ผู้แทนภาคประชาชนบอร์ด สปสช.จับมือ ผอ.โรงพยาบาล ยื่นฟ้องศาลอาญา ศาลปกครอง และ สตง.อ้าง “หมอประดิษฐ” บีบบอร์ดเสนอ ครม.มีมติใช้เงินกองทุน สปสช.สำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินให้ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และประกันสังคม ผิดกม.หลักประกันสุขภาพ
วันนี้ (1 พ.ค.) น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ผู้แทนภาคประชาชนด้านเกษตรกรในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวว่า ขณะนี้ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ใช้อำนาจสั่งเปลี่ยนแปลงวันประชุมบอร์ด สั่งบรรจุวาระการประชุมบอร์ด และใช้บอร์ดเป็นตรายางออกมติที่ตัวเองต้องการหรือรับใบสั่งมา ทำให้บอร์ด สปสช. กลายเป็นบอร์ดส่วนตัวของรัฐมนตรี ทำให้บอร์ด สปสช.หลายคน ผู้ป่วย และโรงพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพ เริ่มไม่พอใจต่อ นพ.ประดิษฐ
“อย่างล่าสุดสั่งให้มีมติบอร์ด และเสนอ ครม.ให้เอาเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพไปใช้สำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และประกันสังคม ทั้งที่หน่วยงานที่รับผิดชอบยังไม่มีระเบียบรองรับการจ่ายเงินคืนให้ สปสช.ทำให้ที่ผ่านมาใช้เงิน สปสช.ไปกว่า 300 ล้านบาท ยังไม่สามารถเรียกเงินคืนได้ หรือมีคำตอบว่าจะได้เงินคืนเมื่อไหร่ และจะต้องใช้เงิน สปสช.สำรองจ่ายต่อไปอีกกี่ร้อย กี่พันล้านบาท เป็นการออกมติผิดกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มาตรา 38 โรงพยาบาลในชนบทได้รับงบประมาณน้อยลง หรือช้าลง กระทบการจัดบริการผู้ป่วยระบบ สปสช.เครือข่ายภาคประชาชนจึงต้องจับมือเครือข่ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบยื่นฟ้องต่อศาลอาญา ศาลปกครอง และ สตง.เร็วๆ นี้” น.ส.บุญยืน กล่าว
ด้าน นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการ รพ.จะนะ จ.สงขลา กล่าวว่า รมว.สาธารณสุข ได้ใช้อำนาจเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จงใจทำผิดกฎหมายด้วยการใช้เงินกองทุน สปสช.ไปอุ้มข้าราชการและคนรวย ทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพและระบบสาธารณสุขของรัฐปั่นป่วน อ่อนแอลง และมีแนวโน้มว่าเงินชดเชยให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ในชนบทจะไม่พอ ทำให้ผู้ป่วยเดือดร้อน ในฐานะที่โรงพยาบาลมีส่วนได้เสียและรับผลกระทบโดยตรง เครือข่ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะร่วมกับเครือข่ายผู้ป่วยและภาคประชาชน มอบหมายให้ทนายความยื่นเรื่องฟ้องเอาผิดทางอาญา ทางปกครอง และทางวินัย กับนายกรัฐมนตรี ที่ต้องรับผิดชอบต่อมติ ครม.และฟ้องเอาผิดกับ รมว.สาธารณสุข ที่ต้องรับผิดชอบต่อการออกมติบอร์ด สปสช.ที่ผิดกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
“นอกจากทำผิดกฎหมาย ใช้เงินผิดประเภท ผิดกองทุนแล้ว ขณะนี้มีข่าวในพื้นที่ว่ามีการวางธงที่จะย้ายผู้อำนวยการ รพ.ชุมชนบางคนที่คัดค้านการใช้อำนาจออกนโยบายทับซ้อน เอื้อประโยชน์ธุรกิจเอกชน โดยเตรียมการที่จะเคลื่อนไหว อสม.ออกมาให้กำลังใจสนับสนุนการจัดซื้อเครื่องวัดน้ำตาลในเลือดแบบพกพาที่ชมรมแพทย์ชนบทเปิดโปงว่าตั้งราคาสูงกว่าองค์การเภสัชกรรมขายในท้องตลาดหลายเท่าตัว และจะมี อสม.ออกมาคัดค้านต่อต้านการตรวจสอบทุจริตของ รพ.ชุมชน เป็นการสุมไฟให้เกิดความขัดแย้งในการทำงานเชิงรุกในพื้นที่ เสี่ยงกับการทำลายระบบควบคุมป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุข ทุ่มเทสร้างกันมายาวนาน ที่เน้นการทำงานร่วมระหว่าง รพ.ชุมชน รพ.สต. อสม.และ ท้องถิ่น” ผอ.รพ.จะนะ กล่าว
ด้าน นายระวัย ภู่ผะกา ประธานสหภาพแรงงานฯ อภ.กล่าวว่า สหภาพฯไม่ได้คัดค้านกระบวนการตรวจสอบความโปร่งใสของ อภ.แต่อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องคำนึงถึงภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของ อภ.เสมอ