ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - รพ.ชุมชน 7 จังหวัดใต้ล่าง แต่งชุดดำต้าน P4P พร้อมยื่นข้อเรียกร้องเสนอทางออกใช้ค่าตอบแทนแบบ “1 กระทรวง 2 ระบบ” จวก “ประดิษฐ” รมว.สาธารณสุข ปอดแหกไม่มาดูให้เห็นกับตาว่ามีผู้คัดค้านจริงจัง ลั่นพร้อมรวมตัวกับ รพ.ชุมชนทั่วประเทศไล่ “ประดิษฐ” ออกจากตำแหน่งหากยังดื้อใช้ P4P
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 พ.ค.) ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จ.สงขลา ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขจัดประชุมเพื่อชี้แจงนโยบายการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน “P4P” หรือ Pay for Performance แก่บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐทั้ง 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ จ.ตรัง จ.สตูล จ.พัทลุง จ.สงขลา จ.ยะลา จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาส อยู่ภายในศูนย์ประชุมฯ ปรากฏว่า ที่หน้าศูนย์ประชุมฯ มีบุคลากรด้านการแพทย์ในโรงพยาบาลชุม 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ลงมติไม่เข้ารับฟังการชี้แจงดังกล่าว พร้อมกับแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำเพื่อเป็นการประท้วงคัดค้านนโยบาย P4P ที่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา
นพ.สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินีนาถ อ.นาทวี จ.สงขลา กล่าวว่า การบังคับใช้นโยบาย P4P ซึ่งเป็นการจดบันทึกภาระงานนับคะแนนเป็นแต้มแลกกับค่าตอบแทน จะทำให้วัฒนธรรมการทำงานในโรงพยาบาลเปลี่ยนไป จากการทำงานเป็นทีม และดูแลผู้ป่วยด้วยจรรยาบรรณ และจิตใจอยากช่วยเหลือ มาเป็นการทำงานเก็บแต้มเพื่อแลกเงิน ซึ่งไม่สอดคล้องกับโรงพยาบาลชุมชน งานหลายอย่างเป็นงานเชิงคุณภาพ เช่น การเยี่ยมบ้าน การผ่าตัด ก็จะยิ่งเป็นปัญหาถ้าหากมีการลดทอนคุณค่ามาเป็นแต้ม เมื่อกระทรวงสาธารณสุขยืนยันจะดัน P4P และมาออกโรงชี้แจงในวันนี้ โรงพยาบาลชุมชนจึงต้องแสดงอารยะขัดขืน ให้รัฐมนตรีรู้ว่าเราไม่เอา P4P ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะชี้แจงอย่างไรก็เป็นการฉายหนังม้วนเก่า เราขอยืนยันว่าไม่ทำ P4P
สอดคล้องกับ นพ.สมชาย ศรีสมบัณฑิต ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลตากใบ จ.นราธิวาส ที่ให้ความเห็นว่า นอกจากหลักการของ P4P จะเป็นปัญหาในการนำมาใช้เกี่ยวกับงานระบบสุขภาพแล้ว ในรายละเอียดของประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 8, 9 ว่าด้วยการดำเนินการการจ่ายเงินค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานก็มีปัญหามาก เช่น กลุ่มพ่อบ้าน หรือฝ่ายบริหารทั้งหมดจะถูกตัดเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายทั้งหมด กลุ่มพยาบาลที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซึ่งอยู่ในพื้นที่ปลายสุดของการให้บริการควรจะมีแรงจูงใจสูงให้ไปอยู่ที่นั่น แต่กลับถูกลดเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย จาก 3,000 บาท ลดเหลือ 1,800 บาท และเมื่อนำค่าตอบแทนมาเทียบเป็นรายวิชาชีพแล้วพบว่า คนที่ทำงานในโรงพยาบาลจังหวัดจะได้ค่าตอบแทนมากกว่าคนที่ทำงานในโรงพยาบาลชุมชน และ รพ.สต. ซึ่งผิดหลักการอย่างยิ่ง กระทรวงสาธารณสุขเคยมีจุดยืนเพื่อจูงใจให้คนไปทำงานในชนบท แต่ปัจจุบันกลับทำตรงกันข้าม
ด้าน นพ.รอซาลี ปัตยบุตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามัน อ.รามัน จ.ยะลา กล่าวว่า ตนรู้สึกผิดหวังที่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปอดแหกเปลี่ยนใจไม่มาชี้แจงตามกำหนดการในวันนี้ แต่ส่ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธรณสุข มาแทน หาก นพ.