xs
xsm
sm
md
lg

เร่งกำจัดน้ำมันเตาหลังเรือจมในคลองท่าจีนภูเก็ต เชื่อไม่กระทบวงกว้าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อธิบดีกรมเจ้าท่าสั่งเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 เร่งกำจัดคราบน้ำมัน หลังเกิดเหตุเรือบรรทุกน้ำมันจมกลางคลองท่าจีน จ.ภูเก็ต ทำน้ำมันไหลลงทะเล ปตท. ทหารเรือ ตำรวจน้ำ ร่วม คาดใช้เวลากำจัดไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ขณะที่เจ้าหน้าที่ทราบตัวเจ้าของเรือแล้ว

จากกรณีเรือบรรทุกน้ำมันเตากว่า 20,000 ลิตร ประสบเหตุจมบริเวณปากคลอกท่าจีน ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ใกล้กับคานเรือเอเชียนภูเก็ตมาริน แอนด์ ด็อทยาท และมีน้ำมันเตา ซึ่งบรรทุกอยู่ในเรือลำดังกล่าวรั่วไหลลงทะเลจำนวนมาก ในช่วงเช้าวันนี้ (22 มี.ค.) ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 นำโดย นายวิชัย คำคง ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 นายภูริพัฒน์ ธีรกุลพิสุทธิ์ เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต พ.ต.ท.ฉัตรชัย ศักดิ์ดี สารวัตรตำรวจน้ำภูเก็ต พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สารวัตรทำหน้าที่ปราบปรามทางน้ำ 3 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำภูเก็ต นายมั่น อะนะฝรั่ง พนักงานปฏิบัติเจ้าหน้าที่จาก ปตท.ภูเก็ต ร.อ.ไพทูลย์ ธิวากุล รอง ผบ.กองร้อยทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมกันนำบูมมาวางล้อมคราบน้ำมันเพื่อให้อยู่ในจุด ก่อนที่จะใช้สารเคมีฉีดสลายคราบน้ำมันที่ไหลลงทะเลดังกล่าว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ

นายวิชัย คำคง ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งจากทางตำรวจน้ำว่า มีน้ำมันรั่วไหลออกจากเรือซึ่งจมอยู่ในคลองท่าจีน ก็ได้รายงานให้อธิบดีกรมเจ้าท่าทราบ ซึ่งทางอธิบดีก็ได้สั่งการให้เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 เร่งกำจัดคราบน้ำมันอย่างเร่งด่วน โดยประสานขอความร่วมมือจาก ปตท. ทัพเรือภาคที่ 3 ตำรวจน้ำ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่จาก ปตท.ภูเก็ต ได้นำบูมขนาดยาว 200 เมตร มาล้อมรอบเรือลำที่เกิดเหตุ ในรัศมีความกว้างประมาณ 100 เมตร และใช้น้ำยาขจัดคราบน้ำมันฉีดลงไปยังคราบน้ำมันที่ลอยอยู่ในน้ำเพื่อให้สลายตัว

ซึ่งจากการดำเนินการคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และมั่นใจว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ประกอบกับจุดที่เกิดเหตุเข้ามาอยู่บริเวณคลองด้านใน และเป็นช่วงที่น้ำกำลังขึ้น และน้ำนิ่งพอดี ทำให้ไม่มีคราบน้ำมันไหลออกไปกลางทะเล ซึ่งง่ายต่อการกำจัดคราบน้ำมันที่ไหลออกจากเรือ ส่วนน้ำมันในเรือนั้นขณะนี้ดูดขึ้นมาเก็บไว้ในถังหมดแล้ว สำหรับระยะเวลาในการกำจัดคราบน้ำมันนั้นคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง

ขณะที่นายมั่น อะนะฝรั่ง พนักงานปฏิบัติเจ้าหน้าที่จาก ปตท.ภูเก็ต กล่าวถึงการกำจัดคราบน้ำมันที่ไหลออกจากเรือว่า การกำจัดคราบน้ำมันนั้นขึ้นอยู่กับกำลังคน ซึ่งขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากกำลังทหาร ตำรวจน้ำมาช่วยหลายนายซึ่งจะทำให้สามารถขจัดคราบน้ำมันได้เร็วขึ้น ส่วนเรื่องของผลกระทบนั้นเชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบในวงกว้าง เนื่องจากช่วงที่เกิดเหตุการณ์เป็นช่วงน้ำนิ่ง ทำให้น้ำมันที่ไหลออกจากเรือกระจายไปไม่ไกล และอยู่ในพื้นที่แคบๆ ซึ่งหลังจากที่ใช้บูมล้อมคราบน้ำมัน และใช้น้ำยาฉีดแล้วก็จะต้องทำการเก็บเศษน้ำมันที่ค้างอยู่ในบูม โดยขณะนี้กำลังดูว่าจะนำไปใช้งานต่อ หรือทำลายทิ้ง

ขณะที่ พ.ต.ท.ฉัตรชัย ศักดิ์ดี สารวัตรตำรวจน้ำภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับเรือลำที่เกิดเหตุจดทะเบียนชื่อ เปรมิกา เป็นเรือบรรทุก ซึ่งขณะนี้ยังหาตัวเจ้าของเรือไม่พบ โดยทางเจ้าหน้าที่จะติดตามสืบสวนต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นพบว่า เรือลำดังกล่าวเคยถูกจับกุมคดีบรรทุกน้ำมันเตาเถื่อนมาแล้ว 2 ครั้งในปี 2554 โดยถูกจับที่ท่าเทียบเรือน้ำลึกทั้ง 2 ครั้ง ครั้งแรกมีน้ำมันเตา จำนวน 20,000 ลิตร และครั้งที่ 2 จำนวน 40,000 ลิตร
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น