 ราย วงเงินค้ำประกัน 18,000 ล้านบาท ส่วนในปี 2555 ที่ผ่านมา มีเป้าหมายค้ำประกัน 3,900 ล้านบาท ผลการดำเนินงานอนุมัติค้ำประกัน SMEs จำนวน 1,548 ราย วงเงินค้ำฯ 5,023 ล้านบาท เกินเป้าหมาย 1,123 ล้านบาท เป็นลูกหนี้ NPL เพียง 1 ราย จำนวน 600,000 บาท คิดเป็น 0.01% สำหรับสิ้นเดือน เม.ย.2556 ปีนี้นั้นมียอดค้ำประกันแล้วกว่า 1,200 ล้านบาท