นครศรีธรรมราช - ผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช เป็นประธานหาแนวทางแก้ไขปัญหากรณีการปิดคลังน้ำมัน ปตท. ปากพนัง ซึ่งส่งผลให้การขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังสถานีบริการของ ปตท.ในพื้นที่นครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียงลำบากมากยิ่งขึ้น ที่จะต้องขนส่งมาจาก จ.สุราษฎ์ธานี
วันนี้ (10 พ.ค.) นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยภายหลังการประชุมหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดถึงภาคเอกชน ในการหาแนวทางแก้ไขปัญหากรณีการปิดคลังน้ำมัน ปตท. ปากพนัง ซึ่งส่งผลให้การขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังสถานีบริการของ ปตท.ในพื้นที่นครศรีธรรมราช และใกล้เคียงลำบากมากยิ่งขึ้น ที่จะต้องขนส่งมาจาก จ.สุราษฎ์ธานี ดังนั้น จึงต้องระดมหาแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาเพื่อรองรับการกลับมาใช้คลังน้ำมันที่ อ.ปากพนัง เช่นเดิม เนื่องจากรอเพียงการกลับมาใช้ใหม่รวมทั้งเรือขนส่งน้ำมันเข้าเทียบท่าคลังน้ำมันของ ปตท.จะสามารถใช้การได้ทันที เพียงแค่ปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวอีกว่า มีปัญหาหลายอย่างที่เป็นอุปสรรค เช่น แนวร่องน้ำ แนวทางแก้ไขปัญหาร่องน้ำตื้นเขิน การกวดขัน จับกุม ป้องปรามการทำประมงที่ผิดกฎหมาย แนวทางการเปิดใช้ ปตท.ปากพนัง ซึ่งการจัดการเรื่องนี้ต้องใช้ทั้งหลักเมตตาธรรม และนิติธรรม ในส่วนของกรณีเรือโพงพางต้องจัดการให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ขณะที่ น.ส.วาริณ ชิณวงศ์ ประธานหอการค้า จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางหอการค้า จ.นครศรีธรรมราช ได้มีหนังสือแจ้งกระทรวงพลังงาน และ จ.นครศรีธรรมราช รวมทั้งประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ขอให้มีการพิจารณาเปิดใช้คลังน้ำมัน ปตท.ปากพนังเช่นเดิม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน ภาคธุรกิจ ภาคเอกชน โดยเฉพาะผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจของ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการต้องขนส่งน้ำมันจาก จ.สงขลา และสุราษฎร์ธานี ทำให้ต้นทุนสูง รวมทั้งทำให้งานล่าช้า และจากการผลักดันร่วมกันขณะนี้ถือว่าการทำงานประสบความสำเร็จระดับหนึ่งที่ ปตท.ทบทวนจะกลับมาเปิดคลังน้ำมัน ปตท.ปากพนัง จึงขอให้ภาครัฐ เอกชน และประชาชนร่วมมือกันเพื่อประโยชน์ของเศรษฐกิจ จ.นครศรีธรรมราช
ส่วนนายศักดา ประทีป ณ ถลาง ผู้จัดการส่วนขายภาคใต้ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า ปตท.มีความกังวงเรื่องของโพงพางเพราะไม่อยากมีปัญหากับประชาชน และชุมชน กรณีปัญหาร่องน้ำตื้นเขินหากมีการขุดร่องน้ำใหม่ให้ลึกกว่าเดิมก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะหากเรือขนส่งน้ำมันที่เข้าท่าเกิดได้รับความเสียหายน้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเลจะทำให้มีปัญหาสภาพแวดล้อมตามมาด้วย หลังจากได้รับทราบข้อมูลที่ได้รับจากความร่วมมือของหลายส่วนนี้ จะนำไปรายงานยังผู้บริหารให้รับทราบเพื่อทบทวนการเปิดใช้คลังน้ำมัน ปตท.ปากพนัง อีกครั้ง
ด้านนายชนะ ดำมี ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในเรื่องของการแก้ไขปัญหาเรื่องร่องน้ำ ในปีงบประมาณ 2557 อธิบดีกรมเจ้าท่า ได้ตั้งงบประมาณไว้ 72 ล้านบาท ในการขุดร่องน้ำ และจะมีการประกันร่องขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่องจากเดิมกำหนดขุดร่องน้ำ 5-6 เมตร
ทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ประสงค์ให้เพิ่มเป็น 7 เมตร ซึ่งจะนำเสนอกรมเจ้าท่าพิจารณาอีกครั้ง นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยังให้ขุดคลองซอยต่างๆ เพื่อให้น้ำไหลลงแม่น้ำปากพนังต่อไป ส่วนปัญหาอุปสรรคที่อาจเกิดจากประชาชนสร้างเครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย ซึ่งทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก้ไขอยู่คาดว่าจะสำเร็จลุล่วงด้วยดี
