ชุมพร - ผู้ใหญ่บ้านนักอนุรักษ์แจ้งเจ้าหน้าที่บุกจับแก๊งตัดไม้ “ป่าต้นน้ำสวี” หลังลักลอบตัดไม้ พร้อมแปรรูป ได้ผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลางจำนวนมาก สารภาพตัดขายตามออเดอร์ให้นายทุนใหญ่เมืองชุมพร
เมื่อเวลา 05.00 น. วันนี้ (2 พ.ค.) นายบัญชา ขาวศิริ หัวหน้าสายตรวจป่าไม้ชุมพร นายอรัญ ทันการ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ชพ.12 นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจาก นายสุนทร คงทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 ต.เขาค่าย อ.สวี ว่า มีแก๊งลักลอบตัดไม้ทำลายป่ากำลังเลื่อยไม้อยู่กลางป่าสงวนพื้นที่หมู่ที่ 12 ต.เขาค่าย อ.สวี จึงระดมกำลังหน่วยพิทักษ์ป่าประมาณ 20 นาย พร้อมด้วยอาวุธครบมือเดินทางด้วยรถขับเคลื่อนสี่ล้อ จากนั้นจึงเดินเท้าเข้าไปยังจุดที่รับแจ้ง
ที่เกิดเหตุเป็นป่าภูเขาต้นน้ำเขตพื้นที่ป่าสวี ก่อนถึงจุดที่มีการตัดไม้ เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงเลื่อยยนต์แต่เสียงดังไม่แรงมากนักเป็นระยะๆ จึงสั่งการให้กระจายกำลังเข้ารายล้อมพื้นที่ดังกล่าว และพบว่า มีกลุ่มแก๊งลักลอบตัดไม้จำนวนหลายคนกำลังใช้เลื่อยยนต์ตัดท่อนไม้ซุงขนาดใหญ่ และแปรรูปไว้จำนวนมาก จึงแสดงตนบุกเข้าจับกุม แต่กลุ่มคนร้ายไม่เกรงกลัวได้ขัดขืน และพากันวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าลึกคนละทิศละทาง ประกอบกับเจ้าหน้าที่ไม่กล้าใช้อาวุธยิง เพราะเกรงว่าจะเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ แต่ในที่สุดก็สามารถไล่จับได้ 1 คน ทราบชื่อ นายพนอม ภาชื่น อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/23 หมู่ที่ 12 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร จึงนำของกลางลงมาไว้ที่ทำการหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ.12 นาสัก
ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า มีไม้ซุงขนาดใหญ่ที่เป็นลำต้นยาว และตัดเป็นท่อนๆ ประเภท ไม้ตะเคียน ไม้ตะเคียนทอง ไม้เคี่ยม ไม้เขียวไข่กา และไม้อื่นๆ จำนวนหนึ่งกองกระจัดกระจายอยู่หลายจุดนับร้อยท่อน นอกจากนั้น ยังมีไม้ที่แปรรูปแล้วอีกจำนวน 120 แผ่น และเลื่อยยนต์ยี่ห้อสติล พร้อมบาร์ขนาด 36 นิ้ว โซ่เลื่อยยนต์ 1 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ป้องกันเสียงดัง 1 ชุด ตรวจสอบบริเวณพื้นที่ป่ามีการตัดโค่นต้นไม้ใหญ่เป็นจุดๆ กินบริเวณกว่าเกือบ 100 ไร่ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายพนอม พร้อมของกลางทั้งหมดไปสอบสวนขยายผลที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ชพ.12 นาสัก อ.สวี
จากการสอบสวน นายพนอม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตัดไม้เพื่อส่งไปขายตามออเดอร์ให้แก่ชาวบ้านที่มีฐานะที่ต้องการซื้อไม้ไปสร้างที่อยู่อาศัย และให้แก่นายทุนใหญ่คนหนึ่งในพื้นที่เมืองชุมพร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายขบวนการตัดไม้ทำลายป่าซึ่งถือเป็นขบวนการใหญ่กลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายอรัญ ทันการ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ชพ.12 นาสัก กล่าวว่าหลังได้รับแจ้งจาก นายสุนทร คงทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 ต.เขาค่าย อ.สวี ซึ่งเป็นนักอนุรักษ์ นักต่อสู้เรื่องการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ ว่า แก๊งดังกล่าวลักลอบตัดไม้มานานทำกันเป็นขบวนการ ทั้งเลื่อยไม้ และแปรรูปในพื้นที่ โดยทำเป็นขบวนการ จะลักลอบตัดโค่น และแปรรูปในเวลากลางคืน ซึ่งจะใช้วิธีมีการดัดแปลงเลื่อยยนต์ให้สามารถเก็บเสียงไม่ให้ดัง เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่รู้ว่ามีการตัดโค่นและแปรรูปไม้ในพื้นที่ดังกล่าว
นายอรัญ กล่าวต่อว่า จากปัญหาการลักลอบตัดโค่นไม้ในพื้นที่ดังกล่าว ขบวนการเหล่านี้จะใช้วิธีการต่างๆ นานาเพื่อหลบเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นป่าต้นน้ำลำธาร นอกจากนั้น ที่ผ่านมาสาเหตุจากการตัดไม้ทำลายป่าได้ส่งผลให้เมื่อเกิดฝนตกหนักจะเกิดน้ำป่าไหลหลาก ภูเขาถล่มโดยเฉพาะถนนสายหลักสายเอเชีย 41 ซึ่งเป็นสายหลักทางภาคใต้ถูกน้ำป่าซัดตัดขาดทุกปี