ประดิษฐ มาเองจะได้เห็นว่ามีการคัดค้านอย่างกว้างขวาง และจริงจังซึ่งเป็นเช่นนี้ทั่วประเทศ ทั้งนี้ นโยบายที่ผิดพลาดจะมีผลเสียมากกว่าผลดี ซึ่งหลังจากการประกาศใช้ P4P ผ่านมา 1 เดือนแล้ว ก็ยังไม่มีใครร่วม หากกระทรวงไม่รู้จักถอยจะมีแต่ความแตกแยกและชะงักงัน โรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศจะคัดค้านจนถึงที่สุด ถ้าเราไม่ทำ P4P เสียอย่าง กระทรวงจะทำอะไรได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็ยังยืนยันที่จะดูแลผู้ป่วย และทำหน้าที่ตามวิชาชีพอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา กล่าวว่า เราขอเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขใช้ระบบ “1 กระทรวง 2 ระบบ” คือ โรงพยาบาลจังหวัดก็ใช้ P4P ไป ส่วนโรงพยาบาลชุมชนก็ใช้ระบบเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายเหมือนเดิม ซึ่งระบบเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายนี้บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2550 บุคลากรทุกคนก็ทำงานอย่างมีความสุข แต่ถ้านำระบบ P4P มาใช้ในโรงพยาบาลชุมชนปัญหาใหญ่ที่จะตามมาในอนาคตคือ ขาดแคลนบุคลากรด้านการแพทย์ที่จะปฏิบัติงานในชนบท มีการวิเคราะห์และว่า P4P จะทำให้บุคลากรด้านการแพทย์ไหลเข้าสู่โรงพยาบาลในเมืองมากขึ้น เพราะอยู่ในเมืองก็เก็บแต้มได้ อยู่ชนบทก็เก็บแต้มได้
และพร้อมกันนี้ ได้มีการยื่นหนังสือเรียกร้องให้แก่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธรณสุข เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้าน P4P โดยระบุรายละเอียด ดังนี้
1.สืบเนื่องจาก นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปฏิเสธการชี้แจง 2 ฝ่ายแบบไม่เผชิญหน้ากัน และใช้อำนาจความเป็นรัฐมนตรีเกณฑ์โรงพยาบาลรัฐ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลมาฟังการชี้แจงนโยบาย ซึ่งเป็นการพูดเพียงฝ่ายเดียว เครือข่ายโรงพยาบาลชุมชน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ จ.ตรัง จ.สตูล จ.พัทลุง จ.สงขลา จ.ยะลา จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาส จึงลงมติไม่เข้าร่วมรับฟังการชี้แจงนโยบาย P4P ของกระทรวงสาธารณสุข เพราะจะทำให้มีการแอบอ้างว่าการเข้าร่วมดังกล่าวหมายถึงการยอมรับ P4P อันเป็นนโยบายที่จะทำลายวัฒนธรรมการทำงานเป็นทีม และดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจแห่งความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่การทำงานล่าแต้ม
2.เครือข่ายโรงพยาบาลชุมชน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ขอสนับสนุนจุดยืนของชมรมแพทย์ชนบทให้กระทรวงสาธารณสุขใช้ระบบ “1 กระทรวง 2 ระบบ” กล่าวคือ โรงพยาบาลทั่วไปใช้ระบบค่าตอบแทนตามภาระ (P4P) และโรงพยาบาลชุมชนกลับไปใช้ระบบเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายเหมือนเดิม
พร้อมกันนี้ ขอให้กระทรวงสาธารณสุขคืนประกาศฉบับที่ 4 และ 6 นำกลับมาใช่เช่นเดิมทั้งฉบับ กล่าวคือ คงเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายของแพทย์ และทันตแพทย์ในอัตราเดิม และคงอัตราสำหรับบุคลากรที่มีอายุงานเกิน 21 ปีไว้เช่นเดิม
และเพื่อลดความแตกต่างของค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายระหว่างวิชาชีพ ควรให้มีการเพิ่มเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายสำหรับวิชาชีพเภสัชกร พยาบาล และวิชาชีพสุขภาพอื่นๆ ด้วย รวมทั้งวิชาชีพสาย Back office หรือสายบริหาร
3.เครือข่ายโรงพยาบาลชุมชน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ขอยืนกรานว่า หาก นพ.ประดิษฐ ยังดื้อรั้นเดินหน้าใช้ระบบ P4P ต่อไป โรงพยาบาลชุมชนใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างจะร่วมกับโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ ไล่ นพ.ประดิษฐ ออกจากการเป็นรัฐมนตรีให้จงได้
ทั้งนี้ มีรายงานว่า หลังจาก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รับหนังสือเรียกร้องดังกล่าว ได้กล่าวว่า “เข้าใจน้องๆ ทุกคนดี และเห็นด้วยกับแนวทางที่น้องๆ นำเสนอ คือ “1 กระทรวง 2 ระบบ” พร้อมกันนี้ เครือข่ายโรงพยาบาลชุมชน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ระบุว่า หากกระทรวงสาธารสุขไม่ทำตามข้อเรียกร้องนี้ภายใน 7 วัน จะเดินหน้าคัดค้านอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
และในระหว่างการรวมตัวค้านของเครือข่ายโรงพยาบาลชุมชน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเข้าร่วมการประชุมชี้แจงนโยบาย P4P ภายในศูนย์ประชุมได้เดินมาพบปะกับเครือข่ายโรงพยาบาลชุมชนกลุ่มผู้คัดค้านนโยบาย P4P ด้วย