ปัตตานี - เร่งสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ยิงเหี้ยม 6 ศพ เพื่อหารูปพรรณสัณฐานคนร้าย เผยพบปลอกกระสุนอาวุธสงครามในที่เกิดเหตุกว่า 100 ปลอก ทั้งอาก้า เอ็ม 16 และเอชเค ด้าน ผบก.สั่งสนธิกำลัง 3 ฝ่ายไล่ล่า เชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุยังกบดานในพื้นที่โดยมีแนวร่วมให้ความช่วยเหลือ
จากเหตุคนร้าย 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงร้านขายของชำ เลขที่ 17/12 ม.5 บ้านโคกม่วง ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี จนมีชาวบ้านเสียชีวิต 6 ศพ 1 ในนั้นเป็นเด็กชายวัย 3 ขวบ ซึ่งคนร้ายได้เดินลงจากรถมาจอยิงอย่างโหดเหี้ยมพร้อมผู้เป็นพ่อ เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับความคืบหน้าคดีล่าสุด วันนี้ (2 พ.ค.) พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้เร่งให้ชุดสืบสวนสอบสวนนำชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์มาให้ข้อมูลรูปพรรณของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ พร้อมไปกับให้ชุดตรวจพิสูจน์หลักฐานเร่งเก็บดีเอ็นเอจากวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะจากปลอกกระสุนอาวุธปืนสงครามที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบหาความเชื่อมโยงกับหลักฐานการใช้อาวุธปืนที่ผ่านมาว่ามีความเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ใดบ้าง ทั้งนี้ เพื่อให้ง่ายต่อการระบุถึงกลุ่มก่อเหตุ ซึ่งปลอกกระสุนที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุพบว่า มาจากอาวุธปืนสงคราม 3 ชนิด ประกอบด้วย อาวุธปืนเอ็ม 16 ปืนอาก้า และปืนเอชเค รวม 114 ปลอก นอกจากนี้ ยังกำชับให้ชุดสืบสวนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทุกตัวอย่างละเอียด
ขณะที่ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี สั่งการให้สนธิกำลังร่วม 3 ฝ่าย เพื่อออกติดตามไล่ล่าหากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมในครั้งนี้ ด้วยการออกปิดล้อมตรวจคนพื้นที่เป้าหมายหลายจุด ทั้งในเขต อ.เมือง อ.หนองจิก อ.ยะหริ่ง และ อ.ยะรัง ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อกับ อ.เมือง ที่เป็นจุดเกิดเหตุ โดยเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายทั้งหมดจะยังคงหลบซอนตัว และได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นสร้างความสะเทือนใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากคนร้ายก่อเหตุอุกอาจ และโหดเหี้ยม ไม่เว้นแม้แต่เด็กวัย 3 ขวบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อออกหมายจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
ด้านชุดสืบสวนสอบสวน ระบุว่า กลุ่มที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มเดิมที่เคยก่อเหตุในลักษณ์นี้ในพื้นที่ แต่ยังไม่ฟันธงว่าจะเป็นกลุ่มของนายมะซอเร ดือรามะ และนายสักการียา โต๊ะตาหยง ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่ม RKK รับผิดชอบในเขต อ.เมืองปัตตานี เพราะอาจจะเป็นชุดแนวร่วมชุดใหม่ที่เพิ่งได้รับการฝึก เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีรายงานจากหน่วยความมั่นคงว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจากหลายกลุ่มได้มีการวางแผนเพื่อเตรียมก่อเหตุด้วยการลอบวางระเบิดที่ประกอบเสร็จแล้วในรถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน โดยมุ่งก่อเหตุในเขต อ.เมืองปัตตานี แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้มีการตรึงกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทำให้กลุ่มคนร้ายปรับเปลี่ยนแผนก่อเหตุต่อประชาชน พร้อมทั้งได้ทิ้งใบปลิวไว้เพื่อแสดงศักยภาพว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงเคลื่อนไหว และก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง