ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ต ตั้งคณะทำงาน 2 ชุด ออกตรวจสอบ และปราบปรามไกด์เถื่อนชาวต่างชาติที่เข้ามาแย่งอาชีพคนไทย หลังไกด์จีนชาวไทยยืนหนังสือถึงจังหวัดภูเก็ต ให้ดำเนินการจับกุมไกด์ต่างชาติ เผยจับกุมมาแล้วกว่า 10 ราย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (9 พ.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาไกด์เถื่อน โดยมี พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น จัดหางาน ทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ตำรวจท่องเที่ยว ททท. ด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต เข้าร่วม
นายสมเกียรติ กล่าวว่า จากการที่มีผู้ประกอบอาชีพไกด์ได้มายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา ให้มีการดำเนินการกรณีชาวต่างชาติที่มาประกอบอาชีพไกด์นำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยขอให้ทางจังหวัดดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้ชาวต่างชาติมาแย่งอาชีพของผู้ประกอบอาชีพไกด์ชาวไทยนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ โดยมอบหมายให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ดำเนินการ ซึ่งในวันนี้ (9 พ.ค.) ได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าว
โดยทางจังหวัดจะได้มีการจัดตั้งชุดปฏิบัติการขึ้น จำนวน 2 ชุด เพื่อดำเนินการตรวจสอบ และปราบปรามผู้ที่กระทำความผิดในเรื่องดังกล่าว ซึ่งชุดปฏิบัติการดังกล่าวประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกส่วนราชการสนธิกำลังกัน และจะลงพื้นที่เพื่อดำเนินการทั้งด้านการป้องกัน และปราบปรามไกด์ชาวต่างชาติที่ไม่มีใบอนุญาตอย่างเข้มงวด ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ โดยจะมีการประชุมชุดปฏิบัติการดังกล่าวอีกครั้งหนึ่งก่อนลงพื้นที่ปฏิบัติงาน แต่ทั้งนี้หลังจากมีการยื่นหนังสือ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่รับผิดชอบได้มีการตรวจสอบจับกุมไกด์ชาวต่างชาติได้ผู้ต้องหากว่า 10 คนแล้ว
นายสมเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางจังหวัดขอให้ผู้ที่ทราบข้อมูลของการประกอบอาชีพไกด์ของชาวต่างชาติที่ผิดกฎหมายทั้งตัวจริง และนอมินีต่างๆ รวมทั้งบริษัทที่เปิดโดยใช้นอมินีชาวไทยบังหน้า มาให้ทางจังหวัดทราบ โดยให้ส่งข้อมูลมายังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตรวจสอบ และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป
