นราธิวาส - ประธานกลุ่มปักจักรบ้านบอเกาะ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เรียกร้อง ผบ.ทบ.ขอให้น้อมนำกระแสพระราชดำรัส “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาใช้แก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
วันนี้ (8 พ.ค.) นางจันทรา ลีมิง ประธานกลุ่มปักจักรบ้านบอเกาะ อ.สุไหงปาดี กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก จะเดินทางลงพื้นที่มาพบปะกับประชาชนในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี และติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากที่ผ่านมา ประชาชนต้องประสบกับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งตนเองในฐานะที่เป็นคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็อยากฝากให้ผู้บัญชาการทหารบกดำเนินการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างจริงจัง
เพื่อนำความสันติสุขกลับคืนสู่พื้นที่โดยเร็วที่สุด ส่วนการปฏิบัติงานของหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงในขณะนี้ คิดว่ามาถูกทางแล้ว เพราะมีการลงพื้นที่ไปคลุกคลีกับประชาชน มีการทำงานแบบมวลชนสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านลดความหวาดระแวง และหันมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่มากขึ้น ดังนั้น จึงขอให้มีการน้อมนำกระแสพระราชดำรัส “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาใช้ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องต่อไป เพราะเป็นแนวทางสำคัญที่จะสร้างความเข้าใจ ลดความขัดแย้ง และสร้างความสมานฉันท์ระหว่างเจ้าหน้ารัฐ และประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม
ส่วนกรณีที่คนร้ายมักแต่งกายเลียนแบบทหารเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นางจันทรา ระบุว่า ในอดีตประชาชนอาจมีความสับสน และมีข้อสงสัยว่าเจ้าหน้าที่เป็นผู้กระทำเองจริงหรือไม่ แต่ปัจจุบันนี้จากการพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ก็มีการแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ชุดเลียนแบบเครื่องแต่งกายทหารที่คนร้ายมีการสวมใส่เพื่อหวังโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป อีกทั้งในหลายคดีสามารถจับตัวคนร้าย และยึดของกลางเหล่านี้มาได้
จึงทำให้ประชาชนมีความเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่า ไม่ได้เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการสับเปลี่ยนกำลังพลเข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่อยากขอให้มีความเข้าใจ และให้เกียรติแก่ประชาชนและพื้นที่อย่างที่ถือปฏิบัติอยู่นี้ตลอดไป พร้อมทั้งควรหมั่นลงไปพบปะประชาชนอย่างต่อเนื่องเพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ ขอเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละลงมาปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกคนจะปลอดภัยและแคล้วคลาดจากอันตรายที่เกิดจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
วันนี้ (8 พ.ค.) นางจันทรา ลีมิง ประธานกลุ่มปักจักรบ้านบอเกาะ อ.สุไหงปาดี กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก จะเดินทางลงพื้นที่มาพบปะกับประชาชนในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี และติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากที่ผ่านมา ประชาชนต้องประสบกับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งตนเองในฐานะที่เป็นคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็อยากฝากให้ผู้บัญชาการทหารบกดำเนินการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างจริงจัง
เพื่อนำความสันติสุขกลับคืนสู่พื้นที่โดยเร็วที่สุด ส่วนการปฏิบัติงานของหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงในขณะนี้ คิดว่ามาถูกทางแล้ว เพราะมีการลงพื้นที่ไปคลุกคลีกับประชาชน มีการทำงานแบบมวลชนสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านลดความหวาดระแวง และหันมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่มากขึ้น ดังนั้น จึงขอให้มีการน้อมนำกระแสพระราชดำรัส “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาใช้ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องต่อไป เพราะเป็นแนวทางสำคัญที่จะสร้างความเข้าใจ ลดความขัดแย้ง และสร้างความสมานฉันท์ระหว่างเจ้าหน้ารัฐ และประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม
ส่วนกรณีที่คนร้ายมักแต่งกายเลียนแบบทหารเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นางจันทรา ระบุว่า ในอดีตประชาชนอาจมีความสับสน และมีข้อสงสัยว่าเจ้าหน้าที่เป็นผู้กระทำเองจริงหรือไม่ แต่ปัจจุบันนี้จากการพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ก็มีการแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ชุดเลียนแบบเครื่องแต่งกายทหารที่คนร้ายมีการสวมใส่เพื่อหวังโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป อีกทั้งในหลายคดีสามารถจับตัวคนร้าย และยึดของกลางเหล่านี้มาได้
จึงทำให้ประชาชนมีความเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่า ไม่ได้เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการสับเปลี่ยนกำลังพลเข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่อยากขอให้มีความเข้าใจ และให้เกียรติแก่ประชาชนและพื้นที่อย่างที่ถือปฏิบัติอยู่นี้ตลอดไป พร้อมทั้งควรหมั่นลงไปพบปะประชาชนอย่างต่อเนื่องเพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ ขอเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละลงมาปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกคนจะปลอดภัยและแคล้วคลาดจากอันตรายที่เกิดจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
